โลกโซเชียลต่างแห่แชร์ภาพพร้อมข้อความที่ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ออยอี้ ชื่อนี้
พ่อให้มา โพสต์เอาไว้ในหน้าไทม์ไลน์ เล่าว่า
แม่ของตนไอและเจ็บคอจึงไปโรงพยาบาล ใน จ.ปราจีนบุรี
โดยแพทย์ได้จ่ายยาแก้ไอมาให้กิน
พอแม่กินเข้าไปรู้สึกว่ายามีกลิ่นและรสชาติแปลก ๆ แต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไร
พอมากินอีกทีเลยลองอ่านฉลากยาก็ต้องตกใจ
เมื่อพบว่าฉลากยากับฉลากที่โรงพยาบาลติดทับลงไปไม่ตรงกัน
ยาที่ได้ไม่ใช่ยาแก้ไอแต่เป็นยาที่ใช้สำหรับทาแก้คัน
และถ้าหากแม่กินไปเยอะกว่านี้จะเกิดอะไรขึ้น เพราะนี่คือชีวิตคนเลยนะ
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบรูปภาพขวดยาที่เจ้าของเรื่องแนบมานั้น ฉลากยาของทางโรงพยาบาลระบุว่า จิบแก้ไอ วันละ 3-4 ครั้ง หรือจิบบ่อย ๆ เวลามีอาการไอ บรรเทาอาการไอ ละลายเสมหะ แต่เมื่อดูที่ข้างกล่องผลิตภัณฑ์ยาพบว่าใช้บรรเทาอาการคัน อาการอักเสบ บริเวณผิวหนังที่เกิดจากอาการอักเสบ ผื่นแดงเนื่องจากถูกแสงแดด เป็นลมพิษ หรือแพ้สารเคมี เป็นยาอันตราย และเป็นยาใช้ภายนอกเท่านั้น ซึ่งไม่ตรงกับฉลากที่โรงพยาบาลได้ติดไว้
จากการสอบถาม น.ส.ชิดชนก สมร ผู้เป็นลูกสาว ทราบว่า แม่กินยาไปประมาณ 2 ครั้ง ก่อนจะมาทราบว่าไม่ใช่ยาแก้ไอ เพราะกลิ่นแปลก ๆ รสชาติแปลก ๆ พอมาดูข้างกล่องจึงรู้ว่าเป็นยาที่ใช้สำหรับทาภายนอก พ่อของตนจึงนำขวดยาไปที่ไปโรงพยาบาลดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ขอโทษพร้อมกับบอกว่าคนไข้เยอะทำให้จัดยาผิด และได้เปลี่ยนยาให้ ซึ่งเจ้าหน้าที่บอกด้วยว่าเรื่องนี้จะทำรายงานให้ทางหัวหน้าทราบ
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบรูปภาพขวดยาที่เจ้าของเรื่องแนบมานั้น ฉลากยาของทางโรงพยาบาลระบุว่า จิบแก้ไอ วันละ 3-4 ครั้ง หรือจิบบ่อย ๆ เวลามีอาการไอ บรรเทาอาการไอ ละลายเสมหะ แต่เมื่อดูที่ข้างกล่องผลิตภัณฑ์ยาพบว่าใช้บรรเทาอาการคัน อาการอักเสบ บริเวณผิวหนังที่เกิดจากอาการอักเสบ ผื่นแดงเนื่องจากถูกแสงแดด เป็นลมพิษ หรือแพ้สารเคมี เป็นยาอันตราย และเป็นยาใช้ภายนอกเท่านั้น ซึ่งไม่ตรงกับฉลากที่โรงพยาบาลได้ติดไว้
จากการสอบถาม น.ส.ชิดชนก สมร ผู้เป็นลูกสาว ทราบว่า แม่กินยาไปประมาณ 2 ครั้ง ก่อนจะมาทราบว่าไม่ใช่ยาแก้ไอ เพราะกลิ่นแปลก ๆ รสชาติแปลก ๆ พอมาดูข้างกล่องจึงรู้ว่าเป็นยาที่ใช้สำหรับทาภายนอก พ่อของตนจึงนำขวดยาไปที่ไปโรงพยาบาลดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ขอโทษพร้อมกับบอกว่าคนไข้เยอะทำให้จัดยาผิด และได้เปลี่ยนยาให้ ซึ่งเจ้าหน้าที่บอกด้วยว่าเรื่องนี้จะทำรายงานให้ทางหัวหน้าทราบ