เริ่มแล้ว ธนาคารส่งข้อมูลบัญชีที่มีการรับโอนเกิน 3,000ครั้งต่อปี ให้สรรพากร

  ทุกวันนี้การค้าขายออนไลน์ถือว่าเป็นอีกอาชีพที่มีการโอนเงินและการทำธุรกรรมต่างๆ จำนวนมากในแต่ละปี หรือว่าอาชีพอื่นๆ ที่มีการจ่ายเงินทางบัญชีโอนเข้าหรือว่ารับเงิน ได้มีกฎหมายภาษีอีเพย์เมนต์ เริ่มบังคับใช้แล้ว มีผลให้สถาบันทางการเงินต้องรายงานข้อมูลบุคคลที่มีธุรกรรม รับโอนผ่านบัญชี 3,000 ครั้งต่อปี 

       ล่าสุด ทางด้านเพจ TaxBugnoms ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยระบุเป็นข้อๆ ว่า... 

      เริ่มต้นทำความเข้าใจก่อนว่า การถูกส่งข้อมูลไม่ใช่การเก็บภาษี การถูกส่งข้อมูลไม่ใช่ถูกเรียกตรวจทันที การถูกส่งข้อมูลคือการถูกส่งข้อมูลเฉยๆ

      1 คนที่มีหน้าที่ส่งข้อมูลให้สรรพากร มีอยู่ 2 กลุ่ม คือ สถาบันการเงิน กับ ผู้ให้บริการเงินอิเล็กทรอนิคส์ หรือพูดสรุปง่ายๆ คือ ธนาคาร กับ ผู้ให้บริการ E wallet นั่นแหละ

      2 ทั้งสองกลุ่มนี้ มีหน้าที่ส่งข้อมูลให้ เมื่อรายการเข้าเงื่อนไขตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งแต่ละธนาคารหรือสถาบันการเงิน ไม่ได้เชื่อมโยงกัน แยกข้อมูลของใครของมัน แต่ดูทุกบัญชีในธนาคารหรือสถาบันการเงินนั้น เพื่อนำมารวบรวมตรวจสอบว่าเป็นไปตามเงื่อนไขไหม เงื่อนไขที่ว่า คือ ยอดเงินเข้าบัญชี (ไม่ใช่ยอดเงินออก) และจำนวนเงินที่เข้าบัญชีทั้งหมดของบุคคล โดยการนับข้อมูลตามเงื่อนไขที่ว่านี้ จะนับเป็นรายปี (นับทั้งปีว่าเข้าเงื่อนไขไหม) ถ้าเข้าเงื่อนไข ถึงจะส่งข้อมูลให้สรรพากร โดยส่งภายในวันที่31 มีนาคมของทุกปี

      3 โดยเงื่อนไขที่จะส่ง มี 2 เงื่อนไข คือ จำนวนครั้งที่เงินเข้าบัญชีทุกบัญชีรวมกัน ตั้งแต่ 3000 ครั้งขึ้นไป ถูกส่งทันทีโดยที่ไม่ต้องสนใจจำนวนเงินรวม และอีกกรณีหนึ่ง คือ จำนวนครั้งที่เงินเข้าบัญชีทุกบัญชีรวมกัน ตั้งแต่ 400 ครั้งขึ้นไป และจำนวนเงินรวมบัญชีทุกบัญชีรวมกัน ต้องถึง 2 ล้านบาทด้วย โดยทั้ง 2 เงื่อนไขในกรณีนี้ต้องมาพร้อมกัน ถ้าอันใดอันหนึ่งถึงก็ไม่ถูกส่งข้อมูล การนับจำนวนครั้งที่ว่า นับเงินเข้าบัญชีทุกกรณี ไม่ว่าจะโอนเข้าบัญชีตัวเองธนาคารเดียวกัน ไม่ว่าจะโอนข้ามบัญชีผ่านต่างธนาคาร หลักการสำคัญ คือ ถ้ามียอดเข้า เท่ากับการนับว่านี่คือ 1 ครั้ง

      4 สิ่งที่ทุกคนกังวลใจ คือ ธนาคารจะเริ่มต้นนับข้อมูลเมื่อไรกันแน่ เพราะกฎหมายเรื่องนี้บังคับใช้ เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2562 ที่ผ่านมา ข่าวดี คือ เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม มีกฎหมายลูกออกมาบอกว่า การนับข้อมูลในปี 2562 จะเริ่มต้นนับตั้งแต่วันที่ 24 ธันวาคม 2562 นั่นคือ ในปี 2562 นี้ จะนับเพียงแค่ 8 วันจนถึงสิ้นปี ถ้าไม่เข้าเงื่อนไขตามที่ว่ามา ก็ไม่มีใครถูกส่งข้อมูลให้กับสรรพากร หรือ ถ้าให้พูดง่ายๆ กฎหมายออกมาแบบนี้ คือการบอกว่าเริ่มต้นในปี 2563 เต็มปีนั่นแหละ ดังนั้น คนที่กังวลอยู่ สบายใจได้ แต่อย่าลืมจัดการตัวเองให้เรียบร้อยละกัน

      5 สำหรับข้อมูลที่ส่งให้สรรพากรนั้น จะเป็นข้อมูลสรุปทั้งหมด ไม่ใช่รายละเอียด คือ

      1 เลขประจำตัวประชาชน เลขนิติบุคคล

      2 ชื่อ นามสกุล ชือห้างหุ้นส่วนสามัญ  ชื่อคณะบุคคล ชื่อนิติบุคคล

      3 จำนวนครั้งของการฝาก หรือ รับโอนเงิน ทุกบัญชีรวมกัน

      4 จำนวนเงินของการฝาก หรือ รับโอนเงิน ทุกบัญชีรวมกัน

      5 เลขที่บัญชีทุกบัญชีที่มีการฝากหรือรับโอนเงิน

      6 ทีนี้สิ่งที่ต้องทำความเข้่าใจ คืออะไร พรี่หนอมเกริ่นไปแล้วแต่ขอย้ำอีกทีละกัน การส่งข้อมูล ไม่ใช่การเรียกเก็บภาษี แต่เป็นการส่งข้อมูลไปให้พี่สรรพากรวิเคราะห์ ดังนั้น การไม่ถูกส่งข้อมูล ก็ไม่ได้แปลว่าจะรอด ถ้าหากสรรพากรตรวจสอบพบความผิดก็หนักอยู่ดี สองเรื่องนี้เป็นคนละเรื่องกันที่ต้องทำความเข้าใจ และสิ่งที่เราต้องมีจริงๆ คือ ข้อมูลของเราเองต่างหาก หลายคนกลัวว่าจะถูกตรวจสอบ คำตอบที่ต้องตอบก่อนคือ เรามีข้อมูลพิสูจน์หรือยัง ถ้าเราพิสูจน์ว่ายอดเงินนั้นไม่ใช่รายได้ มันก็จบว่าเราไม่ต้องเสียภาษีได้ทันที นี่คือสิ่งสำคัญที่ควรสนใจสุดครับ

       เป็นเรื่องที่หลายคนควรรู้ไว้ คนที่ทำธุรกรรมทางการเงินเยอะๆ โอนรับถ้าเกินอัตราที่กำหนดจะต้องจ่ายภาษี ศึกษาเอาไว้ใครที่รับโอนเงินเยอะๆ 

เรียบเรียงโดย : thaihitz.com ขอขอบคุณข้อมูลจาก TaxBugnoms