หนุ่มสุดงงหลังเมียบอกว่า “ตั้งท้อง” ทั้งที่ตนทำหมันแล้ว 4 เดือน

  • เคยมั้ย…ที่อยู่ๆ ก็เกิดความรู้สึกดีเป็นพิเศษกับเพื่อนที่นั่งข้างๆ

  • เคยมั้ย…ที่บางครั้งก็แอบปิ๊งปั๊งรุ่นน้องที่เข้างานมาใหม่

  • เคยมั้ย…ที่ชอบนั่งมองรุ่นพี่ต่างแผนกแล้วสุขหัวใจ

  • หรือเคยมั้ย…ที่จู่ๆ ก็หลงรักเจ้านายขึ้นมาซะงั้น

เรื่องของหญิงวัย 33 ปี  คนหนึ่ง มีลูก 2 คน แต่กลับไปแอบมีความสัมพันธ์สวาทกับเจ้านาย สิ่งที่คาดไม่ถึงคือ จู่ ๆ วันหนึ่งเธอกลับตั้งครรภ์ซะงั้น?

หลังจากที่ทราบว่าตนเองตั้งครรภ์ เธอก็แอบทำเป็นเซอร์ไพรส์สามีด้วยการสวมรอยว่าเด็กในท้องคือลูกของสามี

แต่ก็เกิดเรื่องพลิกล็อคกว่านั้นเกิดขึ้น เมื่อสามีหันมามองหน้าภรรยาตนเองด้วยความงุนงงพร้อมพูดว่า “ผมทำหมัน 4 เดือนแล้วนะ” จากนั้นสามีก็รีบไปขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดของคอนโด เห็นเต็มสองตามตอนภรรยาของตนเองพาผู้ชายแปลกหน้าคนหนึ่งเข้ามายังอาคาร 

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นขณะที่สามีไม่อยู่บ้าน เธอก็แอบพานายหวูมาพลอดรักกันที่บ้าน ถัดจากนั้น 1 เดือนเธอก็เกิดตั้งครรภ์ แถมยังมีหน้าไปบอกสามีว่าตั้งครรภ์เพื่อสวมรอย ทั้งที่ทั้งสองไม่ได้ร่วมรักกันมานาน 2 เดือนแล้ว แถมตนยังทำหมันมาแล้วอีกต่างหาก 

ทำให้สามีเกิดความสงสัยรีบไปขอดูกล้องวงจรปิดภายในคอนโดทันที พบภาพภรรยาตนเองกำลังพาชายหนุ่มแปลกหน้าเดินข้ามาในตึกและตรงเข้ามาที่ห้องพักอย่างไม่ลังเล ราวกับว่ามาอยู่แล้วเป็นประจำ

หลังจากที่รู้ว่าเป็นใครก็เดินทางไปหาชายชู้ถึงที่บ้านพักทันที พร้อมสืบถามความจริงจากนายหวู และนายหวูก็รู้ดีว่าปิดบังไม่ไหวแล้ว จึงคุกเข่าขออภัย สามีกลับโกรธจัดพร้อมฟ้องกลับทั้งสองคน แต่สุดท้ายก็ตกลงกันด้วยดีและถอนฟ้อง เพราะคำนึกถึงสภาพจิตใจของลูกๆ

เรื่องของความรักยากมากที่จะหักห้ามใจ เพราะธรรมชาติของมนุษย์แล้วเป็นสายพันธุ์ที่ถูกสร้างมาเพื่อสืบพันธ์ ฉะนั้นการหลงรักใครคนนึง เป็นเรื่องของอารมณ์ซึ่งมีอิทธิพลกับความคิดเรามากกว่า เหตุผลเป็น 10 เท่า 100 เท่า

หากคุณอ่านเรื่องนี้แล้วคิดว่า เป็นเรื่องคุณหรือเพื่อนกำลังประสบพบเจอ หรือมีแววได้เจอ ขอให้คุณอ่านบทความข้างล่างนี้ต่อไป 

4  วิธีรับมือกับความรักในออฟฟิศ ระหว่างเจ้านายกับลูกน้อง

1. หาความชัดเจน ไม่ว่าคุณจะอยู่ในฐานะลูกน้องหรือเจ้านาย หากเกิดความรู้สึกดีๆ เกินขอบเขตกับอีกฝ่าย และตั้งใจจะเดินหน้าสานสัมพันธ์ให้มากกว่าความเป็นเจ้านายและลูกน้องจริงๆ คุณควรเช็คความชัดเจนทางสถานะของเขาหรือเธอก่อนว่า มีครอบครัว หรือกำลังคบหาดูใจกับใครอยู่หรือเปล่า

อย่าปล่อยให้ความคิดด้านมืดมาเป็นใหญ่เหนือความถูกต้อง ไม่เช่นนั้นความรักครั้งนี้อาจกลายเป็นรักซ้อนซ่อนเงื่อนที่สร้างปัญหาต่องาน และความสัมพันธ์ส่วนตัวให้เจ็บช้ำไม่น้อยทีเดียว

2. แยกแยะให้เป็น หากคุณและเขาตกลงจะคบหากันอย่างจริงจังแล้ว ควรต้องเตรียมทำใจไว้ส่วนหนึ่งด้วยว่า ความรักที่เกิดขึ้นย่อมต้องเป็นเป้าสายตา เกิดข้อกล่าวหานินทาในสังคมออฟฟิศอย่างแน่นอน เพราะเป็นความรักแบบพิเศษที่มีเรื่องงานเข้ามาเกี่ยวข้อง ย่อมต้องมีคนเฝ้ามองอยู่ทุกระยะ คุณควรบริหารจัดการความรักให้เวิร์ค แยกแยะให้ออกระหว่าง “ความรัก” และ “หน้าที่การงาน”

หากเอาปัญหาส่วนตัวมาทำให้งานเสีย พลอยทำให้เพื่อนร่วมแผนกเพลียเพราะมีปากเสียงดราม่ากันในออฟฟิศ หรือสวีทเกินลิมิตจนงานไม่เดิน ซ้ำร้ายบางคู่รักแบบผิดๆ ร่วมกันคิดไม่ดีในที่ทำงาน ไม่ว่าจะแหกกฎ คดโกง ทุจริต ทำให้ออฟฟิศเกิดความเสียหาย บอกได้คำเดียวค่ะว่า เตรียมตัวบ๊ายบายแบบไม่สวยกันได้เลย

3. หักห้ามใจ  แต่สำหรับบางคนเมื่อคิดอย่างรอบด้านแล้ว กลับเลือกที่จะหักห้ามใจ ไม่สานต่อความรู้สึกเสียดีกว่า เพราะคิดว่า ผลกระทบที่ตามมาอาจได้ไม่คุ้มเสีย พลอยจะทำให้เครียดมากขึ้นกว่าเดิม จึงดึงสติกลับมาแล้วท่องไว้ว่า “เขาคือหัวหน้า” “เธอคือลูกน้อง”

แม้จะต้องเจ็บลึกๆ แต่ให้นำความรู้สึกดีๆ มาเป็นแรงผลักดันให้คุณมีพลังอยากตื่นเช้าไปทำงานทุกวันจะดีกว่า ไม่แน่นะ แรงผลักดันนี้อาจส่งให้ผลงานคุณโดดเด่นจนโบนัสปลายปีพุ่งกระฉูดแบบไม่รู้ตัวกันเลย

4. เปลี่ยนที่ทำงาน แต่เมื่อความรักเกิดลงเอยไม่สวยงาม ไม่ว่าจะเหตุผลความไม่ชัดเจน แยกแยะไม่เป็น หรือหักห้ามใจไม่ได้ ย่อมทำให้ความรักกลายเป็นความทุกข์ และเพื่อต้องการออกจากความรู้สึกกดดัน ทรมานหัวใจ จนต้องเลือกตัดสินใจเปลี่ยนที่ทำงาน จึงเป็นเรื่องน่าเสียดาย ที่ทางออกของความรักครั้งนี้ต้องจบลงด้วยการลาออกของคนใดคนหนึ่งนั่นเอง

ขอบคุณแหล่งที่มา : jobsdb, Liekr

เรียบเรียงโดย : รักยิ้ม