เข้าวงการบันเทิงมาตั้งแต่อายุ
18 สำหรับอดีตนางเอกรุ่นใหญ่ แอ๊ว-อำภา ภูษิต
ฝากผลงานละครให้ติดตามกันมากมาย
แถมแต่ละเรื่องยังได้รับบทเด่นเป็นที่จดจำของผู้ชมด้วย ล่าสุดกับละครดัง
"บุพเพสันนิวาส" ในบท "แม่ปริก" บ่าวรับใช้ในเรือนของคุณหญิงจำปา
งานนี้รายการ "คุยแซ่บShow" ทางช่อง one31 คว้าตัว ‘แม่แอ๊ว'
มานั่งเล่าเปิดใจถึงชีวิตที่เคยล้มเหลวเรื่องความรัก
จนทำให้คุณพ่อที่เธอรักที่สุดต้องจบชีวิตลง รวมถึงเคยคิดสั้นฆ่าตัวตาย
พร้อมเผยโดนเมียน้อยทำของใส่!!
อยู่วงการมากี่ปีแล้ว?
"เกือบ 40 ปีแล้วค่ะ คือไม่ได้มีแววเลย แล้วพี่สาวเขาเดินแบบห้องเสื้อ เราก็ตามไปด้วย จนไปเจอเจ้าของห้องเสื้อ เขาเห็นเราก็ชวนให้ไปประกวดเทพีสงกรานต์สวนสามพราน ตอนนั้นอายุ 18 ค่ะ ถือเป็นเวทีแรกในชีวิตและได้ตำแหน่งเทพีเลย ได้ถ้วยเงินแท้ ทองสองสลึง จากนั้นก็ไปประกวดมิสอินเตอร์เนชั่นแนลที่ประเทศญี่ปุ่น ไปอยู่ 15 วัน ร้องไห้ทั้ง 15 วันเลย แต่ได้แค่ตำแหน่งชุดสวย สร้างชื่อเสียงให้ประเทศ"
จริงไหมที่ว่าสมัยเป็นนางเอกละครช่วงแรกๆ มีข่าวว่ามีเสี่ยเขียนเช็กเงินสดให้หลายบาทแล้วยัดใส่มือ?
"เมื่อก่อนช่วงงานวันพ่อวันแม่ นางเอกทุกคนจะไปรวมกันที่สนามศุภชลาศัยเพื่อเดินแบบชุดไทยและที่สวนอัมพร อยู่ๆ ก็มีคนนึงเดินเข้ามาหาเราบอกว่าเก็บไว้นะ ให้กำไว้ แล้วเขาก็เดินหายไป เราก็มาเปิดดูเป็นเช็กนี่หว่า พอมานับตัวเลขดูเป็นจำนวนเงินหลักแสน ตอนนั้นก็คิดว่าเราเล่นละครได้แค่ 3 หมื่น พอขึ้นรถก็ให้พ่อดู ถามว่ามันเท่าไหร่ พ่อบอกเป็นแสน เราก็บอกว่า เขาให้หนูมา พ่อทำยังไง พ่อบอกเดี๋ยวลองเอาไปเข้าบัญชีดูว่าผ่านมั้ย แล้วก็ผ่านจริงด้วย เราก็อยากเจอเขา เขาเป็นผู้ใหญ่ใจดี อยากมาเจอ อยากจะเข้ามาหาเราและก็มาผ่านทางพ่อแม่เรา บอกว่าอยากได้เด็กคนนี้จังเลย เขาเมตตาเราและบอกว่าจะขายโรงหนังแล้วเอาเงินมาให้ เราก็บอกว่าในเมื่อตอนนี้เรายังทำงานหาเงินได้ก็ไม่เอา ปฏิเสธไป จากนั้นมาเราก็ไปเป็นโซเชียลไดเร็กเตอร์อยู่ที่หนึ่ง อาทิตย์หนึ่งเข้าออฟฟิศ 2 วัน แล้วก็มีคนมาถามว่ามีบัญชีมั้ย เราก็ถามว่าเอาไปทำอะไรคะ เขาบอกว่าอยากได้ เราก็ให้ไป วันรุ่งขึ้นก็มีเงินโอนเข้ามาเป็นแสน บางทีก็เป็นกล่องเพชรมาให้"
เรื่องราวความรัก?
"มันก็เริ่มจากการเจ็บนิดๆ ตรงที่ว่าคุณพ่อเสีย เนื่องจากเขากดดันเรื่องของเราที่ไม่ประสบความสำเร็จเรื่องชีวิตครอบครัว เราเข้าโรงพยาบาล เจอคนทำของใส่ ในความรู้สึกคือพ่อเราต้องรับความรู้สึกนี้ไปด้วย ในปี 2540 เจอวิกฤตหลายอย่าง ทั้งพ่อเสีย ทั้งผ่าตัด ต้องเข้าโรงพยาบาลแล้วเจอผียมบาล คือวันนั้นเราไปผ่าตัดที่โรงพยาบาล นอนอยู่สักพักรู้สึกตัวเหมือนมีคนมาดึงตัวเราออกไป เราก็จับที่กั้นเตียงไว้ ดึงไม่ไป แล้วกดออดเรียกพยาบาล พอพยาบาลเข้ามา ผียมบาลก็หายไปตรงหัวเตียง แล้วเราก็มาเจอที่คุณพ่อเสีย มันมีความรู้สึกว่าเขาคงจะมาทำของใส่เราเพื่อจะให้เราตาย แต่คุณพ่อจิตอ่อนกว่าเขาก็รับแทนเรา"
ทำไมเขาถึงจะมาทำของใส่เรา?
"เราก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรหรือว่าใครทำ แต่รู้ว่าจะเกิดขึ้นทุกสองอาทิตย์ เราไปหาพระ ท่านก็ทักว่าหนูโดนของนะลูก ควรจะรดน้ำมนต์ออก คือในปี 2540 เราสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างในปีนั้นเลย"
เรียกว่าเข็ดกับความรักไปเลยมั้ย?
"ไม่ได้เรียกว่าเข็ด แต่เรียกว่าเราถูกขโมยล็อตเตอรี่ เลขท้ายก็ไม่โดนไม่ถูกเลย อีกอย่างเราไม่มีสิทธิ์รู้ด้วยว่าเลขมันออกอะไร ฉะนั้นเลิกซื้อดีกว่า ต้องให้เหงื่อออกแล้วถึงจะได้เงิน หลังจากนั้นก็ไม่มีความรัก ขออยู่เลี้ยงลูกดีกว่า อีกอย่างทำไมต้องไปขวนขวาย"
ในข่าวบอกว่ามีความรักครั้งที่สอง?
"มันมาแบบฉาบฉวยแล้วก็ไป"
ปีที่สูญเสียหนักมาก มีความรู้สึกไหมว่าทำไมต้องมาเจออย่างนี้?
"หลังจากที่พ่อเสียก็รู้สึกว่าทำไมต้องเจออะไรแบบนี้ พอขึ้นรถเราก็พูดกับตัวเองทุกครั้งว่าและก็ร้องไห้ ทุกครั้งจะมีพ่อขับรถให้ทุกวัน เราก็พูดกับเขาว่าทำไมต้องทิ้งหนูไป หนูต้องมาดูแลชีวิตตัวหนูเอง จากนั้นมาก็ลืมทุกอย่างไป เพราะทำงานหนักมาก อีกอย่างแม่เรายังอยู่ ลูกสาวอีกสองคนก็ยังมี ถามว่าเคยคิดฆ่าตัวตายมั้ย เคยนะ แต่เราไม่ทำ เพราะไม่อยากให้พ่อเสียใจ เวลาไปไหนมาไหนก็จะเรียกพ่อให้ไปด้วยตลอด"
"อยากฝากถึงคนดูทุกคนว่าเราต้องเดินหน้าต่อไปกับชีวิต อย่าไปขวนขวายหาของเก่ากลับมา หรือขวนขวายหาความรักกลับเข้ามาใหม่ มันไม่จำเป็น ตัวเองก็อยู่ได้ เรายังมีแม่ มีลูกๆ ที่ยังอยู่กับเรา คนอื่นก็คือคนอื่นเวลาที่เขาไม่รักเราแล้ว" ดารารุ่นใหญ่กล่าว
อยู่วงการมากี่ปีแล้ว?
"เกือบ 40 ปีแล้วค่ะ คือไม่ได้มีแววเลย แล้วพี่สาวเขาเดินแบบห้องเสื้อ เราก็ตามไปด้วย จนไปเจอเจ้าของห้องเสื้อ เขาเห็นเราก็ชวนให้ไปประกวดเทพีสงกรานต์สวนสามพราน ตอนนั้นอายุ 18 ค่ะ ถือเป็นเวทีแรกในชีวิตและได้ตำแหน่งเทพีเลย ได้ถ้วยเงินแท้ ทองสองสลึง จากนั้นก็ไปประกวดมิสอินเตอร์เนชั่นแนลที่ประเทศญี่ปุ่น ไปอยู่ 15 วัน ร้องไห้ทั้ง 15 วันเลย แต่ได้แค่ตำแหน่งชุดสวย สร้างชื่อเสียงให้ประเทศ"
จริงไหมที่ว่าสมัยเป็นนางเอกละครช่วงแรกๆ มีข่าวว่ามีเสี่ยเขียนเช็กเงินสดให้หลายบาทแล้วยัดใส่มือ?
"เมื่อก่อนช่วงงานวันพ่อวันแม่ นางเอกทุกคนจะไปรวมกันที่สนามศุภชลาศัยเพื่อเดินแบบชุดไทยและที่สวนอัมพร อยู่ๆ ก็มีคนนึงเดินเข้ามาหาเราบอกว่าเก็บไว้นะ ให้กำไว้ แล้วเขาก็เดินหายไป เราก็มาเปิดดูเป็นเช็กนี่หว่า พอมานับตัวเลขดูเป็นจำนวนเงินหลักแสน ตอนนั้นก็คิดว่าเราเล่นละครได้แค่ 3 หมื่น พอขึ้นรถก็ให้พ่อดู ถามว่ามันเท่าไหร่ พ่อบอกเป็นแสน เราก็บอกว่า เขาให้หนูมา พ่อทำยังไง พ่อบอกเดี๋ยวลองเอาไปเข้าบัญชีดูว่าผ่านมั้ย แล้วก็ผ่านจริงด้วย เราก็อยากเจอเขา เขาเป็นผู้ใหญ่ใจดี อยากมาเจอ อยากจะเข้ามาหาเราและก็มาผ่านทางพ่อแม่เรา บอกว่าอยากได้เด็กคนนี้จังเลย เขาเมตตาเราและบอกว่าจะขายโรงหนังแล้วเอาเงินมาให้ เราก็บอกว่าในเมื่อตอนนี้เรายังทำงานหาเงินได้ก็ไม่เอา ปฏิเสธไป จากนั้นมาเราก็ไปเป็นโซเชียลไดเร็กเตอร์อยู่ที่หนึ่ง อาทิตย์หนึ่งเข้าออฟฟิศ 2 วัน แล้วก็มีคนมาถามว่ามีบัญชีมั้ย เราก็ถามว่าเอาไปทำอะไรคะ เขาบอกว่าอยากได้ เราก็ให้ไป วันรุ่งขึ้นก็มีเงินโอนเข้ามาเป็นแสน บางทีก็เป็นกล่องเพชรมาให้"
เรื่องราวความรัก?
"มันก็เริ่มจากการเจ็บนิดๆ ตรงที่ว่าคุณพ่อเสีย เนื่องจากเขากดดันเรื่องของเราที่ไม่ประสบความสำเร็จเรื่องชีวิตครอบครัว เราเข้าโรงพยาบาล เจอคนทำของใส่ ในความรู้สึกคือพ่อเราต้องรับความรู้สึกนี้ไปด้วย ในปี 2540 เจอวิกฤตหลายอย่าง ทั้งพ่อเสีย ทั้งผ่าตัด ต้องเข้าโรงพยาบาลแล้วเจอผียมบาล คือวันนั้นเราไปผ่าตัดที่โรงพยาบาล นอนอยู่สักพักรู้สึกตัวเหมือนมีคนมาดึงตัวเราออกไป เราก็จับที่กั้นเตียงไว้ ดึงไม่ไป แล้วกดออดเรียกพยาบาล พอพยาบาลเข้ามา ผียมบาลก็หายไปตรงหัวเตียง แล้วเราก็มาเจอที่คุณพ่อเสีย มันมีความรู้สึกว่าเขาคงจะมาทำของใส่เราเพื่อจะให้เราตาย แต่คุณพ่อจิตอ่อนกว่าเขาก็รับแทนเรา"
ทำไมเขาถึงจะมาทำของใส่เรา?
"เราก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรหรือว่าใครทำ แต่รู้ว่าจะเกิดขึ้นทุกสองอาทิตย์ เราไปหาพระ ท่านก็ทักว่าหนูโดนของนะลูก ควรจะรดน้ำมนต์ออก คือในปี 2540 เราสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างในปีนั้นเลย"
เรียกว่าเข็ดกับความรักไปเลยมั้ย?
"ไม่ได้เรียกว่าเข็ด แต่เรียกว่าเราถูกขโมยล็อตเตอรี่ เลขท้ายก็ไม่โดนไม่ถูกเลย อีกอย่างเราไม่มีสิทธิ์รู้ด้วยว่าเลขมันออกอะไร ฉะนั้นเลิกซื้อดีกว่า ต้องให้เหงื่อออกแล้วถึงจะได้เงิน หลังจากนั้นก็ไม่มีความรัก ขออยู่เลี้ยงลูกดีกว่า อีกอย่างทำไมต้องไปขวนขวาย"
ในข่าวบอกว่ามีความรักครั้งที่สอง?
"มันมาแบบฉาบฉวยแล้วก็ไป"
ปีที่สูญเสียหนักมาก มีความรู้สึกไหมว่าทำไมต้องมาเจออย่างนี้?
"หลังจากที่พ่อเสียก็รู้สึกว่าทำไมต้องเจออะไรแบบนี้ พอขึ้นรถเราก็พูดกับตัวเองทุกครั้งว่าและก็ร้องไห้ ทุกครั้งจะมีพ่อขับรถให้ทุกวัน เราก็พูดกับเขาว่าทำไมต้องทิ้งหนูไป หนูต้องมาดูแลชีวิตตัวหนูเอง จากนั้นมาก็ลืมทุกอย่างไป เพราะทำงานหนักมาก อีกอย่างแม่เรายังอยู่ ลูกสาวอีกสองคนก็ยังมี ถามว่าเคยคิดฆ่าตัวตายมั้ย เคยนะ แต่เราไม่ทำ เพราะไม่อยากให้พ่อเสียใจ เวลาไปไหนมาไหนก็จะเรียกพ่อให้ไปด้วยตลอด"
"อยากฝากถึงคนดูทุกคนว่าเราต้องเดินหน้าต่อไปกับชีวิต อย่าไปขวนขวายหาของเก่ากลับมา หรือขวนขวายหาความรักกลับเข้ามาใหม่ มันไม่จำเป็น ตัวเองก็อยู่ได้ เรายังมีแม่ มีลูกๆ ที่ยังอยู่กับเรา คนอื่นก็คือคนอื่นเวลาที่เขาไม่รักเราแล้ว" ดารารุ่นใหญ่กล่าว