Home »
Uncategories »
“7 ข้อ ที่ไฟแนนซ์ใช้อ้างเพื่อเอาเปรียบเรา” รีบเช็คด่วน ก่อนโดนยึดรถ!! [รายละเอียด]
“7 ข้อ ที่ไฟแนนซ์ใช้อ้างเพื่อเอาเปรียบเรา” รีบเช็คด่วน ก่อนโดนยึดรถ!! [รายละเอียด]
วันนี้แอดมินมีข้อมูลดีๆมาแนะนำเพื่อนๆกันอีกตามเคย หากอ่านแล้วมีประโยชน์ อย่าลืมกดแชร์เพื่อบอกต่อคนอื่นๆกันด้วยนะคะ
โลกออนไลน์ได้มีการแชร์ข้อมูลความรู้เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว
โดยรู้เท่าทันไฟแนนซ์
หากวันหนึ่งต้องตกอยู่ในสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ทั้งนี้
โพสต์ดังกล่าวได้แบ่งเป็นข้อ ๆ ให้อ่านและทำความเข้าใจได้ง่ายขึ้น
โดยระบุว่า… ไฟแนนซ์รถ……ช่วยกันแชร์ต่อไปนะครับ
เผื่อมีญาติพี่น้องเราตกอยู่ในสถานการณ์ดังกล่าว
1. สิ่งที่ไฟแนนซ์มักจะข่มขู่ คือ ให้เรารับผิดชอบค่าติดตามยึดรถ
ค่าทนายความ ค่าธรรมเนียมศาล โดยมักข่มขู่ ให้ผู้เช่าซื้อเป็นผู้รับผิดชอบ
โดยอ้างตัวเลขจำนวนสูง และเราควรรู้ไว้ด้วยว่าไฟแนนซ์ไม่สามารถเรียกค่าใช้
จ่ายดังกล่าวได้ตามอำเภอใจ
การค่าเสียหายเรียกได้ตามค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจริงเท่านั้น
ดังนั้นผู้เช่าซื้ออย่าวิตก
2. การเข้ายึดรถผู้เช่าซื้อจะต้องค้างชำระค่าเช่าซื้อ 3 งวดติดต่อ กัน
ก่อนยึดรถอีก 1 เดือน รวมเป็น 4 เดือน ไฟแนนซ์จึงจะสามารถยึดรถได้
แต่ถ้าไฟแนนซ์ยึดรถก่อนหน้านี้จะมีความ ผิดตาม พรบ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.
2522 ซึ่งคุ้มครองเกี่ยวกับเรื่องสัญญา
ดังนั้นถ้าไฟแนนซ์มายึดรถก่อนกำหนดเวลาดังกล่าว
ผู้เช่าซื้อต้องอย่ายอมให้ยึดรถและให้เรียกตำรวจมาเป็นพยาน
3. การยึดรถถ้าผู้เช่าซื้อไม่ยินยอมให้ยึดรถ ไฟแนนซ์จะยึดรถไม่ได้
ถ้ามีการบังคับขู่เข็ญหรือไล่ให้ผู้เช่าซื้อลงจากรถหรือกระชากกุญแจรถ ไป
หรือเอากุญแจสำรองมาเปิดรถและขับหนีไป การกระทำดังกล่าวมีความผิดต่อ
เสรีภาพ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 309
และถ้ากระทำการโดยมีอาวุธหรือร่วมกระทำความผิดด้วยกัน ตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป
มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
เพราะฉะนั้นถ้ามีคนกระทำการดังกล่าวให้ถ่าย
รูปหรือบันทึกเสียงไว้เป็นหลักฐาน และแจ้งความดำเนินคดีอาญา หรือให้ทนาย
ฟ้องศาลได้เลย
4. เมื่อผิดนัดชำระค่าเช่าซื้อ ไม่ควรให้ไฟแนนซ์ยึดรถ
ยืนยันได้เลยว่าไม่ควรให้ไฟแนนซ์ยึดรถไม่ว่าในกรณีใดๆ
เพราะถ้าถูกยึดรถแล้วเราก็จะหมดอำนาจต่อรอง และหลังจากยึดรถไปแล้วไฟแนนซ์จะ
นำรถของเราไปขายทอดตลาดในราคาที่ต่ำกว่าท้องตลาดมาก แถมเมื่อได้เงินมาไม่
เพียงพอกับค่าเช่าซื้อที่เราค้างชำระ
ไฟแนนซ์ก็จะเรียกค่าเสียหายในส่วนนี้จากเรา
แต่ถ้ารถยังอยู่ในความครอบครองของเรา เรายังสามารถใช้ประโยชน์ในทรัพย์ได้
พูดง่ายๆ ก็คือใช้รถหาเงินได้อยู่นั่นเอง
และยังมีอำนาจต่อรองกับไฟแนนซ์อยู่
5. ในกรณีที่เราถูกยึดรถและไฟแนนซ์มีหนังสือแจ้งให้ชำระหนี้ส่วนที่
เหลือ อย่าตกใจให้หาทนายสู้คดี โดยทั่วไปค่าเสียหายของไฟแนนซ์มักจะสูงเวอร์
สุดๆ ยกตัวอย่างเช่น เรียกมา 1,000,000 บาท ศาลมักจะพิพากษาให้ชดใช้เพียง
500,000 บาทหรือ 300,000 บาท เท่านั้น
6. เมื่อแพ้คดีไฟแนนซ์จะต้องทำตัวอย่างไร
ถ้าเรามีทรัพย์สินถือครอบครองในนามลูกหนี้เราจะถูกยึดทรัพย์ทั้งหมด ถ้า
ไม่มีทรัพย์สินถือครอบครองในนามลูกหนี้ แต่ถือครอบครองในนามญาติ พี่น้อง
เพื่อนฝูง ไฟแนนซ์ก็ไม่สามารถยึดทรัพย์ของคนอื่น ซึ่งมิใช่ลูกหนี้ ได้
ดังนั้นถ้ามีไฟแนนซ์มาข่มขู่ว่าลูกหนี้มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านของใคร จะยึด
ทรัพย์เจ้าของบ้าน ตอบได้เลยว่าไม่ต้องกลัวเพราะตามกฎหมายไม่สามารถยึดได้
7. ถ้าไม่มีเงินจ่ายไฟแนนซ์จะติดคุกหรือไม่สามารถตอบได้เลยว่า ไม่ติดคุกเนื่องจากเป็นคดีแพ่งไม่ใช่คดีอาญา
สุดท้ายการเป็นหนี้ไฟแนนซ์ ไม่ต้องลาออกจากงาน
เพราะไม่มีผลกระทบต่อหน้าที่การงาน การเป็นหนี้สิน เป็นเรื่องส่วนตัว
ไฟแนนซ์นำเรื่องส่วนตัวไปประจานให้เพื่อนร่วมงานหรือผู้บังคับบัญชาของ
ลูกหนี้รับรู้ไม่ได้ ถือว่ามีความผิดฐานหมิ่นประมาท เรายังสามารถฟ้องได้อีก
แต่ถึงยังไงข้อมูลเหล่านี้ให้รู้เอาไว้เพื่อที่เราจะได้ไม่โดนข่มขู่จนหลงเชื่อ
และเสียเปรียบ แต่อย่าเอาไปใช้ในทางที่ไม่ถูกไม่ควรนะ
รถ เป็นเรื่องที่มีรายละเอียดยิบย่อยมากมาย
นี้ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญ สำหรับคนที่มีการซื้อผ่อนรถ
ดังนั้นโปรดรู้ไว้ เพื่อประโยชน์ตัวของท่านเอง
ขอบคุณข้อมูลจาก : Mthai