ประวัติก๋วยเตี๋ยวเรือ
เส้นทางแห่งก๋วยเตี๋ยว ก๋วยเตี๋ยวเกิดขึ้นเมื่อใด ไม่ปรากฏ แต่ในประเทศจีนสมัย กุบไรขาน (พ.ศ.1822-1837) มาโค โปโล เดินทางจากอิตาลีโดยเส้นทางสายไหมสู่เมืองจีน มาโคโปโลกล่าวถึงกองเรือสินค้าที่มากมายของจีน และสิ่งมีค่ามหาสานสองสิ่งคือดินปืนและบะหมี่
จึงเป็นเหตุให้แนวความคิดของคนในโลกเข้าใจถึงกำเนิดและที่มาของเส้นสปาเกตตี ว่าเกิดมาได้อย่างไร ส่วนในเมืองไทยมีการค้าขายกับชนชาติจีนมาแต่ยุคสุโขทัยเช่นเครื่องสังขโลกโดยการค้าทางเรือแต่ก็ไม่ปรากฏการกล่าวถึงก๋วยเตี๋ยว จนมาในสมัยอยุธยา ถ้าจะกล่าวถึงยุคทองแห่งอาหารก็หน้าจะเป็นสมัยของสมเด็จพระนารายณ์ (พ.ศ.2199-2231) ซึ่งมีการเปิดการค้ากับอารยะประเทศ อาหารสารพัดชนิดไหลเข้ามาในเมืองไทยและก็มีการดัดแปลงให้เข้ากับท้องถิ่นและวัสดุในท้องที่ที่มี ชาวจีนที่มาค้าขายก็นำก๋วยเตี๋ยวมาทำกินกันและก็แบ่งให้ผู้ร่วมค้ากินก็เป็นของใหม่และแปลกสิ่งสำคัญก๋วยเตี๋ยวเป็นอาหารจานเดี่ยว ก็แค่ลวกเส้นใส่หมูเติมน้ำซุปก็กินได้แล้ว ก๋วยเตี๋ยวในปัจจุบันช่วงที่รุ่งโรจน์ที่สุดก็จะเป็นในสมัยของรัฐบาลจอมพล ป.พิบูลสงคราม ในปีพ.ศ. 2485
เกิดน้ำท่วมใหญ่ในกรุงเทพฯ การถวายบังคมพระบรมรูปทรงม้าในเดือนตุลาคมก็ยังต้องใช้เรือพายไป ส่วนในทำเนียบรัฐบาลการประชุมคณะรัฐมนตรีจึงต้องจ้างก๋วยเตี๋ยวเรือเข้าไปเลี้ยงคณะรัฐมนตรีที่มาเข้าร่วมประชุม ผู้นำประเทศชมอร่อยจึงมีนโยบายส่งเสริมให้คนไทยกินก๋วยเตี๋ยว และให้มีการขายก๋วยเตี๋ยวให้มาก เพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำและวัฒนธรรมสร้างชาติ หน่วยงานราชการทุกกรมกองข้าราชการส่วนใหญ่ต้องหันมาขายก๋วยเตี๋ยวเพื่อสนองนโยบาลของรัฐบาล ก็หน้าจะเรียกได้ว่าเป็น ยุคทองของก๋วยเตี๋ยว ในปัดจุบันก๋วยเตี๋ยวมีการพัฒนาหลากหลายในแต่ละถิ่นแต่ละภาคเช่นก๋วยเตี๋ยวเรืออยุธยาก็จะจำกัดความว่า สูตรโบราณ ก๋วยเตี๋ยวหมูใส่กุ้งแห้ง (แต่ก่อนไม่มีผงชูรสกุ้งแห้งก็คือเครื่องชูรสทำให้น้ำหวานหน้าจะมีสารที่ไปกระตุ้นต่อมน้ำลาย) จนมาเป็นก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย แต่จะกล่าวกันว่าคนเมืองสุโขทัยแต่โบราณก็จะเรียกว่า ก๋วยเตี๋ยวไทยแต่คนต่างถิ่นโดยทั่วไปก็จะเรียกเต็มยศว่า ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย ส่วนที่ต่างจากถิ่นอื่นก็คือการปรุงด้วยน้ำมะนาวถั่วลิสงป่นและถั่วฝักยาวเป็นสูตรหลัก ซึ่งก็คล้ายกับก๋วยเตี๋ยวของเมืองกำแพงเพชรที่เรียกว่า ก๋วยเตี๋ยวชากังราว เพียงต่างกันที่สุโขทัยใส่หมูแดงเพิ่มเข้าไปและก๋วยเตี๋ยวชากังราวปรุงรสด้วยหัวไช้โปกับกุ้งแห้ง และในลักษณะที่คล้ายกันก็จะมีที่เมืองใต้ พบที่เมืองนครศรีธรรมราช
ก็จะใช้หมูสามชั้นต้มหั่นใส่แทนหมูแดง แต่จะเปลี่ยนจากถั่วฝักยาวมาเป็นผักบุ้งแทนคล้ายก๋วยเตี๋ยวอยุธยาที่ใส่ผักบุ้ง และก๋วยเตี๋ยวเรือรังสิตเมืองปทุมธานีก็จะเหมือนของอยุธยาเช่นกัน
สมัยก่อน พ่อค้าก๋วยเตี๋ยวเรือใน 1 ลำ มีเพียง 1 คนเท่านั้น ทำทุกอย่างตั้งแต่ พายเรือ ลวกเส้น ปรุงก๋วยเตี๋ยว เสริฟ เก็บตังค์ เก็บชาม ล้างชาม ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ทำโดยไม่ได้ขยับเลยแม้แต่น้อยคือ พายเรือมา พอมีคนเรียก ก็จะมาจอดเทียบท่า เอาขาข้างนึงยันบันไดท่าน้ำเป็นฐานไว้ แล้วเริ่มลวกก๋วยเตี๋ยวขาย ส่วนกระบวนการล้างชามนั้นก็แค่แกว่งๆจุ่มๆในคลองนั่นเอง (เพราะเมื่อก่อนน้ำในคลองสะอาดจึงล้างได้) ทีนี้ การที่คนขายอยู่ในเรือ คนซื้ออยู่บนฝั่ง การส่งก๋วยเตี๋ยวขึ้นมาสู่ลูกค้านั้น หากเป็นชามใหญ่อาจทำให้หนัก ยกลำบาก และเรือที่โคลงเคลงอาจทำให้น้ำซุปกระฉอกมาลวกขาคนขายได้ ดังนั้นก๋วยเตี๋ยวเรือจึงทำชามเล็กๆ น้ำซุปน้อยๆแต่เข้มข้นเข้าไว้ ทำให้ส่งมอบสินค้าได้ง่าย ปลอดภัยด้วยประการฉะนี้แล…
ตกงานมาทางนี้ แจกฟรี สูตร “ก๋วยเตี๋ยว” ลงทุนน้อยแค่ มีเงิน 700 บาท ก็ทำขายได้
นอกจากอาหารถูกจริตคนไทย อย่างสารพัดน้ำพริก หรือทำง่ายอย่างปาท่องโก๋ แล้วนั้น อาจารย์ขนิษฐา ชัยชาญกุล หรือ อาจารย์ตุ๊ก อาจารย์สอนทำอาหาร สร้างอาชีพที่ มติชน อคาเดมี และมีประสบการณ์การสอนอาชีพ ที่สำนักงานส่งเสริมและฝึกอบรมกำแพงแสน แนะนำว่า ถ้าหากจะหาอาชีพขายของที่สามารถทำเองได้ที่บ้าน โดยที่ไม่ต้องลงทุนมากมายนักและสามารถอาศัยอุปกรณ์พื้นฐานที่มีในบ้านเพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเริ่มต้นลงทุนครั้งแรกได้ด้วย นั่นคือ การทำเมนูก๋วยเตี๋ยวขาย ซึ่งเป็นอาหารจานเด็ด ตอบโจทย์คนไทย เพราะกินง่าย ทุกเพศทุกวัยสามารถกินได้
ที่สำคัญคือเป็นการลงทุนที่ไม่มาก เพียงแค่ซื้อวัตถุดิบอย่างพวกของสด ก็สามารถทำก๋วยเตี๋ยวขายได้แล้ว และอาศัยเอาพวกหม้อต้ม ชาม ถ้วย ช้อน อุปกรณ์ในครัวเรือนที่มีในบ้านมาประยุกต์ใช้ในการขาย ก็สามารถขายก๋วยเตี๋ยวได้แล้ว
จากประสบการณ์ที่ผ่านมาในการไปตระเวนสอนตามที่สถาบันการศึกษาต่างๆ คือมีหลายคนไม่ค่อยเชื่อว่าการขายก๋วยเตี๋ยวจะสามารถขายได้จริงๆ สิ่งที่ดีที่สุดในการสอน คือ ทำให้เขาเห็นจริงๆ ว่าทำได้ สอนโดยใช้อุปกรณ์ครัวเรือนในบ้านมาทำให้ดู ให้เห็นเลยว่าสามารถทำขายได้จริง
“สำหรับ เงินทุน หรือการลงทุน ถ้าเริ่มต้นลงทุนเพียงแค่วัตถุดิบสด อย่างพวกผัก หมู เส้นต่างๆ กำเงิน 700 บาทก็สามารถทำก๋วยเตี๋ยวขายได้แล้ว การลงทุนครั้งนี้จะสามารถทำก๋วยเตี๋ยวชามเล็ก ชามละ 15 บาท ขายได้ประมาณ 100 ชาม ก็จะได้เงินประมาณ 1,500 บาท” อาจารย์ตุ๊ก บอก
แต่การค้าขายไม่ว่าจะขายอะไร ก็ต้องเก็บเงินให้เป็นระบบทั้งนั้น เพราะมันคือเงินสดที่เห็นได้ และสามารถหยิบเอาออกมาใช้จ่ายได้ง่าย สิ่งที่ต้องทำมากๆ คือ การเก็บเงิน เพราะว่าการลงทุนค้าขายครั้งต่อไป จำเป็นต้องใช้เงินในการต่อยอดสืบไป ถ้าหากขายได้ หรือขายดี ก็ควรจะค่อยๆ ขยับขยายกำลังในการขาย อย่ารีบร้อนมากจนเกินไป
โดยอาจารย์ตุ๊ก มีสูตรก๋วยเตี๋ยวเรือมาให้อีกด้วย เผื่อใช้ไปเป็นแนวทาง หรือสำหรับคนที่ต้องการสูตรก๋วยเตี๋ยวเรือแล้วยังไม่มีสูตร หรือไม่รู้จะเริ่มต้นจากตรงไหน จะได้นำเอาไปเป็นใช้ในการค้าขายต่อไป
สูตรก๋วยเตี๋ยวเรือ
วิธีการทำดังนี้ “นำทั้งหมด ไปคั่วให้หอม ห่อด้วยผ้าขาวบาง มัดให้แน่น ตั้งหม้อบนเตาแก๊ส ใส่น้ำค่อนหม้อ เมื่อน้ำเดือด ใส่เล้ง เมื่อน้ำเดือดอีกครั้งใส่ยาจีน เติมเครื่องปรุงทุกอย่าง รวมทั้งใบเตย เคี่ยวต่ออีก 1 ชั่วโมง จึงเริ่มจำหน่ายได้”
เส้นทางแห่งก๋วยเตี๋ยว ก๋วยเตี๋ยวเกิดขึ้นเมื่อใด ไม่ปรากฏ แต่ในประเทศจีนสมัย กุบไรขาน (พ.ศ.1822-1837) มาโค โปโล เดินทางจากอิตาลีโดยเส้นทางสายไหมสู่เมืองจีน มาโคโปโลกล่าวถึงกองเรือสินค้าที่มากมายของจีน และสิ่งมีค่ามหาสานสองสิ่งคือดินปืนและบะหมี่
จึงเป็นเหตุให้แนวความคิดของคนในโลกเข้าใจถึงกำเนิดและที่มาของเส้นสปาเกตตี ว่าเกิดมาได้อย่างไร ส่วนในเมืองไทยมีการค้าขายกับชนชาติจีนมาแต่ยุคสุโขทัยเช่นเครื่องสังขโลกโดยการค้าทางเรือแต่ก็ไม่ปรากฏการกล่าวถึงก๋วยเตี๋ยว จนมาในสมัยอยุธยา ถ้าจะกล่าวถึงยุคทองแห่งอาหารก็หน้าจะเป็นสมัยของสมเด็จพระนารายณ์ (พ.ศ.2199-2231) ซึ่งมีการเปิดการค้ากับอารยะประเทศ อาหารสารพัดชนิดไหลเข้ามาในเมืองไทยและก็มีการดัดแปลงให้เข้ากับท้องถิ่นและวัสดุในท้องที่ที่มี ชาวจีนที่มาค้าขายก็นำก๋วยเตี๋ยวมาทำกินกันและก็แบ่งให้ผู้ร่วมค้ากินก็เป็นของใหม่และแปลกสิ่งสำคัญก๋วยเตี๋ยวเป็นอาหารจานเดี่ยว ก็แค่ลวกเส้นใส่หมูเติมน้ำซุปก็กินได้แล้ว ก๋วยเตี๋ยวในปัจจุบันช่วงที่รุ่งโรจน์ที่สุดก็จะเป็นในสมัยของรัฐบาลจอมพล ป.พิบูลสงคราม ในปีพ.ศ. 2485
เกิดน้ำท่วมใหญ่ในกรุงเทพฯ การถวายบังคมพระบรมรูปทรงม้าในเดือนตุลาคมก็ยังต้องใช้เรือพายไป ส่วนในทำเนียบรัฐบาลการประชุมคณะรัฐมนตรีจึงต้องจ้างก๋วยเตี๋ยวเรือเข้าไปเลี้ยงคณะรัฐมนตรีที่มาเข้าร่วมประชุม ผู้นำประเทศชมอร่อยจึงมีนโยบายส่งเสริมให้คนไทยกินก๋วยเตี๋ยว และให้มีการขายก๋วยเตี๋ยวให้มาก เพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำและวัฒนธรรมสร้างชาติ หน่วยงานราชการทุกกรมกองข้าราชการส่วนใหญ่ต้องหันมาขายก๋วยเตี๋ยวเพื่อสนองนโยบาลของรัฐบาล ก็หน้าจะเรียกได้ว่าเป็น ยุคทองของก๋วยเตี๋ยว ในปัดจุบันก๋วยเตี๋ยวมีการพัฒนาหลากหลายในแต่ละถิ่นแต่ละภาคเช่นก๋วยเตี๋ยวเรืออยุธยาก็จะจำกัดความว่า สูตรโบราณ ก๋วยเตี๋ยวหมูใส่กุ้งแห้ง (แต่ก่อนไม่มีผงชูรสกุ้งแห้งก็คือเครื่องชูรสทำให้น้ำหวานหน้าจะมีสารที่ไปกระตุ้นต่อมน้ำลาย) จนมาเป็นก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย แต่จะกล่าวกันว่าคนเมืองสุโขทัยแต่โบราณก็จะเรียกว่า ก๋วยเตี๋ยวไทยแต่คนต่างถิ่นโดยทั่วไปก็จะเรียกเต็มยศว่า ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย ส่วนที่ต่างจากถิ่นอื่นก็คือการปรุงด้วยน้ำมะนาวถั่วลิสงป่นและถั่วฝักยาวเป็นสูตรหลัก ซึ่งก็คล้ายกับก๋วยเตี๋ยวของเมืองกำแพงเพชรที่เรียกว่า ก๋วยเตี๋ยวชากังราว เพียงต่างกันที่สุโขทัยใส่หมูแดงเพิ่มเข้าไปและก๋วยเตี๋ยวชากังราวปรุงรสด้วยหัวไช้โปกับกุ้งแห้ง และในลักษณะที่คล้ายกันก็จะมีที่เมืองใต้ พบที่เมืองนครศรีธรรมราช
ก็จะใช้หมูสามชั้นต้มหั่นใส่แทนหมูแดง แต่จะเปลี่ยนจากถั่วฝักยาวมาเป็นผักบุ้งแทนคล้ายก๋วยเตี๋ยวอยุธยาที่ใส่ผักบุ้ง และก๋วยเตี๋ยวเรือรังสิตเมืองปทุมธานีก็จะเหมือนของอยุธยาเช่นกัน
สมัยก่อน พ่อค้าก๋วยเตี๋ยวเรือใน 1 ลำ มีเพียง 1 คนเท่านั้น ทำทุกอย่างตั้งแต่ พายเรือ ลวกเส้น ปรุงก๋วยเตี๋ยว เสริฟ เก็บตังค์ เก็บชาม ล้างชาม ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ทำโดยไม่ได้ขยับเลยแม้แต่น้อยคือ พายเรือมา พอมีคนเรียก ก็จะมาจอดเทียบท่า เอาขาข้างนึงยันบันไดท่าน้ำเป็นฐานไว้ แล้วเริ่มลวกก๋วยเตี๋ยวขาย ส่วนกระบวนการล้างชามนั้นก็แค่แกว่งๆจุ่มๆในคลองนั่นเอง (เพราะเมื่อก่อนน้ำในคลองสะอาดจึงล้างได้) ทีนี้ การที่คนขายอยู่ในเรือ คนซื้ออยู่บนฝั่ง การส่งก๋วยเตี๋ยวขึ้นมาสู่ลูกค้านั้น หากเป็นชามใหญ่อาจทำให้หนัก ยกลำบาก และเรือที่โคลงเคลงอาจทำให้น้ำซุปกระฉอกมาลวกขาคนขายได้ ดังนั้นก๋วยเตี๋ยวเรือจึงทำชามเล็กๆ น้ำซุปน้อยๆแต่เข้มข้นเข้าไว้ ทำให้ส่งมอบสินค้าได้ง่าย ปลอดภัยด้วยประการฉะนี้แล…
ตกงานมาทางนี้ แจกฟรี สูตร “ก๋วยเตี๋ยว” ลงทุนน้อยแค่ มีเงิน 700 บาท ก็ทำขายได้
นอกจากอาหารถูกจริตคนไทย อย่างสารพัดน้ำพริก หรือทำง่ายอย่างปาท่องโก๋ แล้วนั้น อาจารย์ขนิษฐา ชัยชาญกุล หรือ อาจารย์ตุ๊ก อาจารย์สอนทำอาหาร สร้างอาชีพที่ มติชน อคาเดมี และมีประสบการณ์การสอนอาชีพ ที่สำนักงานส่งเสริมและฝึกอบรมกำแพงแสน แนะนำว่า ถ้าหากจะหาอาชีพขายของที่สามารถทำเองได้ที่บ้าน โดยที่ไม่ต้องลงทุนมากมายนักและสามารถอาศัยอุปกรณ์พื้นฐานที่มีในบ้านเพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเริ่มต้นลงทุนครั้งแรกได้ด้วย นั่นคือ การทำเมนูก๋วยเตี๋ยวขาย ซึ่งเป็นอาหารจานเด็ด ตอบโจทย์คนไทย เพราะกินง่าย ทุกเพศทุกวัยสามารถกินได้
ที่สำคัญคือเป็นการลงทุนที่ไม่มาก เพียงแค่ซื้อวัตถุดิบอย่างพวกของสด ก็สามารถทำก๋วยเตี๋ยวขายได้แล้ว และอาศัยเอาพวกหม้อต้ม ชาม ถ้วย ช้อน อุปกรณ์ในครัวเรือนที่มีในบ้านมาประยุกต์ใช้ในการขาย ก็สามารถขายก๋วยเตี๋ยวได้แล้ว
จากประสบการณ์ที่ผ่านมาในการไปตระเวนสอนตามที่สถาบันการศึกษาต่างๆ คือมีหลายคนไม่ค่อยเชื่อว่าการขายก๋วยเตี๋ยวจะสามารถขายได้จริงๆ สิ่งที่ดีที่สุดในการสอน คือ ทำให้เขาเห็นจริงๆ ว่าทำได้ สอนโดยใช้อุปกรณ์ครัวเรือนในบ้านมาทำให้ดู ให้เห็นเลยว่าสามารถทำขายได้จริง
“สำหรับ เงินทุน หรือการลงทุน ถ้าเริ่มต้นลงทุนเพียงแค่วัตถุดิบสด อย่างพวกผัก หมู เส้นต่างๆ กำเงิน 700 บาทก็สามารถทำก๋วยเตี๋ยวขายได้แล้ว การลงทุนครั้งนี้จะสามารถทำก๋วยเตี๋ยวชามเล็ก ชามละ 15 บาท ขายได้ประมาณ 100 ชาม ก็จะได้เงินประมาณ 1,500 บาท” อาจารย์ตุ๊ก บอก
แต่การค้าขายไม่ว่าจะขายอะไร ก็ต้องเก็บเงินให้เป็นระบบทั้งนั้น เพราะมันคือเงินสดที่เห็นได้ และสามารถหยิบเอาออกมาใช้จ่ายได้ง่าย สิ่งที่ต้องทำมากๆ คือ การเก็บเงิน เพราะว่าการลงทุนค้าขายครั้งต่อไป จำเป็นต้องใช้เงินในการต่อยอดสืบไป ถ้าหากขายได้ หรือขายดี ก็ควรจะค่อยๆ ขยับขยายกำลังในการขาย อย่ารีบร้อนมากจนเกินไป
โดยอาจารย์ตุ๊ก มีสูตรก๋วยเตี๋ยวเรือมาให้อีกด้วย เผื่อใช้ไปเป็นแนวทาง หรือสำหรับคนที่ต้องการสูตรก๋วยเตี๋ยวเรือแล้วยังไม่มีสูตร หรือไม่รู้จะเริ่มต้นจากตรงไหน จะได้นำเอาไปเป็นใช้ในการค้าขายต่อไป
สูตรก๋วยเตี๋ยวเรือ
- น้ำซุป หม้อเบอร์ 18 นิ้ว
- เล้ง 1 กิโลกรัม
- ซอสภูเขาทอง 300 กรัม
- ใบเตย ½ กิโลกรัม (มัดให้แน่น)
- กะทิ 1 กิโลกรัม
- รสดี 12 บาท 1 ซอง
- ซีอิ๊วดำ 200 กรัม
- เต้าหู้ยี้ (น้ำนิดหน่อย) 7 ก้อน (ก้อนเล็ก)
- มะเขือเทศท้อ 2 ลูก
- น้ำกระเทียมดอง 1 ถ้วยเล็ก
- เครื่องยาจีนที่ใส่น้ำซุป
- อบเชย 4 นิ้ว 3 ท่อนทุบ
- โป๊ยกั้ก 10 ดอก
- พริกหอม 2 ช้อนโต๊ะ
- ลูกผักชี 3 ช้อนโต๊ะ
- ยี่หร่า 1 ช้อนโต๊ะ
- ลูกกระวาน 8 ลูก
- ลูกเฉาก๊วย 2 ลูก
วิธีการทำดังนี้ “นำทั้งหมด ไปคั่วให้หอม ห่อด้วยผ้าขาวบาง มัดให้แน่น ตั้งหม้อบนเตาแก๊ส ใส่น้ำค่อนหม้อ เมื่อน้ำเดือด ใส่เล้ง เมื่อน้ำเดือดอีกครั้งใส่ยาจีน เติมเครื่องปรุงทุกอย่าง รวมทั้งใบเตย เคี่ยวต่ออีก 1 ชั่วโมง จึงเริ่มจำหน่ายได้”