แบบนี้ต้องแชร์! เผยสูตรรักษา ‘ริดสีดวงทวาร’ ด้วยกระชายกับมะขามเปียกหายแน่นอน!

เชื่อเหลือเกินว่ามีเพื่อนๆ ไม่น้อยที่กำลังเป็น ริดสีดวงทวาร ในตอนนี้ ซึ่งบอกเลยว่ามันทรมารมาก เวลานั้งหรือเวลาขับถ่าย ริดสีดวงทวาร คือ การที่เส้นเลือดดำ รอบๆทวารหนักเกิดการโป่งพองขึ้นขนาดใหญ่บ้างเล็กบ้าง

จนสุดท้ายทำให้เกิดอาการริดสีดวงทวารขึ้น ซึ่งอาการเริ่มต้นจะมีตั้งแต่คันที่ปากทวารหนัก ไปจนถึงเจ็บทวารหนักเวลาขับถ่าย หรือบางทีมีเลือดปนมากับอุจจาระ

ลักษณะเป็นเลือดสดๆหลังการขับถ่าย จะว่าไปอาการค่อนข้างน่าตกใจน่ากลัวนะคะ ใครที่เคยเป็นคงทราบถึงความเจ็บปวดทุกทรมานกันดี

สาเหตุที่เป็นนั้นส่วนใหญ่เกิดจากพฤติกรรมการขับถ่าย หรืออาการท้องผูกเรื้อรัง ทำให้ต้องใช้กำลังในการเบ่งมาก จึงทำให้เส้นเลือดดำบริเวณทวารหนักเกิดการโป่งพองจนกลายมาเป็นโรคริดสีดวงในที่สุด

สมุนไพรไทยที่จะแก้อาการริดสีดวงทวารก็มากมายหลายสูตร และหลายชนิด อยู่ที่ว่าสูตรไหนชนิดไหนใช้รักษาอาการริดสีดวงทวารที่เป็นมากหรือเป็นน้อยแตกต่างกันไป

ซึ่ง “กระชาย–มะขามเปียก” เป็นสูตรรักษาอาการริดสีดวงทวารที่เพิ่งจะเริ่มเป็นใหม่ๆ ยังไม่ถึงขั้นรุนแรง และไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามารู้จักสมุนไพรชนิดนี้กันเลยค่ะ

กระชาย

กระชาย หรือ BOESENBERGIA ROTUNDA (LINN) MANSF. อยู่ในวงศ์ ZINGIBERACEAE เหง้าและราก มีน้ำมันหอมระเหย CINEOL BORNEOL ใช้แต่งกลิ่นอาหาร แก้บิด แก้โรคในปาก เช่น ปากเปื่อย ปากแตกระแหง “กระโปกกระชาย” ต้มรวมกับ หญ้าขัดมอญ ดื่มต่างน้ำชาบำรุงเลือดแก้กามตายด้าน

มะขาม

เป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดจากทวีปแอฟริกา แต่เข้าสู่ประเทศไทยมานานกว่า 700 ปี กระทั่งมีความเชื่อของคนไทยมาแต่โบราณว่าปลูกต้นมะขามไว้ทางทิศตะวันตกของบ้านจะช่วยให้มีแต่คนเกรงขาม

เราสามารถจำแนกมะขามออกเป็นมะขามเปรี้ยวและมะขามหวาน พันธุ์มะขามหวานที่นิยมกินฝักสด เช่น พันธุ์สีทอง น้ำผึ้ง ขันตี หมื่นจง ส่วนมะขามเปรี้ยวมักนำไปทำมะขามเปียก สามารถเก็บไว้ได้นาน ใช้ปรุงอาหารให้รสเปรี้ยวกลมกล่อม

ยอดอ่อนมะขามให้รสเปรี้ยว นิยมนำไปปรุงอาหาร มีวิตามินซีสูงกว่าส่วนอื่น ๆ ช่วยปกป้องตาจากสารอนุมูลอิสระที่เป็นสาเหตุให้เลนส์ตาขุ่นมัว และช่วยให้ร่างกายมีภูมิต้านทานโรคสูงขึ้น

เนื้อมะขามมีกรดอินทรีย์อย่างกรดทาร์ทาริกและกรดซิตริก ซึ่งมีฤทธิ์ระบายและลดความร้อนของร่างกาย ใครมีปัญหาท้องผูกบ่อย ๆ ให้ลองกินมะขามสุกสัก 3-4 ฝัก แล้วดื่มน้ำอุ่นตามเยอะ ๆ รับรองเห็นผล

แถมยีงช่วยขับเสมหะและลดอาการไอด้วย แคลเซียมนั้นมีมากที่ในฝักอ่อนและมีปริมาณรองลงมาในมะขามเปียกและยอดอ่อน ส่วนมะขามสุกจัดจนเป็นมะขามเปียกนั้นจะมีเส้นใยอาหารสูง

สรรพคุณทางยา

สรรพคุณทางยามีมาแต่โบราณของมะขาม เช่น เนื้อในฝักแก่แก้อาการท้องผูก แก้ไอ ขับเสมหะ เป็นยาระบาย เนื้อมะขามเปียกข้น ๆ ผสมเกลือ กินขับเลือดที่ตกค้างของหญิงหลังคลอด

เมล็ดแก่คั่วสุกกะเทาะเปลือก แช่น้ำเกลือให้พอง กินเป็นยาถ่ายพยาธิไส้เดือนหรือบดเป็นผงละลายน้ำ ปิดแผลในคนเป็นโรคเบาหวาน

ใบแก่เป็นยาแก้ไอ ขับเสมหะ ขับเลือดและลมในลำไส้ แก้โรคบิด เปลือกต้นต้มน้ำดื่มเป็นยาแก้ท้องเดิน หรือใช้อมแก้เหงือกบวม แก้ฟันผุ

วิธีการรักษา

ให้เอา “กระชาย” สด กับ “มะขามเปียก” อย่างละ 50 กรัม และ เกลือป่น 10 กรัม ไปต้มกับน้ำ 1 ลิตร จนเดือดดื่มก่อนนอนครั้งละ 3 ส่วน 4 แก้ว ดื่มทุกวันอาการที่เป็นจะค่อยๆดีขึ้นและหายได้ในที่สุด

เป็นยังไงบ้างคะ กับวิธีการรักษาริดสีดวงทวารโดยใช้ กระชาย-มะขามเปียก เห็นแล้วใช่ไหมคะว่าสมุนไพรไทยของเรามีประโยชน์มากมายจริงๆ นอกจากจะใช้ปรุงอาหารให้อร่อยแล้วยังเป็นยารักษาโรคได้อีกด้วย

สุดท้ายนี้ของฝากนิดนึงนะคะ หากใครเป็นโรคริดสีดวงทวารแล้วรักษาหาย ไม่ว่าจะทานยาหรือใช้สมุนไพรก็ตาม ท่านยังมีโอกาศที่จะกลับมาเป็นอีก

แนะนำวิธีป้องกันที่ได้ผลดีที่สุด คือ ให้เปลี่ยนพฤติกรรมด้านการขับถ่าย โดยขับถ่ายให้สม่ำเสมอ และเป็นเวลา รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และรับประทานพวกผักผลไม้ที่ช่วยในเรื่องของการขับถ่ายรับรองว่าริดสีดวงทวารจะไม่กลับมาหาท่านอีกแน่นอนค่ะ

แหล่งที่มา : ไทยสมุนไพร.net