เปิดใจเลิกทั้งน้ำตา! “ดิว อริสรา” แจงปมเลิก”ไผ่ วันพ้อย”ยอมรับความผิดพลาดของตัวเอง(ชมคลิปท้ายข่าว)
ชีวิตตอนนี้ของ “ดิว” อริสรา เรียกว่าหนักอึ้งสุดๆ ทั้งเรื่องคดีถูก “ซีแนม เอเอฟ” ยื่นฟ้องกรณีร่วมหุ้นเปิดร้านทำเล็บแต่ไม่ได้รับเงินคืน ซึ่งยังอยู่ในขั้นตอนการไกล่เกลี่ยของศาล
ก็เจอเรื่องปวดใจอีกระลอกเมื่อต้องเลิกรากับหวานใจ “ไผ่ วันพอยท์” ที่คบหาดูในกันมากว่า 6 ปี เท่านั้นยังไม่หนักพอ เพราะล่าสุดคุณพ่อของสาวดิวถูกหามส่งห้องไอซียู เป็นการด่วน งานนี้เจอตัวสาวดิวในงานเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ Jejuvita ที่มาพร้อมข่าวดีฉลองยอดขาย 1 ล้านซอง เจ้าตัวก็เปิดใจจนหมดเปลือกดังนี้
อัพเดทเรื่องหัวใจตอนนี้เป็นยังไงบ้าง
“ก็…ก็โสดค่ะก็โสดมาได้สักพักนึงถามว่าใช้เวลานานไหมกว่าจะตัดสินใจเบรกกับความรักครั้งนี้ก็อย่างที่รู้กันว่าเราเองก็มีปัญหากันมาหลายครั้งแล้วครั้งนี้ก็เกิดจากเรื่องที่เข้าใจผิดกันบ้างผสมกันหลายๆอย่างที่ผ่านมาเราทั้งสองคนก็พยายามประคับประคองแต่ด้วยตอนนี้ดิวเองคุณพ่อก็ดื้อมากและก็ซ่ามาก”
ทุกวันนี้ยังติดต่อกันไหม
“คุยค่ะ ทุกวันนี้ก็ยังคุยกันอยู่เราไม่ได้แบบที่ทะเลาะกันและหายจากกันไปเลยคือเราคุยกันตกลงกันด้วยดี”
แต่ดูทางไผ่จะเฮิทหนักมากเพราะโดยปกติขาวไม่เคยขึ้นแคปชั่นที่ดูเศร้าแบบนี้
“จริงๆพี่ไผ่เขาก็เป็นคนดราม่าอยู่แล้วแต่เป็นแบบสไตล์เขาแต่ดิวเชื่อว่ามันผ่านช่วงเวลามาได้ระยะหนึ่งแล้วจริงๆแล้วไม่ใช่ว่าใครจะขอหยุดความสัมพันธ์แต่เป็นการที่เราคุยกันมากกว่าว่ามันก็ควรเป็นอย่างนั้นเพราะตัวเดียวเองก็ยังเป็นคนแบบรักสนุกติดเพื่อนติดเที่ยวและอีกหลายๆอย่างและก็ซ่าไปหน่อยมันก็มีเรื่องที่เขาขอเราไว้แต่เราก็ออกนอกแถวไปหน่อยเพลินไปหน่อย”
คนตีความจากแคปชั่นของใครมองว่าดิวมีมือที่สาม
“มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดมากกว่าเพราะเวลาเราออกมาข้างนอกแล้วเขาก็จ้องกังวลเรื่องพวกนี้แต่คนรอบตัวเราก็เป็นเพื่อนเป็นพี่น้องด้วยกันทั้งนั้นส่วนใหญ่ปัญหาน่าจะเกิดจากการที่ว่าเรายังติดเที่ยวและยังเป็นสไตล์เราที่เราเป็นบิลยืนยันว่าไม่ได้มีมือที่สามแน่นอน”
สภาพจิตใจของดิวตอนนี้เป็นยังไงบ้าง
“ก็ดีขึ้นแล้วอาจจะเป็นเพราะว่าเขาก็ไม่ได้หายไปจากชีวิตเราเลยมันเลยอาจจะไม่ได้เจ็บขณะที่เรียกว่าพีคมันเป็นเรื่องของการที่ว่าเรายอมรับตัวเองได้ว่ามันเป็นเพราะอะไรมันก็อาจจะต้องทบทวนกันนิดนึงด้วยการแยกย้ายไปมองว่าสิ่งที่เราต้องการกันคืออะไรนิวยังจะรักเที่ยวอยู่ไหมหรืออะไรอย่างนี้อยู่ไหม”
เมื่อทุกวันนี้ยังเหมือนตัดกันไม่ขาดจะมีโอกาสกลับมาคืนดีกันไหม
“ถ้ามันจะมีวันนั้นบิวก็ต้องไม่เป็นแบบเดิมแล้วมันก็คงต้องปล่อยให้เป็นเรื่องที่เราโตขึ้นถามว่าดิวรู้ปัญหาไหมดิวรู้ รู้ตัวเองทุกอย่างในสิ่งที่ทำคือเราเป็นคนรู้ตัวเองทุกอย่างแต่ก็ทำคือเราเป็นคนที่คิดน้อยไม่ใช่ว่าไม่รู้นะแล้วก็ชอบทำอะไรตามใจตัวเองมากๆจนบางทีมันทำให้เกิดเรื่องให้มันเป็นแบบนี้”
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เราปรับตัวเองซ่าลดลงไหม
“มันก็มีการคุมตัวเองมากขึ้นทุกอย่างมันก็ต้องมีการแลกกันถามว่าตัวเดียวเองอยากให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมไหมคือถ้ากลับมาเป็นเหมือนเดิมเราก็ต้องมั่นใจว่าจะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกซึ่งเราก็ต้องถามตัวเองดีๆว่ามันคืออะไร”
ที่ผ่านมาถ่ายค่อนข้างตามใจดิวทุกอย่าง
“ใช่ ดีมาก ก็อย่างที่บอกแหละว่าดิวเองก็ทำทุกอย่างเกินไปชอบทำอะไรโดยที่ไม่คิดอะไรซึ่งทุกวันนี้ที่คุยกันทุกอย่างก็เป็นเหมือนเดิมเขาก็ยังเป็นห่วงคือดิวเข้าใจเลยว่าคนที่คบกันมานานมันมีความผูกพันความดีของเขาคือจากวันนั้นจนถึงวันนี้ที่ความสัมพันธ์มันเปลี่ยนไปแต่เขาก็ยังเป็นห่วงเรา”
ทำใจยากไหมกับการเปลี่ยนสถานะครั้งนี้เพราะเราเองก็ผูกพันกับเขา
“มันก็ไม่ได้ยากขนาดนั้นหรอกเพราะเราเองก็ยอมรับในความผิดพลาดของตัวเราเอง (เสียงสั่น) มันไม่ใช่แบบที่ว่าเขามีคนอื่นหรือเรามีใคร”
ตอนที่เรามีปัญหาต้องขึ้นโรงขึ้นศาลเจอเรื่องราวหนักๆเขาก็ยังคอยอยู่เคียงข้างเราใช่ไหม
“เขาก็ยังคอยสนับสนุนเราเต็มที่มันก็ทำให้เราอุ่นใจ มันเหมือนกับว่าวันนี้สถานะเราอาจเปลี่ยนไป แต่เขาก็ยังเป็นคนในครอบครัวเราอยู่ เขาก็ยังแบบว่า… ก็ต้องบอกว่าเขาดีจริงๆ”
หลังจากลดสถานะแล้วยังเจอกันบ้างไหม
“มีเจอบ้าง เวลาคุยเรื่องคดีี เขาก็จะมาช่วย”
ตอนนี้เรียกว่าพักใจไหม
“เอาจริงๆ ตอนนี้ไม่ได้คิดเรื่องนี้เลย ปัญหามันเยอะมากไง เลยอยากที่จะเคลียร์ปัญหาให้มันหมดไปเรียบร้อยก่อน แล้วพอความสัมพันธ์เรามาเป็นแบบนี้ มามีปัญหา ก็จะมีพวกที่หวังดีและประสงค์ร้าย ดิวว่าดิวอยู่ในโมเม้นท์ที่เอาคนไม่ดีออกเก็บคนดีๆ ไว้ แล้วก็ถามตัวเองว่าสติเราจะเอายังไง”
พอประกาศว่า “โสด” มีคนเข้ามา
“ไม่ทราบเลย แต่ตอนนี้ไม่มี”
เหนื่อยใจไหมมีแต่เรื่องเข้ามา
“สงสัยจะปีชงมั้ง ไม่แน่ใจ หลังวันเกิดนี่มาเต็ม พร้อมๆ กันเลย ไม่ได้มีไปแก้เคล็ดอะไร ดิวว่าแก้ไขปัญหาดีกว่าค่ะ ทำบุญแม่ๆ เขาจัดการให้ตลอดเวลาอยู่แล้ว คือเรื่องบางเรื่องมันนิ่งไม่ได้เพราะมันเป็นเรื่องของคดีความ แต่บางเรื่องเราก็เลือกที่จะนิ่งดีกว่า ตอนนี้ก็โอเคแล้ว มันผ่านไปจุดที่เครียดไปแล้ว”
เห็นว่าพ่อป่วยหนักเข้าไอ.ซี.ยู ร่วมเดือน
“ตอนนี้ก็ดีขึ้นแล้วค่ะ (ร้องไห้) เรื่องอื่นคือเฉยๆ แต่เรื่องนี้คือหนักสุด แต่ก็โอเคแล้ว ตอนนี้ดีขึ้น ออกจากไอซียูแล้ว เราก็ไม่ให้คุณพ่ออยู่ต่างจังหวัดแล้ว ไม่ให้ทำงานแล้ว ก็เอามาดูแลกัน เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เครียดที่สุดในบรรดาทุกๆ เรื่อง ถามว่าไหมไหม ไหวค่ะไหว คือตอนแรกคืออยู่ไอซียูเป็นเดือนไม่ฟื้นเลย
ตอนนี้คือฟื้นขึ้นมาแล้ว พูดคล่องแล้วแต่ยังเดินไม่ค่อยได้ แต่ก็ดีขึ้น จริงๆ จะบอกว่าปัญหาทุกอย่างมันไม่ได้ทำให้ดิวคิดมากเพราะว่าดิวมีเรื่องนี้ที่ดิวว่ามันสำคัญที่สุดที่ดิวต้องโฟกัส เรื่องอื่นมันเลยจิ๊บๆ ไปเลย พอมีเรื่องนี้เราก็เลยต้องเข้มแข็งไปด้วยตัวเอง มันเครียดเพราะมันเป็นช่วงคาบเกี่ยวว่าจะอยู่หรือไม่อยู่ พอวันนี้เขากลับมาเหมือนเดิม ฟื้นขึ้น ปาฎิหาริย์มันมีจริง มีข่าวดีบนเรื่องร้ายๆ เราก็เลยไม่ได้เครียดกับอะไรก็ตามขนาดนั้น”