หลายคนมักไม่รู้ 10 สัญญาณไฟหน้าปัดรถยนต์ รู้ก่อนจะได้ช่วยถนอมรถคุณได้

หลายคนที่ขับรถส่วนใหญ่ มักจะดูแผงหน้าปัดรถยนต์ ดูสัญลักษณ์หน้าปัด ออก เข็มวัดความเร็วกับน้ำมันแค่นั้น แบบนี้ไม่ดีเลยนะครับ ต้องรีบปฏิวัติตัวเองใหม่ให้เป็นคนที่ใส่ใจและรอบรู้ในทุกด้านเพราะเรื่องรถยิ่งรู้มาก ยิ่งขับขี่ปลอดภัยมากขึ้น ปัญหาต่างน้อยลงครับ ฉะนั้นเรามาดูกันดีกว่าว่า สัญญาณไฟหน้าปัดรถยนต์ มีอะไร แต่ละอันบ่งบอกอะไรได้บ้าง ไปทำความรู้จักกันเลย

1.รูปตู้จ่ายน้ำมันแต่มีจุดๆอยู่ด้านล่าง

เมื่อแสดงขึ้นมา สามาถบ่งบอกว่ากรองน้ำมันมีปัญหา อาจเป็นเพราะกรองน้ำมันตัน หรือ มีน้ำผสมอยู่ในน้ำมันมาก

2.ไฟเตือนระบบประจุไฟ

ถ้าไฟเต ือนนี้สว่างจ้า ขณะเครื่องยนต์ทำงาน แสดงว่าระบบประจุไฟไม่มีการประจุไฟ หรือชาร์ทเข้าแบตเตอรี่ ปิดสวิตช์อุปกรณ์ไฟฟ้าทั้งหมดทันที เช่น วิทยุ, เครื่องปรับอากาศ, วงจรละลายฝ้า ฯลฯ พย าย ามไม่ใช้อุปกรณ์ที่ทำงานด้วยไฟฟ้าอื่น เช่น กระจกไฟฟ้า ให้เครื่องยนต์ทำงานต่อไป และระมัดs ะวั ง อย่าให้เครื่องยนต์ดับ การสตาร์ทเครื่องยนต์จะทำให้ไฟจากแบตเตอรี่หมดอย่างรวดเร็ว

การ ตั ดการใช้กระแสไฟของอุปกรณ์ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ จะสามารถขับขี่รถไปได้หลายกิโลเมตรก่อนไฟแบตเตอรี่หมด จนไม่อาจทำให้เครื่องยนต์ทำงานอยู่ได้ นำรถเข้าปั๊มน้ำมัน หรืออู่รถที่สามารถซ่อมระบบประจุไฟฟ้าได้ อาจเกิດจาก แบตเตอรี่เสื่оม หมดอายุ สายพานไดชาร์ทข า ด หรือหย่อน และไดชาร์ทชำรุด

3.ไฟเตือนระบบถุงลมนิรภัย SRS

ไฟเตือนนี้จะสว่างเป็นเวลา 5-6 วินาที เมื่อบิดสวิตช์กุญแจไปที่ ON แล้วดับลงแสดงว่าระบบทำงานปกติ ถ้าไฟเตือนนี้ไม่ติด เมื่อบิดกุญแจไปที่ ON หรือถ้าไฟเตือนติดค้างอยู่หลังจากที่เครื่องยนต์ติดแล้ว และถ้าไฟสว่างขึ้นหรือกระพริบขณะที่กำลังขับขี่

แสดงว่ามีปัญหาเกิดขึ้นกับระบบถุงลมนิรภัย และระบบเข็มขัดนิรภัยที่ทำงานระบบดึงกลับอัตโนมัติเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ทำงานผิดปกติ และถ้าเกิດเหตุการณ์ดังกล่าว ถุงลมนิรภัยอาจไม่ทำงาน ควรนำรถเข้าตรวจสอบที่ศูนย์บริการของรถท่านทันที

4.ไฟเตือนระบบเบรกป้องกันล้อล็อค

หรือระบบเบรก ABS จะช่วยป้องกันล้อล็อคและการลื่นไถลเมื่อทำการเบรกอย่างรุนแรง ซึ่งจะช่วยให้สามารถควบคุมรถได้อย่างปลอดภัย โดยปกติไฟเตือนนี้จะสว่างเป็นเวลา 2-3 วินาที

เมื่อบิดกัญแจไปตำแหน่ง ON และ Start ถ้าไฟเตือนสว่างขึ้นในเวลาอื่นแสดงว่าระบบป้องกันล้อล็อคมีปัญหาควรนำรถเข้าตรวจเช็คที่ศูนย์บริการ และถึงแม้ไฟเตือนจะติดอยู่ในขณะขับขี่ระบบเบรกแบบธรรมดาจะยังคงทำงานปกติ แต่ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค หรือ ABS จะไม่ทำงาน

5.ไฟเตือนพวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า

ถ้าไฟเตือนนี้สว่างขึ้นขณะเครื่องยนต์ทำงาน หรือกำลังขับขี่ แสดงว่าเกิດปัญหากับระบบไฟฟ้าของพวงมาลัยเพาเวอร์ ให้จอดรถในที่ปลอดภัย ดับเครื่องยนต์แล้วสตาร์ทเครื่องยนต์ใหม่ถ้าไฟเตือนหน้าปัดยังไม่ดับหรือสว่างขึ้นอีกเมื่อขับรถไปได้ระยะหนึ่ง ต้องนำรถเข้าตรวจเช็ค โดยจะมีอาการพวงมาลัยหนักเมื่อต้องเลี้ยวรถ

6.ไฟเตือนอุณหภูมิสูง

ไฟนี้จะสว่างเพื่อแสดงอุณหภูมิน้ำหล่อเย็นของเครื่องยนต์ ขณะขับรถต้องหมั่นสังเกตความร้อนของน้ำหล่อเย็น เมื่อขับรถขึ้นทางลาดชัน หรือใช้รอบเครื่องยนต์สูงเป็นระยะเวลานานไฟนี้อาจจะกระพริบ หรือจะกระพริบเมื่ออุณหภูมิน้ำหล่อเย็นสูงขึ้น

ถ้าเห็นลักษณะดังกล่าว ต้องลดความเร็วต่ำลงเพื่อป้องกันเครื่องยนต์ร้อนจัดเกินไป แต่ถ้าไฟนี้สว่างค้าง ต้องจอดรถและตรวจสอบระบบน้ำหล่อเย็น และไม่ควรขับรถต่อไป อาจจะทำให้เครื่องยนต์เกิดความเสียหายอย่างรุนแรง

7.ไฟเตือนแรงดันน้ำมันเครื่องต่ำ

ไฟเตือนนี้จะดับลงเมื่อเครื่องยนต์ติด ระหว่างที่เครื่องยนต์ทำงานไฟเต ือนนี้ไม่ควรสว่างขึ้นมา ถ้าไฟเตือนนี้เริ่มกระพริบแสดงว่าแรงดันน้ำมันเครื่องลดลง และกลับสูงขึ้นเป็นช่วงจังหวะ ถ้าไฟเตือนนี้สว่างขณะเครื่องยนต์ทำงาน แสดงว่าแรงดันน้ำมันเครื่องต่ำ

จะทำให้เกิดความเสียหายรุนแรงกับชิ้นส่งนในไม่ช้า ดับเครื่องยนต์ทันทีที่คิดว่าปลอดภัย เปิดฝากระโปรงเพื่อตรวจระดับน้ำมันเครื่อง ถึงแม้ระดับน้ำมันเครื่องกับแรงดันน้ำมันเครื่องจะไม่มีส่วนสัมพันธ์กันโดยตรง แต่เครื่องยนต์ที่มีระดับน้ำมันเครื่องต่ำมาก อาจทำให้แรงดันน้ำมันเครื่องต่ำลง เมื่อรถเข้าโค้งหรือการขับขี่ในสภาวะผิดปกติอื่น

ถ้าจำเป็นให้เติมน้ำมันเครื่องจนระดับถึงขีดสูงสุดบนก้านวัด สตาร์ทเครื่องยนต์ แล้วสังเกตดูไฟเตือน ถ้าไฟเตือนหน้าปัดไม่ดับภายใน 10 วินาที ให้ดับเครื่องยนต์ แสดงว่ามีชิ้นส่วนที่ต้องได้รับการซ่อมแซมก่อนที่จะขับขี่รถต่อไป

8.ไฟเตือนระบบเครื่องยนต์ทำงานผิดปกติ

ไฟเตือนนี้จะสว่างเป็นเวลา 2-3 วินาที เมื่อบิดสวิตช์จุดระ เบิดไปตำแหน่ง ON ถ้าไฟเตือนนี้สว่างขึ้นในเวลาอื่น แสดงว่าระบบควบคุมไอเสีย และเครื่องยนต์อาจมีปัญหาแม้ท่านจะไม่รู้สึกถึงความผิดปกติของสมรรถนะของเครื่องยนต์เลยก็ตาม แต่อาจเป็นสาเหตุให้รถกินน้ำมันเชื้อเพลิงผิดปกติ การให้เครื่องยนต์ทำงานต่อไปจะทำให้เครื่องยนต์เสียหายรุนแรงได้

ถ้าไฟเตือนนี้สว่างขึ้นขณะขับรถ ให้นำรถเข้าจอดในที่ปลอดภัยแล้วดับเครื่องยนต์ สตาร์ทเครื่องยนต์ใหม่ และสังเกตดูสัญญาณไฟเตือนเครื่องยนต์ทำงานผิดปกติถ้ายังสว่างอยู่นำรถเข้าศูนย์บริการ เพื่อตรวจหาสาเหตุโดยเร็ว ระหว่างนั้นควรขับขี่ด้วยความนุ่นนวล หลีกเลี่ยงการเร่งเครื่องยนต์อย่างรุนแรง และไม่ใช้ความเร็วสูง

9.ไฟเตือนเบรกมือและระบบเบรก

ไฟเตือนนี้ทำหน้าที่ 2 ประการคือ เตือนให้ทราบว่า ท่านได้ดึงคันเบรกมือ หรือใช้เบรกมืออยู่ และไม่ปลดเบรกมือ การขับรถโดยลืมปลดเบรกมือจะทำให้เบรกและยางเกิดความเสียหายได้ ถ้าไฟเตือนระบบเบรกติดขึ้นในเวลาอื่น แสดงว่าระบบเบรกเกิดปัญหา

ซึ่งอาจเกิดจากน้ำมันเบรกที่กระปุกน้ำมันเบรกต่ำเกินไป หรือลองสังเกตจากแป้นเบรก ถ้าเบรกแล้วรู้สึกลึกผิดปกติ อาจเกิดจากระบบเบรกรั่ว หรือการสึกหรอของผ้าเบรก อย่างไรก็ตามถ้ารู้สึกว่าแป้นเบรกผิดปกติ ระบบต้องได้รับการแก้ไขทันที และเนื่องจากระบบเบรกถูกออกแบบเป็นสองวงจรเมื่อวงจรหนึ่งเกิดปัญหาระบบยังสามารถเบรกได้ด้วยสองล้อของวงจรที่เหลืออยู่ จะมีความรู้ว่าแป้นเบรกจมลึกมากกว่าปกติ และใช้ระยะทางในการเบรกยาวขึ้น และต้องใช้แรงกดบนแป้นเบรกมากขึ้นอีกด้วย

10.ไฟเตือนระดับน้ำมันเชื้อเพลิงต่ำ

ถ้าไฟเตือนนี้สว่างขึ้น แสดงว่าควรเติมน้ำมันเชื้อเพลิง เนื่องจากปริมาณน้ำมันเชื่อเพลิงที่เหลือในถังน้อยกว่า 7-8 ลิตร แล้วแต่ยี่ห้อรถ

แหล่งที่มาจาก:isthednews.com