จากกรณีหวยอลเวง 30 ล้านบาท หลังจากที่ ทนายษิทรา พร้อมด้วย ร.ต.ท. จรูญ วิมูล ตำรวจเกษียณอายุ เข้าแจ้งความกับตำรวจเพื่อเอาผิด ครูปรีชา ข้อหาแจ้งความเท็จ และเอาผิดกับแม่ค้าขายหวย ในข้อหาค้าสลากเกินราคา พร้อมให้มีการตรวจสอบขยายผลไปยังยี่ปั๊ว ซาปั๊วด้วย ซึ่งต่อมา ทนายของครูปรีชา ได้ออกมาเปิดเผยว่า ครูปรีชาพูดไม่หมดเรื่องหวย พร้อมกับเตือนไปแล้ว หากพูดไม่จริง มีโทษทางอาญาแน่นอน [อ่านข่าว : ทนายครูปรีชา แฉเอง ครูปรีชาพูดไม่หมดเรื่องหวย - ไม่รู้มีต้นขั้วหวยจริงไหม]
โดย ร.ต.ท. จรูญ ระบุว่า จากกรณีที่เกิดขึ้นทำชีวิตครอบครัวเปลี่ยนไปมาก จะไปไหนก็ต้องระวังตัว แค่ไปตัดผมคนก็มองไปอีกแบบ ไม่เหมือนแต่ก่อน และขอยืนยันว่ารางวัลเป็นของตนพันเปอร์เซ็นต์ ส่วนหลังจากเสร็จเรื่องรางวัลแล้วก็จะตามด้วยการฟ้องร้องอีก คงต้องใช้เวลาอีกนาน เพราะถูกกระทำมามากต้องฟ้องแน่นอน
ขณะที่ นายษิทรา ทนายความ กล่าวว่า การเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนในครั้งนี้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเชิญมาเพื่อขอรายละเอียดเพิ่มเติม แต่ก็ไม่ทราบว่ารายละเอียดอะไรอีก เพราะมอบให้หมดแล้วพร้อมหลักฐานต่าง ๆ และเรื่องที่ทาง ครูปรีชา ไปฟ้องร้องต่อศาลอีกรอบให้ทำการอายัดเงินรางวัลนั้น เรื่องนี้ตนได้รับทราบหมดแล้ว ก็ดี ออกมามาก ๆ จะได้รู้อะไรมาก ๆ เช่นกัน
ในส่วน ผบก.กองปราบปราม เป็นเพื่อนรุ่นเดียวกับผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี ไม่ใช่ปัญหา ขอให้ทำงานอย่างตรงไปตรงมา การตรวจสอบดีเอ็นเอ เรื่องนี้ลึก ๆ ตนเองก็ทราบว่าเขากำลังจะทำอะไร แต่ยังยืนยันเหมือนเดิมต้องให้ทางส่วนกลางเป็นผู้ตรวจเท่านั้น
ภาพและข้อมูลจาก
