ถ้าถามว่า “แมคโดนัลด์” กับ “เคเอฟซี” มีอะไรที่เหมือนกัน..

ถ้าถามว่า “แมคโดนัลด์” กับ “เคเอฟซี” มีอะไรที่เหมือนกัน

ผมเชื่อว่าคนส่วนใหญ่จะตอบว่า ทั้ง 2 ร้านเป็นฟาสต์ฟู้ดที่โด่งดังระดับโลกเหมือนกัน เพียงแต่ร้านหนึ่งขาย

“แฮมเบอร์เกอร์” อีกร้านหนึ่งขาย “ไก่ทอด”

แต่ถ้าใครอ่านประวัติของผู้บุกเบิก “แมคโดนัลด์” และ “เคเอฟซี” แล้ว จะพบว่าทั้ง “เรย์ คร็อก” และ “ผู้พันแซนเดอร์ส” มีอะไรที่เหมือนกันอีกเรื่องหนึ่ง

คือ ทั้งคู่ล้วนผ่าน “ความล้มเหลว” มากว่าครึ่งชีวิตก่อนจะประสบความสำเร็จ

“เรย์ คร็อก” นั้นเป็น “นักขาย” แต่เป็นนักขายที่ชอบเล่นดนตรี เริ่มต้นจากเป็นพนักงานขายถ้วยกระดาษในตอนกลางวัน แต่ตอนกลางคืนเล่นเปียโนให้กับสถานีวิทยุแห่งหนึ่งในเมืองชิคาโก ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นนายหน้าค้าที่ดินในช่วงอสังหาริมทรัพย์เฟื่องฟู พอธุรกิจซบก็มาเล่นเปียโนหาเลี้ยงชีพในไนต์คลับอีกครั้งหนึ่ง…ชีวิตของเขาล้มลุกคลุกคลานมากว่าครึ่งชีวิต

“เรย์ คร็อก” กลับมาสู่อาชีพ “นักขาย” อีกครั้ง เมื่อเขาพบเครื่องปั่นมิลค์เชกรุ่นใหม่ ปั่นทีเดียวได้ 5 แก้ว เขาจึงตั้งบริษัทขึ้นมาเพื่อขายเครื่องปั่นมิลค์เชกให้กับร้านอาหารต่างๆ ตอนนั้นเขาอายุ 40 ปี

และจากการตระเวนขายเครื่องปั่นนม ทำให้เขาได้รู้จัก 2 พี่น้องตระกูล “แมคโดนัลด์” เพราะพี่น้องคู่นี้สั่งซื้อเครื่องปั่นนมของเขา 8 เครื่อง แสดงว่ายอดขายร้านนี้ต้องดีมาก

นั่นคือจุดเริ่มต้นที่ “เรย์ คร็อก” รู้จักร้านแฮมเบอร์เกอร์แบบฟาสต์ฟู้ดที่ชื่อ “แมคโนนัลด์” เขาชอบใจรูปแบบของร้านนี้ และตัดสินใจลงทุนครั้งใหญ่ด้วยการขอซื้อแฟรนไชส์จาก 2 พี่น้อง ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อกิจการทั้งหมดในเวลาต่อมา และขยาย “แมคโดนัลด์” ไปทั่วโลก กลายเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของสหรัฐอเมริกา คล้ายกับ “โค้ก”

ส่วนผู้พัน “ผู้พันแซนเดอร์ส” นั้นเป็นคิดค้น “ไก่ทอดเคนตั๊กกี้” อันลือชื่อ ประวัติของเขายิ่งกว่า “เรย์ คร็อก”

เริ่มตั้งแต่วัยเด็ก ที่เขาต้องหนีออกจากบ้านเพราะทะเลาะกับพ่อเลี้ยง เคยทำงานเป็นคนรับจ้างทำงานในไร่ ขายประกัน พนักงานดับเพลิง ขับเรือกลไฟ ฯลฯ

ช่วงหนึ่ง ชีวิตของเขาเริ่มดีขึ้น เมื่อเรียนหลักสูตรทางไกลด้านกฎหมายจบ แต่ทำงานอยู่ในศาลพักหนึ่งก็ถูกไล่ออก เพราะทะเลาะกับลูกความถึงขั้นใช้กำลัง

“แซนเดอร์ส” เริ่มต้นชีวิตอีกครั้งตอนอายุ 40 ปี เขาพาครอบครัวไปปักหลักที่เมืองคอร์บิน รัฐเคนตั๊กกี้ เปิดปั๊มน้ำมัน และทำร้านอาหารเล็กๆ สำหรับผู้ผ่านทาง ใช้โต๊ะกินข้าวในบ้านเป็นโต๊ะอาหารสำหรับลูกค้า

“แซนเดอร์ส” เป็นคนทำอาหารอร่อย เพราะต้องทำกับข้าวให้กับน้องๆ ตั้งแต่อายุยังน้อย ตอน 7 ขวบเคยได้รับรางวัลชนะเลิศทำอาหารประจำหมู่บ้าน ไม่แปลกที่ร้านอาหารของเขาจะทำรายได้ให้กับเขาสูงกว่าปั๊มน้ำมัน

จากโต๊ะเดียวในบ้าน เขาขยายเป็น 142 ที่นั่งในเวลาต่อมา เขาเริ่มคิดสูตร “ไก่ทอด” ยอดอร่อยขึ้นมาในช่วงนั้น อร่อยจนนักวิจารณ์ชื่อดังแนะนำร้านของเขา ผู้ว่าการรัฐเคนตั๊กกี้จึงแต่งตั้งให้เขาเป็น “ผู้พันแห่งเคนตั๊กกี้” และนั่นคือที่มาของชื่อ “ผู้พันแซนเดอร์ส” ที่คนรู้จักทั่วโลก

แต่ความสำเร็จก็อยู่กับเขาเพียงชั่วระยะหนึ่ง เมื่อรัฐบาลสร้างถนนสายใหม่ขึ้นมา นักเดินทางที่เคยผ่านร้านของเขาก็เลี่ยงไปใช้ถนนสายใหม่ ยอดขายของร้านลดลงเรื่อยๆ จน “ผู้พันแซนเดอร์ส” ต้องขายกิจการ

ก่อนที่เขาจะตัดสินใจสู้อีกครั้งหนึ่ง ด้วยการทำธุรกิจขายแฟรนไชส์ไก่ทอดสูตรเด็ดของเขา และนั่นคือที่มาของ “เคเอฟซี” ในวันนี้

สิ่งหนึ่งที่ “เรย์ คร็อก” และผู้พัน “แซนเดอร์ส” เหมือนกันก็คือ ทั้งคู่เชื่อว่า “อายุ” เป็นเพียง “ตัวเลข”

“เรย์ คร็อก” ตัดสินใจลงทุนครั้งใหญ่ ซื้อแฟรนไชส์ “แมคโดนัลด์” ตอนอายุ 52 ปี ตอนนั้นเขาเป็นทั้งโรคเบาหวานและไขข้ออักเสบ

ส่วน “ผู้พันแซนเดอร์ส” ตอนที่เขาต้องขายกิจการร้านอาหารนั้น อายุ 65 ปี รายได้ของเขามีอยู่เพียงทางเดียวคือ เงินช่วยเหลือสวัสดิการสังคมจากรัฐบาล เดือนละ 105 เหรียญสหรัฐ ทางเลือกในชีวิตของชาย

ชราอายุ 65 ปี มีเพียง 2 ทาง ทางหนึ่งคือ การใช้ชีวิตเพื่อรอลมหายใจสุดท้ายกับเงินช่วยเหลือของรัฐบาล

หรืออีกทางหนึ่ง…ลุกขึ้นสู้อีกครั้ง

วินาทีนั้น “ผู้พันแซนเดอร์ส” ค้นพบว่าเขายังเหลือ “ทรัพย์สิน” อีก 2 อย่างที่คนอื่นไม่มี นั่นคือ “สูตรไก่ทอด” และ “หัวใจ” ที่ไม่ยอมแพ้

ผู้พันแซนเดอร์สเดินทางไปทั่วประเทศ เพื่อขายแฟรนไชส์ “สูตรไก่ทอด” มีคนบอกว่าตอนที่เขาเสนอขาย “สูตรไก่ทอด” นี้ เขาต้องเผชิญกับคำปฏิเสธถึง 1,009 ครั้ง ก่อนที่เขาจะประสบความสำเร็จในที่สุด

“ความล้มเหลว” นั่นคล้ายกับ “ปุ๋ย”

“ปุ๋ย” คือซากพืชซากสัตว์ที่หมักหมมมายาวนาน ส่วน “ความล้มเหลว” ก็คือประสบการณ์ชีวิตที่ผิดพลาด ถ้า “ปุ๋ย” ทำให้ “ต้นไม้” เติบโต “ความล้มเหลว” ก็ทำให้ “ชีวิต” ของเราเติบโตได้เช่นกัน

มีคนบอกว่า คนเราที่ทำอะไรผิดพลาดครั้งหนึ่ง เราอาจ “ล้มเหลว” ได้ถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกคือ ล้มเหลวเพราะทำงานผิดพลาด ครั้งที่สองคือ ล้มเหลวเพราะไม่สรุป “บทเรียน” จากความผิดพลาดนั้น หากเราผิดพลาดและสรุปบทเรียน “ความล้มเหลว” จะเป็นสิ่งมีค่า เหมือนกับ “ปุ๋ย” ที่ดีของชีวิต

“เรย์ คร็อก” และ “ผู้พันแซนเดอร์ส” ล้มเหลวมากว่าครึ่งชีวิต แต่เขากลับมาประสบความสำเร็จได้อีกครั้ง

ชีวิตของทั้งคู่สอนเราอยู่ 2 เรื่อง เรื่องแรก

ถ้าเราเคยล้มเหลวมาก่อน ไม่ใช่ว่าเราจะต้องล้มเหลวอีก เพราะชีวิตคนเราไม่ใช่แค่ “มีขึ้น-มีลง” เท่านั้นแต่ “มีขึ้น-มีลง” และมี “ขึ้น”

เรื่องที่สอง “การเริ่มต้น” ไม่มี “อายุ” 

ไม่ใช่ต้องเป็น “คนหนุ่ม-สาว” เท่านั้นถึงจะ “เริ่มต้น” ชีวิตใหม่ได้ อายุเท่าไรก็ “เริ่มต้น” ได้เหมือนกัน

ให้ท่องจำไว้เสมอว่า “เรย์ คร็อก” เริ่มต้น “แมคโดนัลด์” ตอนอายุ 52 ปี

“ผู้พันแซนเดอร์ส” เริ่ม “ไก่ทอดเคเอฟซี” ตอนอายุ 65 ปี

สำหรับคนที่ไม่ยอมแพ้…เริ่มต้นใหม่ได้เสมอ

ขอบพระคุณแหล่งที่มา : หนุ่มเมืองจันท์ – จากหนังสือ กรอบที่ไม่มีเส้น, สำนักพิมพ์มติชน