จงเรียนรู้ที่จะเดินลำพัง….เพราะไม่มีใครเดินเคียงคู่คุณไปตลอด

จงเรียนรู้ที่จะเดินลำพัง…เพราะไม่มีใครเดินเคียงคู่คุณไปตลอด

1. หนทางของชีวิตนั้นยาวไกล จงเรียนรู้ที่จะเดินลำพังบ้าง เผื่อวันใดที่คนอื่นไม่ได้สนใจคุณเหมือนเดิม ก็ไม่ต้องเสียใจ เพราะทุกคนต่างมีเส้นทางของชีวิตที่ต้องเดินเหมือนกัน ไม่มีใครเดินเคียงคู่คุณไปจนถึงหลายทาง อย่าให้ใครคนใดคนหนึ่งหรือเรื่องราวใดเรื่องราวหนึ่งกลายเป็นทั้งหมดในชีวิตคุณ

2. ความซาบซึ้งทดแทนความผูกพันไม่ได้   ไม่ว่าจะเป็นไคร เพื่อนหรือคนแปลกหน้า คุณต้องเรียนรู้ที่จะยิ้มแม้ในใจจะร่ำไห้สะอื้นสักเพียงใด เพราะมนุษย์ทุกคนต่างมีความเห็นแก่ตัว จึงอย่าไปคาดหวังว่าจะมีใครดีต่อคุณโดยปราศจากเงื่อนไข หากใครคนหนึ่งไม่มีค่าเพียงพอให้คุณถนอม ก็ต้องฝึกปล่อย ฝึกวาง ฝึกทิ้ง

3. กำแน่นเท่าใดก็สูญเสียมากเท่านั้น เหมือนกับการกำทรายนั่นแหละ ยิ่งคุณกำแน่นทรายก็ร่วงออกจากมือมากเท่านั้น ที่ควรถนอมจงรู้ถนอม เพราะเมื่อใดที่คุณสูญเสียไป สิ่งนั้น คนนั้น อาจเป็นสิ่งที่มีค่าที่ทำให้คุณเจ็บปวดและเสียใจที่สุดก็เป็นได้ เมื่อใดที่รู้สึกสิ้นหวัง หากอยากร้องไห้ก็ร้องออกมาเถอะ แต่เมื่อร้องจนหนำใจแล้วก็ต้องลุกขึ้นยืนหยัดอีกครั้งให้ได้

4. อย่าเลือกคบคนที่รูปร่างหน้าตา จงเรียนรู้ที่จะชื่นชมคนที่ความสามารถ และหากคุณคิดว่าตัวเองสู้คนอื่นเขาไม่ได้ อย่าได้น้อยเนื้อต่ำใจ เพราะคุณก็เป็นคนธรรมดาเหมือนคนอื่นทั่วๆไป

5. พ่อแม่คือคนที่รักและปรารถนาดีต่อคุณมากที่สุด อย่าคิดถึงท่านเฉพาะตอนไม่มีเงิน อย่าคิดว่าในสายตาพ่อแม่คุณยังเป็นเด็กอยู่ตลอดเวลา อันนี้ก็ถูก(ถูกในมุมของพ่อแม่) แต่ไม่สงสารพ่อแม่เหรอ ที่มีลูกไม่รู้จักโตสักที..

6. ไม่มีอะไรเหมือนเดิม เพราะทุกสิ่งเปลี่ยนไปทุกเวลานาที..อย่าเอาวิธีการเก่าๆมาแก้ไขปัญหา..คนสองคนรักกัน อาจไม่ได้อยู่ด้วยกันตลอดเวลา อย่าเอาแต่พร่ำเพ้อ อย่าเอาแต่เรียกร้อง เพราะสิ่งนี้อาจเป็นชนวนที่ทำให้คนสองคนยิ่งมากยิ่งห่าง ยิ่งมายิ่งกลายเป็นคนแปลกหน้า

“ความโชคร้ายของมนุษย์ถือกำเนิดขึ้นจากการไม่ชอบที่จะอยู่โดยลำพัง”
– ฌอง เดอ ลา บรูแยร์ (JEAN DE LA BRUYERE) ประโยชน์เน้นๆ 10 ประการที่จะเกิดขึ้นเมื่อคุณเริ่มที่จะลองอยู่คนเดียว ไปดูกัน!

1. เหมือนคุณได้ชาร์ตแบตให้ตัวเอง
บ่อยครั้งเวลาเราอยู่ท่ามกลางผู้คน เรามักจะสูญเสียพลังงานไปอย่างมากในการทำให้ผู้คนรอบข้างมีความสุข ให้เขาหัวเราะ คอยปลอบประโลมเยินยออีโก้ของพวกเขา ไม่ก็ใช้พลังงานไปกับการอ่านอารมณ์และปฏิสัมพันธ์กับพวกเขา ซึ่งการกระทำเหล่านี้มักจะดูดพลังงานไปจากจิตใจของเราจนหมด และหากคุณได้อยู่คนเดียวซะบ้างก็คงดีไม่น้อยเพื่อจะทำให้คุณได้เติมพลังของคุณกลับมาจนเต็ม แล้วพักกายพักใจจากการต้องคอยติดต่อกับผู้คนรอบข้างอยู่ตลอดเวลา

2. คุณจะได้กลับมาคิดทบทวนเรื่องต่างๆในชีวิตมากขึ้น
ชีวิตคนเรามักไม่เคยหยุดอยู่กับที่และเคลื่อนไหวตลอดเวลา ซึ่งความเร่งรีบเหล่านั้นก็ไม่เคยจะให้คุณได้หยุดพักมองตัวเองแล้วขบคิดถึงสิ่งที่คุณต้องการในชีวิตจริงๆเลย ดังนั้น หากคุณได้อยู่คนเดียวก็จะเป็นโอกาสที่เยี่ยมยอดที่จะได้อยู่กับตัวเองแล้วคิดทบทวนเรื่องต่างๆให้ถี่ถ้วน เพราะเมื่อคุณอยู่คนเดียว คุณไม่ต้องมาเสียเวลาในการคิดถึงความคิดความรู้สึกของคนรอบข้าง ทำให้คุณมีเวลามากขึ้นที่จะโฟกัสเข้าไปข้างในจิตใจของคุณเอง ช่วงเวลาโดดเดี่ยวนี่ล่ะคือช่วงเวลาที่ดีที่สุด!

3. คุณจะเข้าใจอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองมากขึ้น
คล้ายกับข้อข้างบน คือเมื่อคุณถูกรายล้อมด้วยคนรอบข้างตลอดเวลา คุณก็จะใช้เวลาไปกับการอ่าน ทำความเข้าใจ และประคบประหงมอารมณ์ของคนอื่นๆ จนคุณก็หลงลืมที่กลับมาทำความเข้าใจอารมณ์ของคุณเอง ดังนั้น เมื่อคุณเริ่มที่จะได้อยู่กับตัวเอง คุณจะได้พบกับมุมมองใหม่ๆเกี่ยวกับอารมณ์ของคุณเอง โดยคุณจะเข้าใจอย่างลึกซึ้งขึ้นถึงหลายๆเหตุผลในแต่ละอารมณ์ของคุณ ทั้งสิ่งที่ทำให้คุณมีความสุข สิ่งที่ทำให้คุณอารมณ์เสีย หรือแม้แต่สิ่งที่ทำให้คุณเศร้า และเมื่อคุณรู้ซึ้งถึงรากเหง้าอารมณ์ตัวเองก็จะทำให้คุณควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ง่ายขึ้น ดังนั้น คุณต้องลองอยู่คนเดียว ถึงจะเข้าใจในอารมณ์ของตัวเอง

4. คุณจะเริ่มต้นทำในสิ่งที่คุณอยากที่จะทำ
เวลาคุณอยู่กับคนอื่นๆ คุณมักจะต้องคอยประนีประนอมกับคนรอบข้างเพื่อจะได้ทำในสิ่งที่คนรอบข้างคุณก็อยากจะทำด้วยกัน และมันก็มักจะไม่ใช่สิ่งที่คุณอยากจะทำที่สุดด้วยน่ะสิ เพราะฉะนั้นหากคุณได้อยู่คนเดียว คุณก็จะรู้ว่าคุณมีอิสระมากขึ้นในการที่จะทำอะไรก็ได้ตามใจตัวเองอย่างแท้จริง

5. คุณจะทำงานได้มากขึ้น
ช่วงเวลาที่คุณได้อยู่กับคนอื่นๆมันเป็นช่วงเวลาที่สนุกสนานก็จริง แต่มันก็มักจะลดความสามารถในการทำงานของคุณลงอย่างโข เพราะคนเหล่านั้นก็มักจะทำให้คุณเขวไปจากงานที่คุณพยายามจะทำให้เสร็จ ยิ่งคุณใช้เวลาอยู่คนเดียวมากขึ้น ก็ยิ่งจะเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานมากขึ้น เพราะคุณจะไม่ไขว้เขวแล้วก็จะกลับมาโฟกัสกับงานได้มากยิ่งขึ้น

6. คุณจะมีความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นกับผู้อื่น
และเมื่อคุณได้อยู่คนเดียวมากขึ้น มันกลับทำให้คุณยิ่งมีความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นกับคนอื่นๆ นั่นก็เป็นเพราะยิ่งคุณอยู่คนเดียว คุณก็จะมีความชื่นชมในตัวเองมากขึ้น แล้วก็จะเริ่มชื่นชมในสิ่งที่ผู้อื่นได้ทำให้คุณจากความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้คุณอาจเคยมองข้ามและไม่ได้สนใจมันมาก่อน

7. คุณจะรู้สึกเป็นอิสระมากขึ้น
เมื่อคุณเริ่มชอบที่จะอยู่คนเดียว คุณก็จะเริ่มรู้สึกมั่นใจที่จะทำอะไรคนเดียว ยิ่งทำให้คุณรู้สึกอิสระมากขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งพาใครๆ คุณจะไม่รู้สึกกลัวหรือต้องการมีคนไปไหนมาไหนเป็นเพื่อนตลอด คุณจะไม่รู้สึกว่ามันจำเป็นขนาดนั้นที่จะต้องมีคนคุยด้วยตลอดเวลา และจะไม่รู้สึกประหม่ากลัวที่จะมองไปรอบๆแล้วไม่เห็นใครนอกจากตัวคุณเอง

8. คุณจะไม่รู้สึกว่าต้องพยายามเอาใจผู้อื่นอีกต่อไป
แน่นอนว่าเวลาคุณมีความสัมพันธ์กับใครคนหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ส่วนตัวหรือกับใครก็ตาม คุณก็อยากจะรักษาความสัมพันธ์นั้นไว้โดยพยายามทำให้อีกฝ่ายรู้สึกพอใจ ซึ่งมันก็เป็นงานที่เหนื่อยและใช้พลังงานอย่างมากที่จะทำเช่นนั้นตลอดเวลา ดังนั้นเมื่อคุณได้อยู่คนเดียว มนุษย์ผู้เดียวที่คุณต้องมาห่วงว่าเขาจะมีความสุขรึเปล่าก็คือตัวคุณเอง! คุณจะปรนนิบัติตัวเองยังไงให้คุณมีความสุขก็ทำได้ตามใจ แต่แค่อย่าไปทำให้คนอื่นเดือดร้อนก็เพียงพอ

9. คุณไม่ต้องขอโทษพร่ำเพรื่อแก่สิ่งใดๆอีกต่อไป
พอคุณได้อยู่คนเดียว จะเห็นได้เลยว่าคุณไม่ต้องมาคอยขอโทษผู้อื่นในสิ่งที่คุณได้ทำ เพราะพอคุณอยู่คนเดียว สิ่งที่คุณทำก็ทำเพื่อตัวเอง ไม่ได้กระทบหรือทำให้ใครรู้สึกไม่ดีแล้วต้องขอโทษเขาแล้วมารู้สึกกดดันใส่ตัวเอง พอคุณอยู่คนเดียวคุณก็ไม่ต้องมานั่งคาดเดาผลจากคำพูดและการกระทำของคุณว่าจะไปกระทบผู้อื่นหรือทำให้เขาโกรธหรือเศร้าหรือไม่ ไม่เลย สบายจะตาย!

10. คุณจะเลิกถามหาคำยืนยันยอมรับจากผู้อื่น
บ่อยครั้งที่เรามักจะอยากได้ยินความเห็นจากเพื่อนหรือครอบครัวเพื่อจะยืนยันในการกระทำของเราว่ามัน “ถูกต้อง” แล้วเราก็แสวงหาคำยืนยันเหล่านั้นตลอดก่อนจะทำสิ่งใดๆต่อไป ซึ่งแน่นอนในบางเวลา ความเห็นเหล่านั้นมันก็จำเป็น แต่ในบางเวลามันก็ไม่ผิดเลยหากเราจะตัดสินใจกระทำในบางสิ่งด้วยตัวของเราเอง แต่แล้วเราก็ยังจะแสวงหาคำตอบจากผู้อื่นโดยไม่จำเป็น ดังนั้น เมื่อคุณได้เริ่มจะอยู่คนเดียว คุณก็จะเริ่มเรียนรู้ที่จะเชื่อมั่นในสัญชาตญาณของตัวคุณแล้วตัดสินใจลงมือทำด้วยตัวของคุณเอง โดยปราศจากความเห็นของผู้อื่นมาเป็นหลักยืนยันให้คุณ

เห็นไหมละว่าการอยู่คนเดียวก็ไม่ได้เลวร้ายเสมอไป ออกจะดีต่อจิตใจของตัวคุณเองด้วยซ้ำ!

ขอขอบคุณเรื่องราวดีๆ จาก เพจอะไรนั่น และเพจ kiitdoo