จากกรณีที่ น.ส.พิมพ์พลอยรัตน์ เกษร อายุ 43 ปี พี่สาวของ น.ส.มา (นามสมมติ) อายุ 41 ปี ผู้เสียหาย ที่พิการทางสมอง ถูกชายวัย 80 ปี ข่มขืนกระทำชำเรา ต่อมาพี่สาวได้เดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสิงห์บุรี ในข้อหาบุกรุก แต่ทางเจ้าหน้าที่ไม่รับแจ้งความ เนื่องจาก กรณีดังกล่าวสามารถไกล่เกลี่ยได้ ซึ่งทางครอบครัวเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงได้ร้องเรียนผ่านสื่อมวลชน ซึ่งล่าสุด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งความ และส่งตัวผู้เสียหายไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลสิงห์บุรี
ล่าสุด ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้เดินทางไปที่บ้านพักของนางพิมพ์พลอยรัตน์ โดยพบกับ น.ส.มา ที่เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 24 ม.ค.เวลาประมาณ 15.00 น. ระหว่างที่ตนนอนดูโทรทัศน์อยู่ภายในบ้าน ทางผู้ต้องหาได้เข้ามาภายในบ้าน ตอนนั้นตนได้ตะโกนขอความช่วยเหลือและพยายามไล่ แต่ทางผู้ต้องหาถามว่า “อยากได้เงินใช่ไหม” จากนั้นก็ได้เข้ามาจูบที่คอ และสั่งให้ตนถอดกางเกง ก่อนจะสอดใส่อวัยวะเพศ โดยไม่ได้มีการป้องกัน
ตอนนั้นตนก็บอกว่า “เจ็บ” แต่ผู้ต้องหาไม่หยุด พอสำเร็จความใคร่เสร็จสิ้นได้เดินกลับออกไป หลังจากเกิดเหตุการณ์ในครั้งนั้น ทางผู้ต้องหาก็มักจะเข้ามากระทำการในลักษณะดังกล่าวอยู่บ่อยครั้ง จนครั้งล่าสุด ที่มีเพศสัมพันธ์กัน ผู้ต้องหาได้ให้เงินตน 20 บาท พร้อมกับไข่ต้ม 2 ฟอง ก่อนจะเดินออกไป
ด้านนางบิว (นามสมมติ) เพื่อนบ้านที่สนิทกับน.ส.มา เล่าว่า น.ส.มา เป็นคนสติไม่ดี พูดจาไม่รู้เรื่อง แต่ถ้าใครชมว่าสวยจะยิ้มให้ โดยลักษณะนิสัยของน.ส.มา เป็นคนจิตใจดี ใครบอกให้ทำอะไรก็จะทำ ซึ่งในแต่ละวัน น.ส.มา จะเดินอยู่แถวบ้านไม่ได้ไปไหนไกล และน.ส.มา มักจะถูกเด็กๆ ในหมู่บ้านแกล้งเป็นประจำ ครั้งล่าสุด น.ส.มา ได้ถูกเด็กนำไฟมาจี้ที่ขา
ต่อมา เมื่อตนทราบว่า น.ส.มา ถูกลุงวัย 80 ปีข่มขืน วันรุ่งขึ้น ได้เดินทางไปที่ สภ.เมืองสิงห์บุรี เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับลุงวัย 80 ปี ในข้อหาข่มขืนกระทำชำเรา และข้อหาบุกรุก ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งข้อหาข่มขืนเท่านั้น พร้อมบอกว่า คดีดังกล่าวสามารถไกล่เกลี่ยได้ แต่ตอนนั้นตนยืนยันว่าไม่ไกล่เกลี่ยและจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
นางบิว เล่าต่อว่า แต่วันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียก น.ส.มา ไปสอบสวน และรับแจ้งความในข้อหาบุกรุกแล้ว แต่ตนยังไม่ทราบว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรต่อไป ทราบเพียงว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะติดต่อมา
ส่วนที่ตนอยากจะให้ดำเนินคดีกับทางผู้ต้องหา เพราะตนรู้สึกว่าถ้ามีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นอีกครั้ง และครั้งหน้าไปเกิดขึ้นกับลูกสาวตนหรือบุคคลอื่น จะทำอย่างไร แล้วเรื่องเช่นนี้ใครจะต้องรับผิดชอบ แล้วถ้าบอกมาว่าให้ น.ส.มาไปพักอาศัยที่อื่น ใครจะรับรองว่าจะไม่เกิดเรื่องเช่นนี้อีก
ด้าน นายผัน อายุ 80 ปี ผู้ต้องหา กล่าวว่า ตนแอบชอบ น.ส.มา เป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว แต่ช่วงเวลาดังกล่าวตนมีภรรยาอยู่แล้ว ส่วน น.ส.มา มีสามีและลูก แต่ได้เลิกรากันไป จนมีอยู่วันหนึ่ง น.ส.มา ได้พยักหน้าให้ตนเดินเข้าไปหา เมื่อตนเห็นเช่นนั้นจึงเดินเข้าไปภายในบ้าน เมื่อเข้าไปก็พบว่า น.ส.มา นอนอยู่ ตอนนั้นตนเกิดอารมณ์ทางเพศ จึงเข้าไปจูบที่ต้นคอ แล้วที่ปาก ซึ่ง น.ส.มา ก็จูบตอบ และได้มีเพศสัมพันธ์กันโดยไม่ได้ป้องกัน เพราะคิดว่าไม่น่าเกิดปัญหา เนื่องจากไม่ได้มีเพศสัมพันธ์กันทุกวัน และทุกครั้งที่เสร็จกิจ ตนก็จะให้เงิน 20 บาท และให้ข้าวกินทุกครั้ง
นายผัน บอกอีกว่า ตนรู้ว่า น.ส.มา ไม่ปกติ แต่ตนชอบ และมักมีอารมณ์ทางเพศกับ น.ส.มา และหลังจากมีเพศสัมพันธ์กัน ตนก็จะนำกับข้าวมาให้ทุกครั้ง หลังจากนี้ถ้าจะให้ตนอยู่กับ น.ส.มา ในฐานะสามีภรรยานั้น “ตนก็คงไม่เอา เดี๋ยวลูกจะว่า และตนก็ไม่ได้ทำงาน จะพากันอดตายเปล่าๆ”
เป็นอย่างไรกันบ้างคะเพื่อนๆกับเรื่องราวที่น้องฮิปโปนำมาเสนอในวันนี้ ซึ่งทางคุณลุงเองก็ยอมรับว่าเข้าไปในบ้านจริงและได้ทำการข่มขืนพร้อมกับให้เงิน 20 บาทไว้เป็นค่าขนมหากมีความคืบหน้ายังไงจะมาแจ้งให้ทราบนะคะ
ขอบคุณภาพ : อมรินทร์ ทีวี