ชอบกินชะอมต้องอ่าน เผยความลับของชะอมที่ส่งผลต่อร่างกายคุณอย่างคาดไม่ถึง

ถ้าพูดถึงผักที่เข้ากับกลายๆเมนู ทั้งต้ม ทอด ลวก จิ้ม ได้ หลายๆคนคงจะต้องนึกถึงชะอมอย่างแน่นอน แต่คุณคงไม่เคยรู้ว่าชะอม 100 กรัมให้พลัง งานกับสุขภาพ 57 กิโลแคลอรี่ประกอบด้วยเส้นใย 5.7 กรัมแคลแซียม 58 มิลลิกรัมฟอสฟอรัส80มิลลิกรัม เหล็ก4.1มิลลิกรัมวิตามินเอ10066IU วิตามินบีหนึ่ง 0.05 มิลลิกรัมวิตามินบีสอง 0.25 มิลลิกรัมในอาซิน 1.5 มิลลิกรัมวิตามินซี 58 มิลลิกรัม

นอกจากนี้ชะอมยังมีประโยชน์ต่อร่างกายอีกมากมายสรรพคุณและประโยชน์ของชะอม

1. ชะอมอุดมด้วยวิตามินเอ หากจะตามหาผักที่มีวิตามินเอสูงต้องห้ามมองข้ามชะอมเลยนะ เพราะอุดมด้วยวิตามินเอที่จะช่วยให้เราต่อสู้กับอนุมูลอิสระทั้งจากปัจจัยภายนอกและภายในได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังช่วยบำรุงสายตาด้วย

2. ยอดอ่อนของชะอมมีสรรพคุณช่วยลดความร้อนในร่างกาย ซึ่งเป็นส่วนที่เรามักนำมาทำอาหารกินกันมากที่สุด

3. ชะอมมีเส้นใยอาหารที่มีประโยชน์ต่อระบบขับถ่าย ทำให้การขับถ่ายเป็นปกติ แก้อาการท้องผูก

4. ประโยชน์ของชะอมช่วยขับลมในกระเพาะอาหารและลำไส้ บรรเทาอาการปวดท้องหรือปวดเสียวในท้องได้ดี แก้อาการท้องอืดและท้องเฟ้อ

5. ชะอมช่วยบำรุงเส้นเอ็น อีกหนึ่งสรรพคุณที่โดดเด่นของชะอมคือ ช่วยบำรุงและรักษาเส้นเอ็นให้แข็งแรง ไม่เสื่อมเร็วกว่าที่ควร

6. ชะอมมีแคลเซียมสูง ซึ่งมีความสำคัญต่อกระดูกและฟัน โดยเฉพาะในผู้หญิงวัยทองที่มีความเสี่ยงจะเกิดภาวะกระดูกพรุนได้ง่าย ถ้าอยากให้กระดูกและฟันแข็งแรงก็ต้องกินชะอมเป็นประจำ

7. ชะอมมีคุณสมบัติช่วยรักษาอาการลิ้นอักเสบและเป็นผื่นแดง

8. ในชะอมมีฟอสฟอรัส ที่ทำหน้าที่ช่วยเสริมให้วิตามินบีต่างๆ ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

9. ชะอมมีธาตุเหล็ก ที่มีส่วนสำคัญในการช่วยบำรุงเลือด ทำให้การไหลเวียนของเลือดเป็นไปอย่างปกติ

10. ชะอมช่วยเสริมสร้างระบบของภูมิคุ้มกันในร่างกายให้แข็งแรง ทำให้กำจัดเชื้อโรคต่างๆ ได้ดีขึ้น ไม่เจ็บป่วยง่าย เพราะฤทธิ์ของวิตามินซีที่มีอยู่มากในชะอมนั่นเอง

11. ประโยชน์ของชะอมช่วยต่อต้านการเกิดโรคมะเร็ง และลดโอกาสที่จะเกิดโรคหัวใจได้ด้วย เนื่องจากในชะอมมีสารสำคัญที่ชื่อว่า เบต้าแคโรทีน

12. สารเบต้าแคโรทีนในชะอมยังช่วยบำรุงผิวพรรณให้ผ่องใส แลดูอ่อนเยาว์ และป้องกันความแก่ก่อนวัย

13. ชะอมมีสรรพคุณช่วยบำรุงเส้นผม ที่แห้งแตกปลาย ไม่มีน้ำหนัก ให้กลับมานุ่มสลวยได้

14. รากชะอมมีสรรพคุณแก้ท้องอืด ท้องเฟ้อได้ อีกทั้งการกินชะอมยังช่วยในการขับลมในกระเพาะและลำไส้ได้อีกด้วย

โทษของชะอม

– สำหรับคุณแม่ที่เพิ่งคลอดบุตรอ่อนๆ ไม่ควรรับประทานผักชะอม เพราะจะทำให้น้ำนมแห้งได้

– สำหรับคุณแม่ลูกอ่อน จะแพ้กลิ่นของผักชะอมอย่างมาก ดังนั้นควรอยู่ห่างๆ

– การรับประทานผักชะอมในช่วงหน้าฝน อาจจะมีรสเปรี้ยว กลิ่นฉุน บางครั้งอาจทำให้มีอาการปวดท้องได้ ซึ่งปกติคนมักนิยมรับประทานผักชะอมกันในช่วงหน้าร้อน

– กรดยูริกเป็นตัวการที่ทำให้เกิดข้ออักเสบในผู้ป่วยโรคเกาต์ ซึ่งเกิดมาจากสารพิวรีน (Purine) โดยผักชะอมนั้นก็มีสารพิวรีนในระดับปานกลางถึงระดับสูง ผู้ป่วยโรคเกาต์สามารถรับประทานได้ แต่ควรรับประทานในปริมาณที่จำกัด หากเป็นมากก็ไม่ควรรับประทาน เพราะจะทำให้ปวดกระดูกได้5. อาจพบเชื้อก่อโรคอย่าง ซาลโมเนลลา (Salmonella) ซึ่งเป็นเชื้อที่สามารถพบได้ทั่วไปในสภาพแวดล้อม เช่น ดิน น้ำ อากาศ เมื่อเรานำผักชะอมที่ปนเปื้อนสารชนิดนี้มาประกอบอาหารโดยไม่ล้างทำความสะอาดหลายๆ ครั้ง หรือไม่นำมาปรุงให้สุกก่อนรับประทาน อาจมีความเสี่ยงที่จะได้รับเชื้อชนิดได้ โดยผู้ที่ได้รับเชื้อชนิดอาจจะมีอาการท้องเสีย ปวดท้อง ถ่ายเหลวเป็นน้ำสีเสียว หรือถ่ายเป็นมูกมีเลือดปน มีไข้ เป็นต้น

-ขอขอบคุณ sharesi