“ยาพาราเซตามอล” ทานน้อยแต่นานเสี่ยงถึงแก่ “ชีวิต”

เป็นที่ทราบกันดีค่ะว่า ยาพาราเซตามอลนั้นใครๆก็เคยทานแต่บางคนอาจทานผิด บางคนอาจทานถูก เวลาปวดหัว หรือเป็นไข้ สิ่งแรกที่คนเรานึกถึงก็คือ “ยาพาราเซตามอล” ยาสามัญที่ต้องมีอยู่ในทุกบ้าน แต่การกินยาทุกชนิดย่อมมีข้อจำกัด หากกินมากเกินไปก็ส่งผลเสียต่อร่างกายได้ อันนี้มันอันตรายมากนะคะ พาราเซตามอลเป็นยาแก้ปวดที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพเมื่อกินอย่างถูกต้อง เอาเป็นว่าเราไปดูพร้อมกันเลยค่ะว่าต้องทานกันยังไงถึงจะปลอดภัยไปดูพร้อมกันเลย

โทษของการทานยาเกินขนาด
ผู้เชี่ยวชาญได้กล่าวเตือนในเรื่องความเสี่ยงในการเกิดภาวะตับวายจากการกินยาพาราเซตามอลเกินขนาดเล็กน้อยอย่างต่อเนื่องโดยไม่ได้ตั้งใจนั้น เกิดขึ้นมากกว่าการตั้งใจกินเพื่อฆ่าตัวตายเสียอีก นักวิจัยได้กล่าวว่า การได้รับยาเกินขนาดที่กำหนดไว้ แม้เพียงเล็กน้อยก็อาจทำให้เสียชีวิตได้ เช่นกัน

วิธีการทานยาพาราเซตามอลที่ถูกต้อง
ควรกินตามน้ำหนักตัว คูณด้วย 10 หรือ 15 จะได้ขนาดยาเป็นมิลลิกรัมที่เหมาะกับตัวเรา (แต่ต้องไม่เกิน 1,000 มิลลิกรัมต่อครั้ง) เช่น หนัก 50 กิโลกรัม ขนาดยาที่เหมาะคือ 500 หรือ 750 มิลลิกรัม ซึ่งเท่ากับยา 1 เม็ด หรือ 1 เม็ดครึ่ง (ถ้าตัวใหญ่ คูณน้ำหนักแล้วเกิน 1,000 ก็กินได้ไม่เกิน 2 เม็ด) ต้องทานแบบนี้ถึงจะถูกแล้วก็ปลอดภัยนะคะ

ขนาดยาสูงสุดต่อวันสำหรับผู้ใหญ่
– ขนาดมาตรฐานทั่วไป ไม่เกิน 4,000 มิลลิกรัม โดยรวมถึงยาที่มีส่วนผสมของพาราเซตามอลอยู่ด้วยเช่น ยาคลายกล้ามเนื้อ ยาบรรเทาหวัด
– สำหรับคนตัวเล็ก ควรไม่เกิน 3,000-3,250 มิลลิกรัม (เป็นค่าเพื่อความปลอดภัยที่สูงขึ้น)
– สำหรับผู้ที่ต้องกินต่อเนื่องระยะยาว ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ไม่เกิน 2,500-2,600 มิลลิกรัม
– ผู้ป่วยโรคตับ หรือดื่มสุราเป็นประจำ ต้องกินไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัม
– สำหรับผู้ป่วยทีต้องรับยาวาร์ฟาริน (Warfarin) คือ ยาต้านทานการแข็งตัวของเลือด ที่ทางการแพทย์
ใช้รักษาและป้องกันภาวะอุดตันของหลอดเลือด อันมีสาเหตุจากการทำงานของเกล็ดเลือดที่ผิดปกติ
เป็นอย่างไรกันบ้างค่ะสำหรับเรื่องราวของยาพารา ยาสามัญประจำบ้านที่หาทานได้ง่ายๆรู้แบบนี้แล้วก็ควรเลือกทานในปริมาณที่เหมาะสมกันด้วยนะค่ะเพราะมันอันตรายมากๆเช่นกันเอาเป็นว่าสำหรับวันนี้ขอตัวไปก่อนนะบ๊ายบาย