Home »
Uncategories »
ดูไว้เตือนใจ จากเศรษฐีรวยพันล้าน ตกอับ-ล้มละลาย กลายเป็น “พ่อค้าก๋วยเตี๋ยว” ในวัย 76 ปี
ดูไว้เตือนใจ จากเศรษฐีรวยพันล้าน ตกอับ-ล้มละลาย กลายเป็น “พ่อค้าก๋วยเตี๋ยว” ในวัย 76 ปี
วันนี้เรามีเรื่องราวของเศรษฐีคนหนึ่ง อายุ 76 ปี เขาเคยรวยถึงพันล้าน
แต่สุดท้ายต้องตกอับ ล้มละลาย กลายเป็น “พ่อค้าก๋วยเตี๋ยว” ในวัย 76 ปี
เราจึงอยากนำเรื่องราวนี้มาเป็นเครื่องเตือนใจ สำหรับทุกคน
เรื่องราวจะเป็ยอย่างไรนั้น มาชมพร้อมกันเลย
เจ้าของที่ดินในกรุงเทพมหานคร
และตามหัวเมืองใหญ่ของประเทศไทย รวมแล้วกว่า 500
ไร่จากเคยทำธุรกิจค้าไม้ได้กำไรอย่างงาม ใช้ชีวิตสุขสบาย หรูหรา
หมดเงินไปกับการกินการดื่มครั้งละนับแสน ส่งเสียลูกทุกคนเรียนเมืองนอก
ขณะที่ภรรยาชอบเล่นหุ้น สามารถสร้างรายได้เป็นเงินสดกว่าพันล้าน
ซ้ำยังผ่านวิกฤติต้มยำกุ้ง ปี 40 มาได้แบบไม่ต้องรับผลกระทบใดๆ
ต่อมาเกิดน้ำท่วมหนักหลายพื้นที่ในประเทศไทย ส่งผลให้ต้องเลิกทำธุรกิจค้าไม้
ก่อนย้ายมาตั้งโรงงานอะไหล่ที่ จ.อยุธยา ผลกระทบจากอุทกภัยในครั้งนั้น
ทำให้ทรัพย์สินของเขาทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น รถ 19 คัน บ้าน 5 หลัง
ที่ดินและเงินสดทั้งหมดสูญไป ด้านภรรยาเล่นหุ้นขาดทุนกว่า 400 ล้านบาท
ทิ้งไว้เพียงหนี้กองโตจำนวนกว่า 200 ล้าน
เมียผมชอบเล่นหุ้น หุ้นก็ขึ้นเอาๆ
เรามีเงินสดหลายร้อยล้าน ปีที่เกิดวิกฤติต้มยำกุ้ง ผมไม่ได้รับผลกระทบ
กระทั่งปีที่น้ำท่วมใหญ่ ผมจึงเลิกกิจการโรงไม้
หันมาตั้งโรงงานอะไหล่เครื่องยนต์ที่อยุธยา ทรัพย์สมบัติครั้งนั้น มีรถยนต์
19 คัน บ้านอีก 5 หลัง
ที่ดินทั้งหมดและเงินสดที่เคยมี
แฟนผมเล่นหุ้นเจ๊งไปสี่ร้อยกว่าล้าน ลูกๆ ทำธุรกิจก็หมดตัวขาดทุนย่อยยับ
ภายใน 2 ปีสิ่งที่ผมมีมันหายไปหมด
เหลือไว้เพียงหนี้สินสองร้อยกว่าล้าน
ปัจจุบัน ผมคือบุคคลล้มละลาย
เช่าห้องแถวอยู่พอได้ขายก๋วยเตี๋ยวประทังชีวิต รอความตายไปวันๆ
เมียผมก็ไม่มีกะจิตกะใจทำอะไร ลูกๆ ผมไม่เคยเห็นหน้า ตอนนี้ผมอายุ 76
ผมต้องยกหม้อก๋วยเตี๋ยว ล้างจานเอง” ชายแก่วัย 76 ปี
ถ่ายทอดเรื่องราวให้ฟัง
ทุกวันนี้ปลงได้แล้ว
มาลำบากตอนแก่ เงินค่าเช่าห้องต้องไปยืมกับคนที่เราเคยด่าเขาไว้
ลูกของเขายื่นเงินให้เราแสนห้าพร้อมพูดว่า “พ่อผมบากหน้าไปยืมเงินคุณลุงเพราะตอนนั้นผมเข้าโรงพยาบาลผ่าตัดสมอง
พ่อนั่งร้องไห้ คุณลุงด่าแล้วโยนเงินให้เหมือนหมา”
ผมเดินร้องไห้มาถึงบ้าน
เอาเงินจ่ายค่าเช่าห้องแถว ลงทุนมีเงินเก็บไว้ 30,000 บาท
และผมเข้าใจความรู้สึกของคำว่า “กรรมนั้นตามสนอง” หลานไม่ได้ด่าผม
แต่หลานพูดความจริง เพียงแต่ผมรับความจริงไม่ได้ แต่ตอนนี้ผมมีความสุขดี
พระแม่ชี ขอทาน มากินก๋วยเตี๋ยวที่ร้านผม ผมไม่คิดเงิน ตอนผมมีเยอะๆ
ผมเบื่อคนบอกบุญ ผมหลอกเขาว่านับถือคริสต์ ผมไม่เคยทำบุญ แต่ใช้เงิน
ผมเที่ยว ผมกิน ผมมีผู้หญิง
ตอนนี้ผมหมดตัวมีหนี้สิน
สิ้นเพื่อน ไร้ลูก ผมถึงได้ฟังธรรมะ เข้าวัดเป็น รู้จักทาน
อีกหน่อยก็คงตายไป ผมห่วงแค่เมียผม ผมภาวนาให้เมียผมตายก่อนผม
เพราะถ้าผมตายก่อนเมียผม ผมจะตายตาไม่หลับ
**เรื่องราวของคุณลุงตกอับวัย
76 ปี ถูกถ่ายทอดไว้ในเว็บไซต์ที่สุดดอทคอม โดยผู้เขียนระบุชัด
ไม่ขอเปิดเผยตัวตนของคนในเรื่อง พร้อมยืนยันว่า ทั้งหมดนี้คือข้อเท็จจริง
แหล่งที่มา: ที่สุดดอทคอม