คำว่า รัก ตลอดไป…ไม่มีอยู่จริง
ความจริง 5 ข้อ ที่บ่งบอกว่า “รักตลอดไปไม่มีจริง” แล้วคุณจะเข้าใจความรักมากขึ้นรักแท้คืออะไร…? นิยามความรักของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน
ขึ้นอยู่กับว่าผ่านเรื่องราวความรัก และ ประสบการณ์แบบไหนมาบ้าง
บ้างก็ว่าความรัก คือการที่คนสองคนคิดถึงกันเสมอ
บ้างก็ว่าความรัก คือการสัญญาว่าจะรักกันตลอดไป
จะความหมายใดก็ตาม ส่วนใหญ่มักเป็นมุมมองที่สวยงาม ประโลมโลก
จนลืมไปว่ามนุษย์เรายังอยู่ได้ด้วยเหตุปัจจัยอื่นด้วย ไม่ใช่เพียงแค่ความรักอย่างเดียว
บางทีแล้วรักแท้ และคู่แท้อาจจะเป็นแค่การสันนิษฐาน การสรุปรวมเอาแต่ข้อดีและความรู้สึกดี
เพราะยังมีความจริงต่อไปนี้ ที่เราต้องเจอไปพร้อมกับความรัก และ เป็นสัจธรรมชีวิต…
“รักตลอดไปไม่มีอยู่จริง”
แต่หลายๆคนก็ยังตามหา ยังฝันถึง และ ยังตองการ… แต่มนุษย์เราเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
1. คนเรามีการเปลี่ยนแปลงทุกวัน..
เพียงแค่ไม่กี่นาที ไม่เพียงแต่กายเท่านั้นที่คนเรายังเคลื่อนไหว
ใจเราก็ต้องขยับบ้างตามอารมณ์ที่มีต่อสิ่งรอบตัว
ใน 1 วันเรายังรู้สึกได้เลยว่าตัวเราเคลื่อนไหวไปหลายที่
มีหลายอารมณ์ความรู้สึก พบเจอกับหลายเหตุการณ์
นับประสาอะไรกับอีกคนหนึ่งที่เป็นอีกกายหนึ่ง อีกใจหนึ่ง
นอกเหนือการควบคุมของเราที่ไม่ใช่เจ้าของทั้งหมด
ในวันนี้ที่เรางี่เง่ากับเขาได้ ไม่ได้แปลว่าสักวันหนึ่งเขาจะทนให้เรางี่เง่าได้อีก
ในวันนี้ที่เขายังรักเรา..ก็ไม่มีอะไรการันตีได้ว่าอนาคตจะยังเป็นเหมือนวันวาน
ในวันนี้บางเรื่องที่ดูเล็กน้อยในสักวันก็อาจเป็นเรื่องใหญ่โตได้
ในวันนี้ที่เรายังรักกันมาก ในสักวันอาจหมดรักกันแล้วก็ได้
2. สิ่งแวดล้อมมีการเปลี่ยนแปลงทุกวัน..
ต่อให้ยังอยู่ที่เดิม อิริยาบถเดิม สิ่งรอบข้างก็ต้องดำเนินต่อไป
ดวงอาทิตย์ยังต้องขึ้นตามเวลา
โลกยังต้องหมุนต่อไป
อากาศยังต้องเปลี่ยนไปตามแต่ละช่วงของวัน
และมันก็อาจส่งผลกระทบถึงความรู้สึกคนเราได้…
เพราะฉะนั้นไม่ใช่เรื่องแปลก หากว่าสักวันหนึ่งเขาจะเบื่อเรา
ทั้งที่เขาก็อยู่กับเราตลอด และเราก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรตัวเองเลย
ไม่ใช่เรื่องผิดเสียด้วย หากว่าคนเราอยากจะย้ายตัวเองไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมใหม่บ้าง…
มันเป็นเรื่องของความสบายใจ ไม่มีใครถูกหรือผิดที่สุดที่จะเลือกสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมที่สุด
3. บางครั้งการเข้าสู่โหมดความรัก ก็เป็นเพียงแค่การค้นหาตัวเอง..
อย่าเพิ่งปักใจเชื่อว่าเขาคนนั้นที่ทำอะไรดูดีไปหมด จะหมายความว่า เขารักเรา
บางทีเขาก็เพียงแค่อยากจะค้นหาตัวเองในอีกด้านหนึ่งเท่านั้น
(ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องผิด เพราะมนุษย์เราต่างก็ต้องการมองหาสิ่งที่ดีที่สุด)
บางทีก็แค่อยากรู้ว่า…การมีคนรักมันดีอย่างที่ใครเขาว่ากันอย่างไร
บางทีก็แค่อยากรู้ว่า…การคบกันจะไปได้นานแค่ไหน
บางทีก็แค่อยากรู้ว่า…ความสัมพันธ์กับคนใหม่จะดีกว่าคนเก่าแค่ไหน
มนุษย์เรายังมีความอยากรู้อยากเห็นเป็นสัญชาตญาณเดิม
อย่าเพิ่งไว้ใจความรู้สึกดีให้มาก เผื่อใจไว้บ้างจะช่วยเซฟความเจ็บปวดไว้ได้มาก
4. บางครั้งในอีกด้านของความรัก ก็เป็นเพียงแค่ผลประโยชน์..
“ความรักทำให้คนเราดูดีขึ้น เปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้น”
มันจะเป็นเรื่องดีมากหากว่าการเปลี่ยนแปลงที่ดีนั้นเกิดขึ้นจาก inner ของตัวเราเองที่มีต่อคนอื่น
ต้องการให้ตัวเองดูดี คู่ควรกับคนรักและความรักอยู่เสมอ
แม้ว่าจะอยู่ห่างกันก็ยังไม่ละความสำคัญที่จะดูแลตัวเองให้ดีพร้อมตลอดเวลา
แต่อีกด้านหนึ่ง ก็เป็นไปได้ว่าการมีความรัก = โอกาสที่ดีกว่า
ซึ่งเป็นไปในแง่ของผลประโยชน์ส่วนตัว เช่น คบกันโดยหวังให้คนสรรเสริญ,
คบกันเพื่อหวังชุบตัวเองให้ดูดีเสียใหม่ (โดยที่ให้อีกคนปรนเปรอเสียมากกว่าจะเกิดจากการดูแลตัวเอง)
พอได้ทุกอย่างที่ต้องการเมื่อไหร่ คนรักก็หมดผลประโยชน์ที่จะรักอีกต่อไป
5. รักที่ยาวนานที่สุดคือ รักอย่างสม่ำเสมอ เรื่อย ๆ ไปตลอดชีวิต..
ไม่มีคำว่ารักตลอดไป ไม่มีคำว่ารักนิรันดร์
ถ้าแปลความหมาย “รักตลอดเวลา” อย่างตรงตัว นั่นก็หมายถึง
สมมติว่าอยู่ด้วยกัน 24 ชั่วโมงก็จะรักกัน 24 ชั่วโมงชัวร์ ๆ ไม่ขาดตกบกพร่องแม้แต่นาทีเดียว
ซึ่งในความเป็นจริงแล้วมันเป็นไปไม่ได้เลย
เพราะอย่างน้อยคนเราใน 24 ชั่วโมงนั้นก็ต้องกันพื้นที่และเวลาไว้สำหรับส่วนอื่นอ้าง
มีเบื่อบ้าง พักสักไม่กี่นาทีก่อนที่จะเหม็นขี้หน้าไปกว่านี้บ้าง
คำว่า “รักอย่างสม่ำเสมอ” จึงมีอย่างแน่นอน
ซึ่งนั่นก็หมายความว่ารักอย่างรู้จักพื้นที่และเวลาของกันและกัน…
ไม่มากเกินไปจนอีกฝ่ายต้องอึดอัด ไม่น้อยเกินไปจนต้องรู้สึกขาด จนกระทั่งมันเกิดเป็นความพอดี
และเมื่อความพอดีนี้เกิดขึ้นเป็นประจำ เป็นที่รู้กันดีของคนสองคน นี่แหละถึงเรียกว่า “รักอย่างสม่ำเสมอ”
และเมื่อความสม่ำเสมอนี้มีไปเรื่อยๆ จนกระทั่งคนหนึ่งได้จากอีกคนไป โดยไม่หวนคืน
ก็จะเรียกว่า “รักจนลมหายใจสุดท้าย” หรือ “รักตลอดชีวิต” แต่ไม่มีคำว่า “รักตลอดไป”
เพราะคนที่ยังอยู่ ก็มีสิทธิเปลี่ยนเป้าหมายหรือไม่ก็เกิดการหลงลืมไปบ้าง
ยิ่งสำหรับคำว่า “รักนิรันดร์” ยิ่งไม่มีจริง เพราะเมื่อเราจากไปแล้ว
ก็ไม่รู้ว่าไปอยู่แห่งหนใดแล้ว และก็ไม่รู้ด้วยว่าชาติหน้าจะเป็นอย่างไร
จะได้เกิดมาคู่กันอย่างที่นิยายหลายเรื่องเล่ามาหรือเปล่า
เพราะฉะนั้น รักในปัจจุบัน…รักกันในวันนี้…รักกันในขณะที่ยังมีกัน
เป็นรักเห็นได้จริงมากที่สุด เป็นความรู้สึกที่ดีที่สุด และเป็นรักที่มีสติที่สุดแล้ว
อนาคตจะเกิดอะไร ต่างคนต่างมีอดีตแบบไหน มันไม่สำคัญเท่าวันนี้มีกันและกันอยู่ตรงหน้านี้
ขอบคุณบทความดีๆ จาก : jeeb