ดีใจที่สุดในชีวิต น้องกิจ เฮ นักกฎหมายชี้คุณสมบัติครบ ยื่นขอสัญชาติไทยได้ทันที ไม่ต้องเสียเงิน

กรณี น้องกิจ โตเกียว ด.ช.ดนิษฐ์ แซ่อ้าย วัย 14 ปี โด่งดังจากเรื่องราวความขยันของน้อง ที่ออกมาช่วยพ่อแม่ขาย ขนมโตเกี่ยวตั้งแต่ ป.1 ในย่านปากเกร็ด จ.นนทุบรี จนมีผู้คนในโลกออนไลน์จำนวนมากเข้ามาแสดงความชื่นชม และมีคนมาอุดหนุนขนมโตเกียวของน้องกิจเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบพบว่าน้องกิจยังไม่มีสัญชาติไทย แม้เคยไปยื่นเรื่องขอสัญชาติมาแล้ว 2 ครั้ง แต่ก็ยังไม่ได้ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้า เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 2 มี.ค. นายสุรพงษ์ กองจันทึก นักกฎหมายผู้เชี่ยวชาญกฎหมายสัญชาติ เดินทางมาที่ซอยขจรเนติยุทธ 4 ตำบลปากเกร็ด อำเภอปากเกร็ด นนทบุรี ซึ่งเป็นบ้านพักของ ด.ช.ดนิษฐ์ แซ่อ้าย อายุ 14 ปี หรือน้องกิจ โตเกียว และนายสรวีย์ แซ่อ้าย อายุ 17 ปี พี่ชายน้องกิจ เพื่อตรวจสอบเอกสารและให้คำแนะนำในเรื่องการขอสัญชาติไทยกับน้องกิจและครอบครัว

นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ในวันนี้เดินทางมาให้คำแนะนำกับน้องกิจ เรื่องการดำเนินการขอสัญชาติไทย โดยจะพูดคุยสอบถามประวัติภูมิลำเนาของพ่อแม่ และตรวจเอกสารเพื่อใช้ประกอบการยื่นขอสัญชาติไทย ว่าเข้าเกณฑ์ ตามมติคณะรัฐมนตรี ปี 2559 เรื่องการให้สัญชาติแก่เด็กที่เกิดในประเทศไทยหรือไม่

จากการตรวจสอบเอกสารเบื้องต้น พบว่าน้องกิจมีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด สามารถยื่นขอสัญชาติไทยได้ทันที โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ โดยหลังจากนี้ทางพ่อแม่ของน้องกิจจะต้องนำเอกสาร อาทิ เช่น รูปถ่าย บัตรประจำตัวผู้ไม่มีสัญชาติไทย สูติบัตร และบัตรประจำตัวบิดามารดา ไปยื่นต่อนายอำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจในการรับรองและออกสัญชาติไทยแก่น้องกิจ

จากนั้นทางอำเภอจะตรวจสอบหลักฐาน และสอบพยานหลังจากตรวจสอบหลักฐานครบถ้วนถูกต้อง จึงนำเรื่องส่งมายังส่วนกลาง เพื่อออกหมายเลขบัตรประชาชน 13 หลัก และส่งกลับมายังอำเภอเพื่อดำเนินการออกบัตรให้น้องกิจ ภายใน 90 วัน

น้องกิจ กล่าวว่า “ดีใจที่จะได้ทำบัตร เพื่ออนาคตจะไปลองทำอย่างอื่นได้ แต่ก็จะทำงานค้าขายเหมือนเดิม และขอขอบคุณที่ทำให้ผมได้บัตรประชาชน”

ผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนหน้านี้เคยเลยรู้บ้างไหมว่า เราไม่มีบัตรประชาชน น้องกิจ กล่าวว่า เพิ่งมาทราบเมื่อเมื่อช่วงตอน ม.1 แต่ก็ไม่ได้รู้สึกน้อยใจแต่อย่างใด

ด้าน นางจาม คำดี ชนกลุ่มน้อย ชาติพันธุ์ลัวะ แม่ของของกิจ กล่าวว่า มีความดีใจเป็นอย่างมาก หลังจากมีหน่วยงานเข้ามาให้คำแนะนำ ที่ผ่านมาไม่มีความรู้ในเรื่องนี้ และเคยมีคนเข้ามายื่นข้อเสนอจะช่วยทำบัตรให้แต่ต้องใช้เงินจำนวนมาก ทางครอบครัวก็มีฐานะอยากจน แต่ก็เป็นห่วงเรื่องอนาคตของลูกทั้ง 2 คน เกรงว่าจะหางานทำลำบาก ต้องขอขอบคุณผู้ที่ให้คำแนะนำเป็นอย่างสูง ถึงแม้ว่าแม่จะไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ขอให้ลูกทั้ง 2 ได้ก็พอแล้ว