ประกาศภัยพิบัติฉุกเฉิน ฝนตกหนัก ‘แม่ฮ่องสอน’ ถนนขาดทรุดหลายสาย (ชมคลิปท้ายข่าว)
– แม่ฮ่องสอน – ภัยพิบัติฉุกเฉิน / เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2561 นายสาคร รุ่งเรือง รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 2 ส.ค.2561 ที่ผ่านมา จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้มีการจัดประชุมคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติจังหวัดแม่ฮ่องสอน ( ก.ช.ภ.จ.มส.) ครั้งที่ 2/2561 เพื่อพิจารณาประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินการออกประกาศดังกล่าว มาจากกรณีเกิดฝนตกหนักในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนในช่วงเดือนกรกฎาคม 2561ที่ผ่านมาและต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ทำให้อำเภอต่าง ๆ ได้แก่ อำเภอขุนยวม ได้รับผลกระทบ 5 ตำบล 21 หมู่บ้าน อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน 6 ตำบล 34 หมู่บ้าน อำเภอสบเมย 6 ตำบล 38 หมู่บ้าน อำเภอปางมะผ้า 4 ตำบล 14 หมู่บ้าน
อำเภอปาย 5 ตำบล 26 หมู่บ้าน อำเภอแม่สะเรียง 7 ตำบล 46 หมู่บ้าน และอำเภอแม่ลาน้อย 4 ตำบล 18 หมู่บ้าน รวม 194 หมู่บ้าน ผลกระทบที่ได้รับความเสียหาย เช่น ถนนเส้นทางหลัก และถนนเส้นทางรอง พื้นที่ทางการเกษตร ฝาย บ้านเรือนราษฎร ซึ่งคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติจังหวัดแม่ฮ่องสอน ( ก.ช.ภ.จ.มส.)
มีมติเห็นชอบประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน สำหรับราษฎรที่อาศัยอยู่ตามแนวชายแดน ห่างไกลเส้นทางคมนาคม จำนวนเกือบร้อยละ 60 ต้องได้รับผลกระทบจากเส้นทางคมนาคมถูกตัดขาด และดินสไลด์ยุบตัว ต้องรื้อบ้านเรือนหนีจากจุดเสี่ยงภัยดินภูเขาถล่ม
รวมไปถึงคนป่วยที่ต้องเดินเท้าลัดเลาะตามป่าเขามารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล ซึ่งบางจุดที่มี โรงเรียนของ ตชด.ตั้งอยู่ จะโชคดีที่มีเฮลิคอปเตอร์ที่ไปส่งเสบียงอาหารให้แก่ครูตชด.บนดอยสูงที่รถไม่สามารถเดินทางเข้าไปถึงได้ คนป่วยก็จะติดมากับเฮลิคอปเตอร์มารับการรักษาที่โรงพยาบาลในตัวเมือง
ซึ่งก่อนหน้านี้ถนนร้าวสุดอันตราย ‘แชร์ว่อน’ โลกโซเชียล โดยผู้ใช้เฟซบุ๊ก จินตนา ไชโยธา ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความ แจ้งถึงผู้ที่จะใช้เส้นทางภูทับเบิกนะตอนนี้เส้นทางเกิดยุบตัวลง ผู้ที่จะไปภูทับเบิกใช้เส้นทางอย่างระมัดระวัง นะคะ Credit : ขอบคุณภาพถ่ายครูต่อ (ครูโรงเรียนทับเบิก)
ขณะที่เพจหนึ่งได้โพสต์ระบุ ถนนทรุด เเยก เเตก ร้าว !! ไม่จำเป็น !! ยังไม่ต้องไปภูทับเบิก !! ฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ทางหลวงหมายเลข 2331 ตอน โจ๊ะโหวะ-อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า กม.10+050-.10+650 เกิดเหตุน้ำกัดเซาะผิวทางทรุดตัว เเต่หากจำเป็นต้องใช้เส้นทางจริงๆเจ้าหน้าที่ฯ ได้ติดตั้งสิ่งอำนวยความปลอดภัยแก่ผู้ใช้เส้นทางเเล้ว ขอให้ใช้เส้นทางด้วยความระมัดระวัง
แขวงทางหลวงเพชรบูรณ์ที่ 1 เร่งซ่อมแซมปรับปรุงถนนทางขึ้นภูหินร่องกล้า หลังถูกน้ำกัดเซาะทำให้เกิดการยุบตัว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2561 นายอลงกรณ์ พรหมศิลป์ ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงเพชรบูรณ์ที่ 1 สำนักงานทางหลวงที่ 6 กรมทางหลวง พร้อมด้วยนายแสงทอง พาแก้ว รองผู้อำนวยการแขวงทางหลวงเพชรบูรณ์ที่ 1 (ฝ่ายปฏิบัติการ)
และเจ้าหน้าที่หมวดทางหลวงได้ติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัยแก่ผู้ใช้เส้นทางและปรับปรุงซ่อมแซมผิวทางที่เกิดการทรุดตัว หลังจากเกิดเหตุน้ำกัดเซาะผิวทางทรุดตัวเนื่องจากมีฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน บนถนนทางหลวงหมายเลข 2331 ตอน โจ๊ะโหวะ-อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า กม.10+050-.10+650
เมื่อเวลาประมาณ 05.20 น. พร้อมสั่งกำชับให้เจ้าหน้าที่หมวดฯ ได้ออกตรวจสายทางบนทางหลวงหมายเลข 2331 พบผิวทางทรุดตัวในสายทาง ดังนี้ 1.ที่ กม.9+400-9+425 2. กม.9+700-9+725 3. กม.9+800-9+825 4.กม.10+050-10+650 ส่วนในด้านความเสียหายอยู่ระหว่างการตรวจสอบเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม จึงขอความร่วมมือผู้ใช้ทางเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่ โปรดสังเกตป้ายแนะนำ ป้ายเสริม ตามที่ได้ติดตั้งไว้ และ ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด หากประชาชนต้องการสอบถามข้อมูลเส้นทาง หรือ แจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายหรือขอความช่วยเหลือ สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรมทางหลวง 1586 โทรฟรี 24 ชั่วโมง
ซึ่ง ภูทับเบิก เพชรบูรณ์ อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวประเทศไทยน่าไปเยือน เพราะมีวิวทะเลภูเขาที่สวยงามชวนไปสัมผัส สายลมเย็น ๆ พัดเอื่อย ๆ ชวนให้นึกถึงภาพบรรยากาศทิวเขาสูงซับซ้อน ทอดตัวยาวสุดลูกหูลูกตา แหม ๆ ๆ ว่าแล้วเราก็นำพาตัวเองไปสัมผัสความรื่นรมย์ที่ว่ากันดีกว่า และสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย ที่จะไปท่องเที่ยว ก็คือ “ภูทับเบิก” จังหวัดเพชรบูรณ์
นั่นแน่ ! อยากไปเที่ยวแล้วใช่มั้ย ตามเข้ามาเลยค่ะ… ภูทับเบิก เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดเพชรบูรณ์ ตั้งอยู่ที่บ้านทับเบิก ตำบลวังบาล ห่างจากอำเภอหล่มเก่า 40 กิโลเมตร ตามเส้นทางจากหล่มเก่าไปภูหินร่องกล้า หรือห่างจากตัวจังหวัดเพชรบูรณ์ประมาณ 90 กิโลเมตร ภูทับเบิก มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,768 เมตร
เป็นจุดที่สูงที่สุดของเพชรบูรณ์ มีสภาพภูมิประเทศที่สวยงามด้วยธรรมชาติแบบทะเลภูเขา มีอากาศบริสุทธิ์ สภาพภูมิอากาศเย็นสบายตลอดปี เนื่องจากร่องลมเย็นจากเทือกเขาหิมาลัยและอยู่บนที่สูงจึงสามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้กว้างไกล โดยช่วงเช้าจะมองเห็นกลุ่มเมฆ และทะเลหมอกตัดกับยอดเทือกเขาเพชรบูรณ์
นอกจากนี้ ภูทับเบิก ยังเป็นสถานที่ที่สำคัญของจังหวัดเพชรบูรณ์ คือเป็นจุดรองรับน้ำฟ้ากลางหาว (เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2542) เพื่อนำไปรวมเป็นน้ำเพชรน้อมเกล้า ถวายเป็นน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ ในวันที่ 5 ธันวาคม 2542 ปัจจุบัน ภูทับเบิก เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวไทยภูเขาเผ่าม้ง
ซึ่งได้อพยพมาอาศัยอยู่ที่บ้านทับเบิก หมู่ที่ 14 และหมู่ที่ 16 โดยอยู่ในความดูแลของศูนย์พัฒนาสงเคราะห์ชาวเขาจังหวัดเพชรบูรณ์ ประกอบด้วยอาชีพทำการเกษตรแบบขั้นบันไดตามเชิงเขา ในช่วงปลายฝนต้นหนาว จะพบเห็นไร่กะหล่ำปลีอยู่สองข้างถนนสู่ทับเบิกสวยงาม ในราวเดือนธันวาคม-มกราคม จะมี ดอกซากุระ หรือ นางพญาเสือโคร่ง สีชมพูบานสะพรั่งไปทั้งภูเขา
นอกจากนี้ ในยามค่ำคืนยังมองเห็นแสงไฟระยิบระยับจากบ้านเรือนในอำเภอหล่มสัก ที่อยู่เบื้องล่าง เปรียบได้กับ”ดาวบนดิน” จากสภาพดังกล่าว ทำให้ภูทับเบิกเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ และดึงดูดนักท่องเที่ยวที่นิยมสัมผัสบรรยากาศที่หนาวเย็น วิถีชีวิตชาวเขา และแหล่งธรรมชาติที่บริสุทธิ์ ภายใต้คำกล่าวที่ว่า “นอนทับเบิก สัมผัสความหนาว ดูดาวบนดิน”
โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวก บริเวณหมู่บ้านทับเบิกและจุดชมวิว มีบ้านพัก เต็นท์ และร้านอาหารเปิดบริการแก่นักท่องเที่ยว จากเพชรบูรณ์ ใช้ทางหลวงหมายเลข 21 ประมาณ 40 กิโลเมตร ถึงสี่แยกหล่มสัก ตรงไปตามทางหลวงหมายเลข 203 อีก 13 กิโลเมตร พบป้ายบอกทางไปอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า
ตามทางหลวง 2011 และทางหลวงหมายเลข 2331 อีก 40 กิโลเมตร ถึงด่านเก็บค่าธรรมเนียมของอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จากตรงนี้มีทางแยกขวาเข้าหมู่บ้านทับเบิกไปอีก 6 กิโลเมตร เส้นทางจากหล่มเก่ามาภูทับเบิกจะสูงชันและคดเคี้ยวมาก รถบัสไม่สามารถขึ้นได้ ผู้ที่ใช้รถยนต์หรือรถตู้
ควรขับรถด้วยความระมัดระวัง อีกเส้นทางหนึ่งใช้เส้นทางด้านอำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก ผ่านอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า เลยที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า มาประมาณ 24 กิโลเมตร จะถึงภูทับเบิก หากขับรถต่อไปจะมาบรรจบกับเส้นทางที่จะลงไปยังอำเภอหล่มเก่า
สำหรับ ภูทับเบิก นั้นเป็นชื่อของหมู่บ้านที่ชื่อ หมู่บ้านม้งทับเบิก โดยเป็นหมู่บ้านชาวเขาเผ่าม้ง เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งมีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,768 เมตร บนภูเขาสูงของจังหวัดเพชรบูรณ์ ในตำบลวังบาล อำเภอหล่มเก่า และห่างจากตัวอำเภอประมาณ 40 กม. และห่างจากตัวจังหวัดเพชรบูรณ์ประมาณ 100 กม.
ชาวม้งที่นี่มีอาชีพทำการเกษตรเป็นหลัก พืชผักที่มีการปลูกมากที่สุด ก็คือกะหล่ำปลี ซึ่งมีการจัดสรรที่ดินทำกินสำหรับการปลูกกะหล่ำปลีหลายพันไร่บนยอดเขาสูง ทำให้ในช่วงฤดูฝน มีกะหล่ำปลีผุดขึ้นละลานตาเต็มภูเขา โดยใน เฉพาะในช่วง เดือนกรกฎาคม – สิงหาคม และช่วงเดือน ตุลาคม-พฤศจิกายน ของทุกปี ส่วนในช่วงหน้าหนาว ที่เที่ยวก็จะมีดอกนางพญาเสือโคร่งบานเต็ม ภูทับเบิก ให้ไปถ่ายรูปกัน