Home »
Uncategories »
รู้ไว้ก่อนไปเขาคิชฌกูฏ? เคล็ดไม่ลับที่ต้องรู้ ขอพร 1 อย่างห้ามบนบาน – ส่องกระจกโชคลาภ – ความจริงของเขตผ้าแดง
รู้ไว้ก่อนไปเขาคิชฌกูฏ? เคล็ดไม่ลับที่ต้องรู้ ขอพร 1 อย่างห้ามบนบาน – ส่องกระจกโชคลาภ – ความจริงของเขตผ้าแดง
รู้ไว้ก่อนไปเขาคิชฌกูฏ? เคล็ดไม่ลับที่ต้องรู้ ขอพร 1 อย่างห้ามบนบาน – ส่องกระจกโชคลาภ- ความจริงของเขตผ้าแดง
ประเพณีนมัสการรอยพระพุทธบาท(พลวง) บนเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรีในปี ๒๔๖๑ กำลังจะเริ่มขึ้นในวันที่ ๑๗ มกราคม – ๑๗ มีนาคม ๒๕๖๑
นักแสวงบุญที่ปรารถนาตั้งใจไปกราบสักการะรอยพระพุทธบาท
เพื่อความเป็นสิริมงคลต่อตนเอง ก็ควรไปในระยะเวลาดังกล่าว เพราะ ๑
ปีจะมีเพียง ๑ ครั้ง แต่ก่อนจะไปเขาคิชฌกูฏ
ซึ่งมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้กราบสักการะและขอพรหลายจุด
จึงรวมเคล็ดไม่ลับมาบอกต่อ เพื่อการปฏิบัติตนที่ถูกต้อง ดังนี้
ขอพร ๑ อย่าง ห้ามบนบาน การขอพรต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์บนเขาคิชฌกูฏ มีอยู่ว่าให้ขอพรได้เพียง ๑ อย่างและห้ามบนบานศาลกล่าวเด็ดขาด
โดยตั้งจิตให้มั่น น้อมถวายบุญในทานศีลภาวนาแด่พระรัตนตรัย
จากนั้นให้ถวายบุญแก่หลวงพ่อนัง หลวงพ่อเขียน
และคณะสงฆ์ทุกรูปที่บุกเบิกพัฒนาเขาคิชฌกูฏ
และอุทิศบุญให้แก่เทวดาที่ดูแลรักษาเขาคิชฌกูฏ
เพื่อให้เทวดามีกำลังในการช่วยเหลือหรือประทานพรตามความเชื่อ
สำหรับการตั้งจิตโดยการถวายบุญและอุทิศบุญ
ทำเพียงครั้งเดียว ณ จุดที่กราบสักการะรูปปั้นหลวงพ่อนัง หรือ
สามารถทำซ้ำเป็นครั้งที่สอง บนยอดเขาได้
แต่ให้กราบสักการะรอยพระพุทธบาทก่อน
จุดสำคัญที่จะต้องกราบไหว้สักการะบนเขาคิชฌกูฏ มีอยู่ ๙ จุด มีเคล็ดลับการขอพรเพียง ๕ จุด และต้องขอเพียงเรื่องเดียวเท่านั้น มีความเชื่อว่า เมื่อกลับลงมาจากเขาจะสมปรารถนา
จุดที่ ๑ ต้นโพธิ์– พระบาทจำลอง
จุดที่ ๒ ไหว้พระปางต่าง ๆ ๙ รูป
จุดที่ ๓ หลวงปู่นัง หรือพระครูพุทธบทบริบาล อดีตเจ้าอาวาสวัดพลวง (ขอพรครั้งที่ ๑)
จุดที่ ๔ ประพรมน้ำพระพุทธมนต์ เพื่อให้เกิดสิริมงคลแคล้วคลาดปลอดภัย
จุดที่ ๕ ศาลาพระนอน… ตั้งสัจจะอธิฐานที่พระอภิบาลมงคลพุทธไสยาสน์ (ขอพรครั้งที่ ๒)
จุดที่ ๖ พระเจดีย์ (ขอพรครั้งที่ ๓ )
จุดที่ ๗ พระสิวลี (ขอพรครั้งที่ ๔)
จุดที่ ๘
พระสีหไสยาสน์ หรือ พระนอนหิน (ขอพรครั้งที่ ๕)
จุดนี้ถือเป็นจุดขอพรครั้งสุดท้าย และอย่าลืมว่า
ตลอดการขอพรกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามจุดต่างๆที่ผ่านมา ต้องขอเพียง ๑
เรื่องเท่านั้น
จุดที่ ๙ ไหว้พระ– กราบสักการะรอยพระพุทธบาท
ส่องกระจกหาโชคลาภ
เมื่อนักแสวงบุญเดินทางขึ้นเขาคิชฌกูฏ มาจนถึงบริเวณรอยพระพุทธบาท
กราบสักการะรอยพระพุทธบาทแล้ว จะเห็นว่าใกล้ๆกันนั้นมีหินลูกพระบาตร
เป็นหินขนาดใหญ่ คล้ายรูปบาตรคว่ำปรากฏอยู่ หลายคนได้อธิษฐานให้มีโชค
หรือขอลาภก็มี มีความเชื่อที่ทำต่อๆกันมาว่า ก่อนจะส่องกระจกขอลาภ ต้องขอพรปรารถนาโชคลาภ
ก่อน แล้วก็นำกระจกส่องใต้ฐานหินลูกพระบาตร เพื่อดูว่าจะเห็นอะไรหรือไม่
เช่นตัวเลขต่างๆ บางคนก็มีเคล็ด โดยนั่งหันหลังให้ก้อนหิน
แล้วหันกระจกส่องไปยังหิน เชื่อกันว่าหากใครมีบุญวาสนา ก็จะเห็นตัวเลข
บางคนก็จะเห็นสิ่งที่ดีๆปรากฏในกระจก อันจะนำมาซึ่งความเป็นมงคลในชีวิต
เรื่องนี้ก็สุดแท้แต่บุญวาสนาและต้องใช้วิจารณญาณ
ความจริงของผ้าแดง สุดเขตแดนบุญ?
จะเห็นว่าสุดเขตแดนบุญ บนเขาคิชฌกูฎ ก็คือบริเวณเขตผ้าแดง
ซึ่งจะมีป้ายติดไว้ และที่ปรากฏอย่างเด่นชัด คือ
การผูกผ้าแดงพร้อมข้อความชื่อนามสกุล หรือคำอธิษฐานต่างๆ เป็นทิวแถวยาว
แต่หารู้ไม่ว่า แท้จริงแล้ว เป็นเพียงแค่การทำตามกันมาเท่านั้น
เพราะสาเหตุที่ต้องขึงผ้าแดงไว้ ตามประวัติพ่อท่านเขียนได้กล่าวไว้ว่า
สมัยก่อนมีคนเดินเลยเขตนี้ไปแล้วเกิดพลัดหลงหาทางกลับไม่ได้
พ่อท่านเขียนจึงสั่งให้พระลูกศิษย์ นำผ้าแดงไปขึงไว้
เป็นสัญลักษณ์ว่าเป็นเขต “อันตราย”
ห้ามเดินเลยไปหลังจากนี้ ไม่ได้มีความหมายว่าให้ไปเขียนชื่อนามสกุล หรือ
คำอธิษฐานใดๆ
ฉะนั้นหากใครที่ไปกราบสักการะรอยพระพุทธบาทอันเป็นหัวใจสำคัญที่สุดบนเขาคิชฌกูฏแล้ว
ก็ไม่จำเป็นต้องเขียนชื่อ นามสกุล หรือคำอธิษฐานใดๆตรงเขตผ้าแดง
นอกจากนี้บนเขาคิชฌกูฏ
ยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่นๆอีกมาก ไม่ว่าจะเป็นพระพุทธรูป เทวรูปต่างๆ
ซึ่งอาจกล่าวไม่หมด อย่างไรก็ดี
สิ่งสำคัญที่สุดคือการกราบสักการะรอยพระพุทธบาท
เพื่อระลึกถึงคุณบารมีของพระพุทธเจ้า และจงตระหนักไว้ว่า
เมื่อกลับออกมาแล้ว อย่าเอาอะไรออกมาเด็ดขาด นอกจากความอิ่มเอมใจเท่านั้น
ขอขอบคุณ : หนังสืออภินิหารศักดิ์สิทธิ์เขาคิชฌกูฏ, ก.นัยจัน, postsod.com