เผยวิธีง่ายๆเพื่อป้องกันไม่ให้รถถูกไฟแนนซ์ยึด

สวัสดีจ้าเพื่อนๆ ชาวโซเชียลทุกคน วันนี้ก็กลับมาพบกันอีกครั้งเช่นเคยกับน้องฮิปโปแอดมินอัพยิ้มนะคะ สำหรับวันนี้ก็มีสาระดีๆมาฝากกันอีกเหมือนเดิม ซึ่งเป็นเรื่องดีสำหรับผู้ที่มีรถยนต์เป็นอย่างมาก เชื่อว่าหลายท่านคงกำลังจะเคยท้อกับปัญหากับการผ่อนรถไม่ไหว เนื่องจากมีภาระที่เพิ่มมากขึ้นหรืออาจจะมีเหตุผลที่มากกว่านั้นแต่บอกไม่ได้ ล่าสุดทางด้านทนายก็ออกมาให้คำแนะนำเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว ถือเป็นทางออกที่ดีเลยก็ว่าได้ ส่วนจะเป็นอย่างไรนั้น ไปชมเนื้อหากันเลย

ในกรณีที่ซื้อรถใหม่ป้ายแดงไปแล้วนั้น ผ่านไป 2-3 ปี ไม่สามารถผ่อนรถได้อีกต่อไป เพราะมีค่าใช้จ่ายจิปาถะเข้ามามากจนเกินจะผ่อนไหว จะทำอย่างไรได้บ้าง โดยนายนิติธร แก้วโต หรือ ทนายเจมส์ ทนายความชื่อดัง อาสามาให้คำแนะนำแนวทางแก้ปัญหาไว้ 5 วิธีหลักๆ ดังนี้

1. การคืนรถ
– กรณีการคืนรถโดยผิดสัญญา หรือ ค้างผ่อนชำระหลายงวด โดยจะต้องชำระค่าเสียหาย ค่าขาดประโยชน์ อื่นๆ ยิ่งค้างชำระหลายงวดจะยิ่งเสียค่าเสียหายจำนวนมาก
– กรณีการคืนรถโดยที่ไม่ผิดสัญญา หรือ ไม่ได้ค้างผ่อนชำระ ลักษณะนี้ ไม่ต้องจ่ายค่าเสียหายหรือค่าขาดประโยชน์ใดๆ เนื่องจากไม่ได้ค้างชำระ ไฟแนนซ์จะคิดเพียงค่าส่วนต่างเวลาที่ขายรถและขาดทุนเท่านั้น

2. การขายให้บุคคลอื่นโดยไม่ได้เปลี่ยนสัญญา ขายให้บุคคลอื่นโดยที่ยังไม่ได้เปลี่ยนสัญญา โดยผู้เช่าซื้อยังเป็นคนเดิมอยู่ ซึ่งกรณีนี้ค่อนข้างเสี่ยงอย่างมากๆ หากคนที่ซื้อรถไปแล้วเอาไปขายให้คนอื่นต่อ หรือรถหาย ผู้เช่าซื้อจะต้องรับผิดชอบเต็มๆ อย่างไรก็ตาม เป็นกรณีที่ไม่แนะนำ อย่างบางเคสเอารถไปจำนำในบ่อน หรือเอาไปขายให้เต็นท์ เจ้าของหรือผู้เช่าซื้อรถจะต้องปวดหัวไปตามหารถมาคืนไฟแนนซ์

3. การขายให้บุคคลอื่นโดยเปลี่ยนสัญญา … เป็นการขายเปลี่ยนสัญญา และนำเงินที่ได้ไปปิดจ่ายไฟแนนซ์ ซึ่งเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุด ปลอดภัยทั้งคนค้ำประกัน ปลอดภัยทั้งผู้เช่าซื้อด้วย แต่ต้องหาคนซื้อรถ หาคนเปลี่ยนสัญญาให้ได้ โดยอาจจะต้องยอมขายขาดทุน เพื่อแลกกับเวลาและค่าใช้จ่ายที่จะตามมาในอนาคต

4. รีไฟแนนซ์ใหม่หรือปรับปรุงโครงสร้างหนี้ใหม่ โดยขยายระยะเวลาการผ่อนออกไป และขอลดยอดการผ่อนในแต่ละเดือนลง แต่ผลที่อาจจะตามมาคือเสียดอกเบี้ย หรือผลประโยชน์ให้กับที่ไฟแนนซ์ มากขึ้น

5. เจรจาขอผ่อน เฉพาะดอกเบี้ยไปก่อน โดยยังคงต้นเงินไว้ เผื่อในอนาคต ผู้เช่าซื้ออาจจะมีเงินก้อนไปปิด ก็จะทำให้เจรจาได้ง่ายขึ้น

สำหรับในกรณีที่เจ้าของรถผ่อนไม่ไหว ไม่มีเงินโปะ และไม่ยอมเอารถไปคืนนั้น มี 2 กรณี คือ กรณีแรก ยังมีรถอยู่กับตัว อาจถูกไฟแนนซ์ฟ้องแพ่ง ในข้อหา ผิดสัญญาเช่าซื้อ โดยบังคับยึดรถ หรือตามยึดทรัพย์อย่างอื่น แต่ฟ้องคดีอาญาข้อหายักยอกทรัพย์ไม่ได้ .. … กรณีที่สอง ไม่มีรถอยู่กับตัวแล้ว โดยเอาไปขายต่อเต็นท์รถ หรืออื่นๆ ในระหว่างสัญญา เจ้าของรถอาจจะถูกดำเนินคดีอาญาในข้อหา ยักยอกทรัพย์ได้ เพราะกรรมสิทธิ์รถเป็นของไฟแนนซ์ ดังนั้น เจ้าของรถไม่มีสิทธิ์ที่จะเอาไปขายแน่นอน
เป็นอย่างไรกันบางคะเพื่อนๆ เป็นเพียงวิธีทางออกง่ายๆ แต่สำหรับใครที่หาทางออกได้ดีกว่านี้ก็อย่าลืมแสดงความคิดเห็นกันเข้ามาให้คนอื่นได้ทราบกันนะคะวันนี้ก็ขอลาไปก่อนจ้า