“ภาวนา” 4 อย่าง อานิสงค์แรงถึง “สวรรค์”
การ “ภาวนา” ถือว่าหนึ่งในหนทางการสร้างบุญอานิสงค์ที่ได้นั้นสูงกว่า ทานและศีลมากนักซึ่งจิตจะต้องบริสุทธิ์ที่สุด ผลบุญจึงเกิดจริงวิธีการเจริญภาวนานั้น มีหลากหลายแบบครูบาอาจารย์หลายๆ ท่านมีวิธีการเจริญภาวนาในรูปแบบเฉพาะของตนเอง
ทางเข้าอาจจะต่างกัน แต่ปลายทางล้วนมีที่เดียว คือ การทำจิตให้สงบ บริสุทธิ์ที่สุดก่อเกิดสติปัญญาและบุญกุศลขึ้น
หากคุณผู้อ่านยังไม่เข้าใจก็ควรลองหาโอกาสไปฝึกเจริญวิปัสสนากรรมฐานกับสำนักต่างๆ ที่มีครูบาอาจารย์ที่รู้จริง
อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนขอนำวิธีการที่ได้รับมาจากครูบาอาจารย์เพื่อนำมาถ่ายทอดถึงวิธีการฝึกที่เห็นผลได้จริงจากประสบการณ์ของผู้เขียนเองประกอบด้วยกัน 4 แบบดังนี้
แบบที่ 1 คิดใคร่ครวญถึงความตายเป็นอารมณ์ (มรณานุสติกรรมฐาน)“เหมาะสมสำหรับผู้ที่มีจิตยึดติดอยู่ในวัตถุต่างๆ” เมื่อเราตายแล้วทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวนขวายก็ไม่มีความหมาย ไม่ได้ตามติดไปกับตนเองเลย
แบบที่ 2 พิจารณาสิ่งที่ไม่สวยงามเป็นอารมณ์ (อสุภกรรมฐาน)เหมาะสำหรับผู้ที่มีจิตยึดมั่นในรูปที่สวยงามของร่างกาย ใช้การพิจารณาถึง “ซากศพ” ว่าไม่ว่าจะเป็นร่างกายของตนเองหรือคนอื่นก็ตาม
แบบที่ 3 พิจารณาร่างกายว่าเป็นแหล่งรวมของสิ่งสกปรก (กายคตานุสสติกรรมฐาน)“เหมาะสมสำหรับผู้ที่ยึดมั่นถือมั่นกับความสวยงามน่าหลงใหลของตนเอง”ทำให้จิตเกิดความหลงในรูปและให้ความสำคัญมากเกินไป
แบบที่ 4 พิจารณาร่างกายและสิ่งต่างๆ เป็นเพียงธาตุทั้ง 4 (ธาตุกรรมฐาน)เหมาะสำหรับทุกคน สามารถใช้พิจารณาแบบนี้ได้ทั้งสิ้นพิจารณาว่าทุกสิ่งเป็นเพียงธาตุทั้ง 4 ไม่มีอะไรเป็นของเราเลยแม้แต่อย่างเดียว
วิธีการเจริญภาวนาทั้งหลายนั้น ทำให้เรามีความเห็นที่เป็นจริงว่า สรรพสิ่งล้วน “ไม่เที่ยง ไม่ทน ไม่แท้” นั่นแหละคือการหนีพ้นกรรมคือความทุกข์ได้แท้จริงเมื่อบุญมากพอ การไปถึงสวรรค์จึงเป็นไปได้เช่นกัน!
เพจ :ฟรีความสุข ฟรีความรู้