“แม่เฒ่าลึกลับฉายานอสตราดามุส” ทำนายเหตุการณ์ที่จะเกิดในปี 2019

เรื่องดวงชะตาและคำทำนายไม่เพียงแต่ไทยเท่านั้นที่มีความเชื่อเรื่องนี้ แต่ต่างประเทศก็ยังมีอยู่ให้เห็นมากมาย โดยเฉพาะกับหมอดูดังๆ ที่มักจะทำนายเรื่องของภัยธรรมชาติ เศรษฐี บ้านเมือง ประเทศ วันนี้รักยิ้มจะพาทุกท่านมาฟังคำทำนายของหมอดูที่มีชื่อเสียงมากๆ ในยุค ท่านได้ทำนายว่าปี 2019 จะมีอะไรเกินขึ้นบ้าง

การทำนายทายทักในโลกของเรานี้ ผู้ที่ได้มีชื่อเสียงว่าทำนายอนาคตได้มีความแม่นยำที่สุด คือ นอสตราดามุส ซึ่งได้ลาจากโลกไปแล้ว เมื่อปี 1966 ผ่านมาแล้วถึง 453 จนถึงปัจจุบันนี้ก็ยังมีผู้กล่าวขานถึงอยู่ไม่ขาด และผู้ใดทำนายอนาคตได้ผู้นั้นก็จะได้รับฉายานามต่อท้ายชื่อตัวด้วยคำว่า นอสตราดามุส

และในวันนี้เราก็จะนำท่านไปไขคำทำนายของหมอดูท่านนี้ ชาวบัลแกเรีย ผู้ซึ่งได้ล่วงลับไปแล้ว และเป็นเจ้าของฉายา “นอสตราดามุสแห่งบอลข่าน”

เว็บไซต์ มิร์เรอร์ สื่อของประเทศอังกฤษ ได้เปิดคำนายของนาง บาบา วานก้า หมอดูคนดัง ชาวบัลแกเรีย เจ้าของฉายา “นอสตราดามุสแห่งบอลข่าน” ซึ่งได้ทำนายโชคชะตาในอนาคต โดยเฉพาะการทำนายทายทักจะเกิด “เบรกซิต” ของสหราชอาณาจักร (ยูเค) ที่จะถอนตัวจากสมาชิกสหภาพยุโรป รวมทั้งตึกแฝดเวิลด์เทรด จะถูกเครื่องบินพุ่งชน นางบาบา วานก้า

และได้ทำนายอนาคตโลกปี 2562 เอาไว้ก่อนจะลาจากโลกไปว่า จะเกิดคลื่นยักษ์สึนามิ ซึ่งแรงกว่าปี 2547 ถล่มชายฝั่งของทวีปเอเชีย

ในส่วนของเศรษฐกิจโลกปี 2562 จะพังทลาย ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย จะตกเป็นเป้าหมายความพยายามลอบสังหาs โดยฝีมือของทีมรักษาความปลอดภัยของประธานาธิบดีปูตินเอง รวมทั้งจะเกิดอุกกาบาตตกในรัสเซีย

ส่วนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ จะป่วยไม่รู้สาเหตุ รวมทั้งมีอาการทางสมอง นี่คือคำนายทั้งหมดที่ทางหมอดูชื่อก้องโลกได้ทำนายเอาไว้ นำมาซึ่งความเชื่อของชาวเน็ตทั้งหลายที่แบ่งแยกกันระหว่างเชื่อกับไม่เชื่อ

ในส่วนที่ไม่เชื่อนั้นให้ความเห็นว่า คำทำนายดูแรงเกินไป น่าจะเกิดอะไรดีๆ กับโลกนี้บ้าง แต่สำหรับผู้ที่เชื่อนั้นก็บอกว่าแม่หมอนั้นมีพลังเหนือธรรมชาติหลายอย่างทั้งเรื่องของกระแสจิต รวมทั้งการติดต่อสื่อสารกับสิ่งมีชีวิตนอกโลกได้อีกด้วย

ทั้งนี้ นางบาบา วานก้า ซึ่งตามองไม่เห็นทั้งสองข้าง และลาจากโลกนี้ไปเมื่อปี 2539 ขณะอายุ 85 ปี ซึ่งชื่อเสียงของเธอมาจากการทำนายที่แม่นยำ ซึ่งเธอเคยทำนายเหตุการณ์ต่างๆ ของโลกได้ถูกต้องเกือบหมด

ขอบคุณแหล่งที่มา: ไทยรัฐ