หามากินด่วน! ผักแพวสุดยอดสมุนไพรพื้นบ้าน กินช่วยชะลอวัย ป้องกันและต่อต้านมะเร็ง
สุดยอดไปเลยค่ะ ไม่คิดว่าจะมีประโยชน์ขนาดนี้!
“ผักแพว” หรือ “ผักไผ่” (Vietnamese Mint) ซึ่งเป็นชื่อเรียกทางภาคเหนือ จัดเป็นสมุนไพรพื้นบ้านที่มีลำต้นสีแดงจนบางครั้งอาจเรียกว่า “ผักแพวแดง” พืชชนิดนี้ชอบเจริญเติบโตได้ดีในที่ชื้นแฉะ โดยมักขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ด ส่วนใหญ่พบได้ทั่วทุกภาคของประเทศไทย เพราะเกิดได้เองตามธรรมชาติ
คุณค่าทางโภชนาการอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญในปริมาณที่สูงมากกว่าพืชผักชนิดอื่น ไม่ว่าจะเป็น วิตามินเอ วิตามินซี แคลเซียม และธาตุเหล็ก อีกทั้งยังมีสรรพคุณทางยาที่ช่วยเพิ่มการเผาผลาญไขมันในเลือด เหมาะเป็นผักสมุนไพรลดความอ้วนได้โดยไม่ขาดสารอาหาร สามารถช่วยบำรุงและรักษาสายตา
ทั้งยังช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง และที่สำคัญนั้นจะช่วยในการขับถ่าย ป้องกันและแก้อาการท้องผูก นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ เพราะเป็นผักที่มีไฟเบอร์สูงถึง 9.7 กรัม ซึ่งจัดอยู่ในผักที่มีเส้นในอาหารมากที่สุด 10 อันดับของผักพื้นบ้านไทย
ลักษณะสมุนไพร :
ผักแพวเป็นพืชล้มลุก มีลำต้นสูงประมาณ 30-35 เซนติเมตร ลำต้นตั้งตรงมีข้อเป็นระยะๆ ตามข้อมักมีรากงอกออกมา หรือลำต้นเป็นแบบทอดเลื้อยไปตามพื้นดินและมีรากงอกออกมาตามส่วนที่สัมผัสกับพื้นดิน ใบเป็นใบเดี่ยว ออกสลับ ลักษณะของใบเป็นรูปหอกหรือรูปหอกแกมรูปไข่ ใบมีขนาดกว้างประมาณ 2.5-3 เซนติเมตร และยาวประมาณ 5.5-8 เซนติเมตร ปลายใบเรียวแหลมคล้ายใบไผ่ แต่บางกว่า ขอบใบเรียบ ฐานใบเป็นรูปลิ่ม ก้านใบสั้นมีหูใบลักษณะคล้ายปลอกหุ้มรอบลำต้นอยู่บริเวณเหนือข้อของลำต้น ดอกออกเป็นช่อ ช่อดอกมีดอกย่อยขนาดเล็กสีขาวนวลหรือชมพูม่วง ผลมีขนาดเล็กมาก
ส่วนที่นำมาใช้ประโยชน์ : ราก, ใบ และ ดอก
สรรพคุณทางยา :
– ราก ช่วยบำรุงประสาท ช่วยรักษาหอบหืด ช่วยแก้อาการไอ ช่วยรักษาโรคกระเพาะอาหาร ช่วยแก้อาการปวดเมื่อยตามร่างกาย ช่วยรักษาอาการปวดข้อ ปวดกระดูก
– ใบ ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทาน ช่วยชะลอวัย ป้องกันและต่อต้านมะเร็ง ช่วยป้องกันโรคหัวใจ ช่วยเจริญอาหาร ช่วยทำให้เลือดลมในร่างกายเดินสะดวก รักษาโรคหวัด ช่วยในการขับถ่าย ป้องกันและแก้อาการท้องผูก
– และช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ แก้ลม ขับลมในกระเพาะอาหาร แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ แก้ท้องเสีย อุจจาระพิการ แก้อาการเจ็บท้อง รักษาโรคตัวจี๊ด รักษาริดสีดวงทวาร รักษาโรคตับแข็ง ลดอาการอักเสบ แก้ตุ่มคัน ผดผื่นคันจากเชื้อรา เป็นกลากเกลื้อน บำรุงเลือดลมของสตรี
– ดอก ช่วยขับเหงื่อ รักษาโรคปอด
วิธีการใช้ :
– ช่วยบำรุงประสาท ช่วยรักษาหอบหืด ช่วยแก้อาการไอ ช่วยรักษาโรคกระเพาะอาหาร ช่วยแก้อาการปวดเมื่อยตามร่างกาย ช่วยรักษาอาการปวดข้อ ปวดกระดูก นำรากมาต้มกับน้ำ ดื่มรับประทาน
– ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทาน ช่วยชะลอวัย ป้องกันและต่อต้านมะเร็ง ช่วยป้องกันโรคหัวใจ ช่วยเจริญอาหาร ช่วยทำให้เลือดลมในร่างกายเดินสะดวก รักษาโรคหวัด ช่วยในการขับถ่าย ป้องกันและแก้อาการท้องผูก และช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ แก้ลม ขับลมในกระเพาะอาหาร แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ แก้ท้องเสีย อุจจาระพิการ แก้อาการเจ็บท้อง รักษาโรคตัวจี๊ด รักษาริดสีดวงทวาร รักษาโรคตับแข็ง ลดอาการอักเสบ แก้ตุ่มคัน ผดผื่นคันจากเชื้อรา เป็นกลากเกลื้อน บำรุงเลือดลมของสตรี นำใบมาต้มกับน้ำ ดื่มรับประทาน หรือ รับประทานสดๆ
– ช่วยขับเหงื่อ รักษาโรคปอด นำดอกมาต้มกับน้ำ ดื่มรับประทาน
อย่างไรก็ตามบทความที่มีเนื้อหาเกี่ยวเนื่องกับสุขภาพทั้งหมด ทางเว็บไซต์ได้รวบรวมไว้เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ผู้อ่านเท่านั้น จึงไม่สามารถนำไปใช้นำไปอ้างอิงหรือใช้แทนการวินิจฉัยของแพทย์ได้ หากมีการนำข้อมูลในเว็บไซต์ไปใช้ ทางเว็บไซต์จะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น จากการนําข้อมูลดังกล่าวไปใช้ ในทุกกรณี โดยไม่มีข้อยกเว้น ดังนั้นควรปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อขอคำอธิบายเพิ่มเติม และควรต้องทราบว่า ข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตเป็นข้อมูลทั่วๆ ไป ไม่สามารถนำมาใช้ได้กับคนไข้ทุกๆคน
สุดยอดไปเลยค่ะ ไม่คิดว่าจะมีประโยชน์ขนาดนี้!
“ผักแพว” หรือ “ผักไผ่” (Vietnamese Mint) ซึ่งเป็นชื่อเรียกทางภาคเหนือ จัดเป็นสมุนไพรพื้นบ้านที่มีลำต้นสีแดงจนบางครั้งอาจเรียกว่า “ผักแพวแดง” พืชชนิดนี้ชอบเจริญเติบโตได้ดีในที่ชื้นแฉะ โดยมักขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ด ส่วนใหญ่พบได้ทั่วทุกภาคของประเทศไทย เพราะเกิดได้เองตามธรรมชาติ
คุณค่าทางโภชนาการอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญในปริมาณที่สูงมากกว่าพืชผักชนิดอื่น ไม่ว่าจะเป็น วิตามินเอ วิตามินซี แคลเซียม และธาตุเหล็ก อีกทั้งยังมีสรรพคุณทางยาที่ช่วยเพิ่มการเผาผลาญไขมันในเลือด เหมาะเป็นผักสมุนไพรลดความอ้วนได้โดยไม่ขาดสารอาหาร สามารถช่วยบำรุงและรักษาสายตา
ทั้งยังช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง และที่สำคัญนั้นจะช่วยในการขับถ่าย ป้องกันและแก้อาการท้องผูก นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ เพราะเป็นผักที่มีไฟเบอร์สูงถึง 9.7 กรัม ซึ่งจัดอยู่ในผักที่มีเส้นในอาหารมากที่สุด 10 อันดับของผักพื้นบ้านไทย
ลักษณะสมุนไพร :
ผักแพวเป็นพืชล้มลุก มีลำต้นสูงประมาณ 30-35 เซนติเมตร ลำต้นตั้งตรงมีข้อเป็นระยะๆ ตามข้อมักมีรากงอกออกมา หรือลำต้นเป็นแบบทอดเลื้อยไปตามพื้นดินและมีรากงอกออกมาตามส่วนที่สัมผัสกับพื้นดิน ใบเป็นใบเดี่ยว ออกสลับ ลักษณะของใบเป็นรูปหอกหรือรูปหอกแกมรูปไข่ ใบมีขนาดกว้างประมาณ 2.5-3 เซนติเมตร และยาวประมาณ 5.5-8 เซนติเมตร ปลายใบเรียวแหลมคล้ายใบไผ่ แต่บางกว่า ขอบใบเรียบ ฐานใบเป็นรูปลิ่ม ก้านใบสั้นมีหูใบลักษณะคล้ายปลอกหุ้มรอบลำต้นอยู่บริเวณเหนือข้อของลำต้น ดอกออกเป็นช่อ ช่อดอกมีดอกย่อยขนาดเล็กสีขาวนวลหรือชมพูม่วง ผลมีขนาดเล็กมาก
ส่วนที่นำมาใช้ประโยชน์ : ราก, ใบ และ ดอก
สรรพคุณทางยา :
– ราก ช่วยบำรุงประสาท ช่วยรักษาหอบหืด ช่วยแก้อาการไอ ช่วยรักษาโรคกระเพาะอาหาร ช่วยแก้อาการปวดเมื่อยตามร่างกาย ช่วยรักษาอาการปวดข้อ ปวดกระดูก
– ใบ ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทาน ช่วยชะลอวัย ป้องกันและต่อต้านมะเร็ง ช่วยป้องกันโรคหัวใจ ช่วยเจริญอาหาร ช่วยทำให้เลือดลมในร่างกายเดินสะดวก รักษาโรคหวัด ช่วยในการขับถ่าย ป้องกันและแก้อาการท้องผูก
– และช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ แก้ลม ขับลมในกระเพาะอาหาร แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ แก้ท้องเสีย อุจจาระพิการ แก้อาการเจ็บท้อง รักษาโรคตัวจี๊ด รักษาริดสีดวงทวาร รักษาโรคตับแข็ง ลดอาการอักเสบ แก้ตุ่มคัน ผดผื่นคันจากเชื้อรา เป็นกลากเกลื้อน บำรุงเลือดลมของสตรี
– ดอก ช่วยขับเหงื่อ รักษาโรคปอด
วิธีการใช้ :
– ช่วยบำรุงประสาท ช่วยรักษาหอบหืด ช่วยแก้อาการไอ ช่วยรักษาโรคกระเพาะอาหาร ช่วยแก้อาการปวดเมื่อยตามร่างกาย ช่วยรักษาอาการปวดข้อ ปวดกระดูก นำรากมาต้มกับน้ำ ดื่มรับประทาน
– ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทาน ช่วยชะลอวัย ป้องกันและต่อต้านมะเร็ง ช่วยป้องกันโรคหัวใจ ช่วยเจริญอาหาร ช่วยทำให้เลือดลมในร่างกายเดินสะดวก รักษาโรคหวัด ช่วยในการขับถ่าย ป้องกันและแก้อาการท้องผูก และช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ แก้ลม ขับลมในกระเพาะอาหาร แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ แก้ท้องเสีย อุจจาระพิการ แก้อาการเจ็บท้อง รักษาโรคตัวจี๊ด รักษาริดสีดวงทวาร รักษาโรคตับแข็ง ลดอาการอักเสบ แก้ตุ่มคัน ผดผื่นคันจากเชื้อรา เป็นกลากเกลื้อน บำรุงเลือดลมของสตรี นำใบมาต้มกับน้ำ ดื่มรับประทาน หรือ รับประทานสดๆ
– ช่วยขับเหงื่อ รักษาโรคปอด นำดอกมาต้มกับน้ำ ดื่มรับประทาน
อย่างไรก็ตามบทความที่มีเนื้อหาเกี่ยวเนื่องกับสุขภาพทั้งหมด ทางเว็บไซต์ได้รวบรวมไว้เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ผู้อ่านเท่านั้น จึงไม่สามารถนำไปใช้นำไปอ้างอิงหรือใช้แทนการวินิจฉัยของแพทย์ได้ หากมีการนำข้อมูลในเว็บไซต์ไปใช้ ทางเว็บไซต์จะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น จากการนําข้อมูลดังกล่าวไปใช้ ในทุกกรณี โดยไม่มีข้อยกเว้น ดังนั้นควรปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อขอคำอธิบายเพิ่มเติม และควรต้องทราบว่า ข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตเป็นข้อมูลทั่วๆ ไป ไม่สามารถนำมาใช้ได้กับคนไข้ทุกๆคน