คงเป็นที่ทราบกันดีที่ก่อนหน้านี้มีคนออกมาฟ้องว่ามีคนใช้แป้งจอห์นสันแล้วเป็นมะเร็งและได้ทำการฟ้องทางบริษัท
ล่าสุดจอห์นสันเสี่ยงมรสุมคดี
หลังแพ้กรณีมะเร็งเยื่อหุ้มปอดครั้งแรกกูรูคาดกรณีผู้ป่วยมะเร็งเยื่อหุ้มปอดชนะคดีจอห์นสัน
อาจตั้งบรรทัดฐานอีก 6,000
คดีที่เหลือกรณีศาลรัฐนิวเจอร์ซีย์ตัดสินให้บริษัท จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน
และซัพพลายเออร์รายหนึ่งจ่ายค่าเสียหายรวม 117 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ตีเป็นเงินไทย 3,655 ล้านบาท ให้กับ สตีเฟน แลนโซ
ที่อ้างว่าแป้งเด็กจอห์นสันปนเปื้อนแร่ใยหินจนทำให้เป็นโรคมะเร็งเยื่อหุ้มปอดนั้น
อาจถูกนำไปใช้เป็นบรรทัดฐานการตัดสินคดีอีก 6,000 คดี
ที่โจทก์อ้างว่าผลิตภัณฑ์ของจอห์นสันก่อให้เกิดมะเร็งรังไข่
เนื่องจากคดีนี้นับเป็นครั้งแรกที่จอห์นสันแพ้ให้กับผู้ที่เป็นมะเร็งเยื่อหุ้มปอด
ซึ่งเกี่ยวพันโดยตรงกับแร่ใยหิน
และเอกสารภายในของจอห์นสันที่ถูกใช้ในชั้นศาลขณะพิจารณาคดีแลนโซ
บ่งชี้ว่าบริษัทรับรู้ตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1970
ว่าแป้งเด็กมีการปนเปื้อนแร่ใยหินระหว่างกระบวนการทำเหมืองเพื่อผลิตแป้งทัลคัม
ดังนั้น
ทางทนายจึงวางแผนนำเอกสารดังกล่าวใช้เป็นหลักฐานต่อสู้คดีหลังจากนี้
เพื่ออ้างอิงว่าผลิตภัณฑ์จอห์นสันก่อให้เกิดมะเร็งแม้จะยังไม่ชัดเจนว่าแร่ใยหินก่อให้เกิดมะเร็งรังไข่หรือไม่
แต่นาธาน สแคชท์แมน อาจารย์จากมหาวิทยาลัยโคลอมเบีย ระบุว่า
เคสของแลนโซจะทำให้บรรดาทนายของโจทก์ที่ฟ้องร้องกรณีมะเร็งรังไข่
หันมาฟ้องในประเด็นที่ผลิตภัณฑ์จอห์นสันมีการปนเปื้อนแร่ใยหิน ขณะที่ มาร์ก
ลาเนียร์ หนึ่งในทนายฝ่ายโจทก์ ระบุว่า
เคสของแลนโซจะปลุกกระแสฟ้องร้องจอห์นสันอีกหลายพันเคสที่เกี่ยวข้องกับมะเร็งเยื่อหุ้มปอดและมะเร็งรังไข่แต่เอกสารของจอห์นสันถูกเปิดเผยครั้งแรกในเคสของแลนโซ
ขณะที่ ปีเตอร์ บิกส์ ทนายของจอห์นสัน ระบุว่า
เอกสารดังกล่าวระบุแค่มาตรการคัดแยกสารใยหินออกจากสารทัลก์เท่านั้น
บริษัทยังไม่เคยพบการปนเปื้อน
พร้อมเตรียมยื่นอุทธรณ์คำตัดสินของศาลรัฐนิวเจอร์ซีย์ต่อไป