อย่าพึ่งโยนทิ้ง! 9 ประโยชน์ของ แกนสับปะรด มีฤทธิ์ช่วยบำรุงร่างกาย รักษาอาการได้หลายโรค

แกนสับปะรด เป็นสิ่งที่หลายคนชอบมองข้าม เพราะเวลาที่คนรับประทานสับปะรดมักชอบแต่เนื้อที่มีรสชาติหวานอมเปรี้ยว และมักหั่นเอาแกนแข็งๆ สีขาว มีรสชาติฝาดๆโยนทิ้งขยะ แต่คุณรู้หรือไม่ว่าแกนของสับปะรดนั้นเป็นแหล่งรวมคุณประโยชน์ไว้มากมาย โดยเฉพาะเอนไซม์บรอมีเลน ที่จริงๆ แล้วมีอยู่ในทุกส่วนของสับปะรด แต่พบในส่วนแกนมากที่สุด ซึ่งสารนี้มีประโยชน์มาก

9 ประโยชน์ของ แกนสับปะรด

จากข้อมูลของกระทรวงเกษตรฯ สหรัฐฯ พบว่า ในสับปะรด 100 กรัม ให้พลังงาน 50 กิโลแคลอรี มีคุณค่าทางสารอาหารสำคัญ ๆ ดังนี้

  • น้ำ 86 กรัม

  • โปรตีน 0.54 กรัม

  • ไขมันรวม 0.12 กรัม

  • คาร์โบไฮเดรต 13.12 กรัม

  • ไฟเบอร์ 1.4 กรัม

  • น้ำตาล 9.85 กรัม

  • แคลเซียม 13 มิลลิกรัม

  • ธาตุเหล็ก 0.29 มิลลิกรัม

  •  แมกนีเซียม 12 มิลลิกรัม

  • ฟอสฟอรัส 8 มิลลิกรัม

  • โพแทสเซียม 109 มิลลิกรัม

  • โซเดียม 1 มิลลิกรัม

  • สังกะสี 0.12 มิลลิกรัม

  • วิตามินซี 47.8 มิลลิกรัม

  •  วิตามินบี 6 0.112 มิลลิกรัม

  • โฟเลต 18 µg

  • วิตามินเอ 58 IU

ประโยชน์จากแกนสับปะรด

1. มีฤทธิ์ช่วยย่อยอาหาร ถ้ามื้อไหนทานอาหารจำพวกเนื้อสัตว์เข้าไปมาก ๆ จนจุกเสียด แน่นท้อง ให้ทานสับปะรดเข้าไปหลังรับประทานอาหารจะช่วยลดอาการเหล่านี้ได้

2. ช่วยสมานแผลและลดการอักเสบของกระเพาะอาหารและลำไส้ เพราะเอนไซม์บรอมีเลนมีฤทธิ์เป็นยาฆ่าเชื้ออ่อน ๆ คอยทำลายแบคทีเรียที่ไม่มีประโยชน์


3. ช่วยทำให้ระบบขับถ่ายทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เพราะมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อน ๆ มีกากใยมาก จึงช่วยแก้ท้องผูกได้ แต่ก็ไม่ควรทานมากไป เพราะจะทำให้ท้องเสียแทน

4. มีฤทธิ์ขับปัสสาวะ แก้ขัดเบา แก้นิ่ว

9 ประโยชน์ของ แกนสับปะรด

5. ลดอาการปวดข้อ ข้ออักเสบ หลังจากออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาหนัก ๆ

6. ป้องกันการเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด อัมพฤกษ์ อัมพาต เพราะเอนไซม์บรอมีเลนจะไปช่วยลดการเกาะกันเป็นลิ่มเลือดของเกล็ดเลือด

7. เพิ่มภูมิคุ้มกันในร่างกาย ต่อต้านโรคมะเร็ง นั่นเพราะบรอมีเลนจะทำให้เม็ดเลือดขาวหลั่งสารไซโตไคน์ ที่ทำให้เม็ดเลือดขาวกำจัดเซลล์มะเร็งได้ ช่วยลดโอกาสเกิดโรคมะเร็งปอด มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งเต้านม และมะเร็งรังไข่

8. กระตุ้นฮอร์โมนเพศชาย ช่วยเพิ่มระดับเทสโทสเตอโรน ถือเป็นยาบำรุงกำลังชั้นดีให้คุณผู้ชาย

9. บรรเทาโรคเกาต์ได้ โดยทานสับปะรด 1/4 ผล (ขนาดเล็ก) วันละ 2-3 ครั้ง หลังอาหาร 1 ชั่วโมงครึ่ง เพื่อให้เอนไซม์บรอมีเลนช่วยต้านการอักเสบ ลดความเจ็บปวดจากการอักเสบ

9 ประโยชน์ของ แกนสับปะรด

ข้อควรระวัง ในการรับประทานสับปะรด 

– ไม่ควรรับประทานตอนท้องว่าง เพราะเป็นผลไม้ที่มีเอนไซม์มาก มีรสเปรี้ยว ทานแล้วอาจระคายเคืองกระเพาะอาหาร

– ไม่ควรรับประทานสับปะรดดิบ เพราะมีฤทธิ์เป็นยาถ่ายอย่างแรง และก็ไม่ควรรับประทานสับปะรดที่สุกเกินไป เพราะอาจเริ่มเน่า แล้วทำให้ท้องเสียได้

ขอขอบคุณข้อมูลจาก :kapook, tnews