Home »
Uncategories »
เผยสูตร “รักษาสิว” ด้วยวิธีธรรมชาติ สำหรับผิวแพ้ง่าย
เผยสูตร “รักษาสิว” ด้วยวิธีธรรมชาติ สำหรับผิวแพ้ง่าย
สิว เป็นสิ่งที่น่าเกลียด น่ากลัว สำหรับสาวๆทุกคน
วันนี้เราก็เลยมีเคล็ดลับดีๆมาแนะนำสำหรับสาวๆคนไหนที่มีปัญหาเกี่ยวกับสิว
ที่ชอบขึ้นตามใบหน้า และก็ไม่หายสักที ไปรักษาที่คลินิกกว่าจะหายก็นาน
แถมราคาก็แพงแสนแพง
บางคนโชคร้ายเสียเงินซื้อยารักษาแพงๆไม่พอแพ้ยาที่ซื้อมาทาซะงั้น
แต่ไม่ต้องกังวลไปจ้าเรามีสูดเด็ดสูตรรักษาสิว เป็นสูตรธรรมชาติ
สำหรับสาวๆผิวแพ้ง่ายโดยเฉพาะเลยจ้า รับรองสูตรนี้สิวหาย หน้าใส
แต่มันต้องใช้เวลาค่อยๆเป็นค่อยๆไป และ
ต้องมีวินัยในการปฏิบัติตัวไม่กินอาหารประเภทรสจัดเกินไปด้วยนะคะ
สำหรับใครที่สนใจสูตรดังกล่าวก็สามารดูสูตรตามข้างล่างได้เลยจ้า
1.แต้มสิวหยุดให้อยู่หมัดด้วย ยาสีฟัน
วิธีใช้ยาสีฟันรักษาสิว ให้สาวๆ เริ่มต้นล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น
จากนั้นก็บีบยาสีฟันที่เตรียมไว้ออกมาเล็กน้อยบนนิ้วชี้
จากนั้นป้ายยาสีฟันบางๆ ลงบนสิวโดยตรง
พยายามอย่าให้ยาสีฟันไปถูกบริเวณที่ไม่เป็นสิว หรือป้ายๆ ลงไปรัวๆ
เนื่องจากว่ายาสีฟันจะช่วยให้สิวแห้งเร็ว เร็วเกินไปจนผิดปกติ
อาจถึงขั้นทำให้ผิวหน้าของเราระคายเคืองได้ ป้ายยาสีฟันทิ้งไว้ประมาณ 2
ชั่วโมง หากเกิดอาการคันให้ทิ้งไว้แค่ 15 – 30 ก็เพียงพอ
แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น ทำเช่นเป็นประจำจนกว่าสิวจะหายแล้วหยุด
ไม่ควรใช้พร่ำเพื่อ
2.มาส์กหน้าด้วย ไข่ขาว สิวเสี้ยนหาย หน้าตึงใส
วิธีรักษาสิวด้วยไข่ขาวนี้สาวๆ
กระซิบบอกมาว่าเป็นวิธีการรักษาสิวแบบธรรมชาติที่เห็นผลได้อย่างดีมาก
เริ่มแรกด้วยการล้างหน้าให้สะอาด เช็ดหน้าให้แห้ง จากนั้นให้เตรียมไข่ขาว
ตอกไข่ และแยกเอาไข่แดงออก เสร็จแล้วให้ทาไข่ขาวลงบนใบหน้าบางๆ
แล้วปล่อยให้ทิ้งไว้ให้แห้งประมาณ 10 นาที ล้างออกด้วยน้ำอุ่น
ทำแบบนี้เป็นประจำสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ก็จะเห็นความแตกต่างว่าผิวของคุณสาวๆ
กระชับมากขึ้น
3.สมุนไพรที่มีอยู่ติดบ้าน อย่าง ไพล , ขมิ้น , ทานาคาฯ ช่วยได้
ไพล เป็นสมุนไพรอย่างแรกที่ใช้รักษาสิวได้ มีสรรพคุณช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย
ลดการเกิดสิวใหม่ได้อย่างดีเยี่ยม สิ่งที่ต้องเตรียมก็มี ไพลและดินสอพอง
เริ่มต้นให้นำเหง้าไพรมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ จากนั้นนำไปตำให้ละเอียด
ปิดท้ายด้วยการผสมดินสอพองลงไป แล้วคนให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน
ก็เป็นอันเสร็จ นำมาพอกหน้าให้ทั่ว ทิ้งไว้ประมาณ 15 – 20 นาที แล้วล้างออก
สิวอักเสบก็จะค่อยยุบตัวลง หน้าใส และนิ่มขึ้น ไม่เป็นอันตรายต่อสาวๆ
ที่มีผิวแพ้ง่าย เพราะเป็นวัตถุดิบจากธรรมชาติล้วนๆ
ขมิ้น เป็นสมุนไพรรักษาสิวอย่างที่สองที่สาวๆ
นิยมนำมาใช้กันมากที่สุด
จากปกติที่เคยเห็นว่าขมิ้นนั้นช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง
นวลเนียนเมื่อนำมาพอกที่ผิวกาย หรือผิวหน้า
แต่รู้หรือไม่ว่าขมิ้นนั้นก็ยังสามารถช่วยให้สิวยุบหายไปได้ด้วย
โดยสำหรับสูตรนี้แนะนำให้ใช้ขมิ้นสดเล็กน้อย ดินสอพอง และมะนาว 1 ลูก
เริ่มหั่นขมิ้นสดออกเป็นชิ้นเล็กๆ จากนั้นก็นำไปปั่นรวมกับดินสอพอง
และน้ำมะนาวจนเข้าไปที่ได้เป็นเนื้อครีมเหนียวๆ หนืดๆ
เมื่อเสร็จแล้วก็นำมาพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 15 – 20 นาที แล้วล้างออก
สิวและจุดด่างดำก็จะค่อยๆ ยุบและเลือนหายไป
อีกทั้งยังเป็นการบำรุงผิวของเราไปด้วย
ส่วนใครที่ต้องการเพียงแค่แต้มไว้ยังจุดที่เป็นสิวก็สามารถทำได้
แต้มแล้วทิ้งไว้ทั้งคืนค่อยล้างออก ทำเป็นประจำ 3 – 4 สัปดาห์
ใบหน้าของสาวๆ ก็จะกลับมาสวยใสได้อีกครั้งหนึ่ง
ทานาคา เป็นสมุนไพรรักษาสิวอีกหนึ่งตัวที่สาวๆ
บอกกันมาว่าดีงาม
ซึ่งทานาคานั้นเป็นผงที่ได้จากเปลือกไม้ที่มีต้นกำเนิดมาจากพม่า
โดยเฉพาะสาวๆ พม่านั้นนิยมเอามาทาหน้าเพื่อเป็นการบำรุงผิว ป้องกันแสงแดด
และป้องกันการเกิดสิวได้อย่างดีอีกด้วย
มีสรรพคุณที่ช่วยลดการอักเสบของผิวหนัง ผดผื่นคัน ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย
ลดความมันบนใบหน้าที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิว สำหรับสูตรนี้ก็ทำได้ไม่ยาก
เพียงเตรียม ผงทานาคา น้ำผึ้ง และน้ำสะอาด ในปริมาณที่เท่าๆ กัน
ผสมให้เข้ากัน จากนั้นนำมาพอกให้ทั่วหน้า
อาจจะเน้นไปที่บริเวณที่เป็นสิวเยอะหน่อย ทิ้งไว้ประมาณ 15 – 20
แล้วล้างออก นอกจากจะเหมาะกับผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายแล้ว
ผลลัพธ์ที่ได้จะต้องทำให้สาวๆ ตกใจกับความเปลี่ยนแปลงแน่นอน
4.น้ำมะนาว ช่วยบรรเทาให้สิวหาย
ให้ใช้มะนาวสด งดน้ำมะนาวขวด
เพราะมีเบอร์เซนต์ของการเป็นมะนาวปลอมอยู่สูงมาก
จากนั้นก็ให้บีบน้ำมะนาวสดใส่ถ้วยเล็กๆ ที่เตรียมไว้
นำมาทายังจุดที่เป็นสิว ทิ้งไว้ราวๆ 1 ชั่วโมง
แต่บอกไว้ก่อนว่าถ้าเป็นสิวแผลเปิดก็อาจจะแสบอยู่หน่อยๆ
เพื่อความสวยต้องอดทน ทำเช่นนี้เป็นประจำต่อเนื่อง 1 – 2 สัปดาห์
ก็จะเห็นว่าสิวที่เป็นจะค่อยๆ จางลงจนเห็นได้ชัด
เคล็ดลับหน้าใส ไร้สิว
สำหรับสาวๆคนไหนที่รักษาสิวหายแล้วก็ควรปฏิบัติตัวใหม่ด้วยนะคะเพราะสิวมันเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อดังนั้นวันนี้เรามีเคล็ดลับดีๆมาแนะนำเพื่อป้องกันเบื้องต้นเราไปดูกันเลยจ้า
1.ไม่นอนดึกและอย่าอดนอน
2.หลีกเลี่ยงฝุ่นควันและล้างหน้าให้สะอาด
3.ดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว
4.หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารมันๆ หรือของทอด
5.รักษาความสะอาดของเครื่องนอน