Home »
Uncategories »
พี่สาวทำงานเลี้ยงน้องมา 18 ปี พอน้องกลายเป็นเศรษฐี กลับไม่แม้แต่จะเชิญพี่มางานแต่ง ผู้ใหญ่บ้านทนไม่ไหวจึงบอกความจริงทั้งหมดออกมา
พี่สาวทำงานเลี้ยงน้องมา 18 ปี พอน้องกลายเป็นเศรษฐี กลับไม่แม้แต่จะเชิญพี่มางานแต่ง ผู้ใหญ่บ้านทนไม่ไหวจึงบอกความจริงทั้งหมดออกมา
วันนี้เราขอนำเสนออีกหนึ่งเรื่องราว ที่ได้เผยแพร่จากต่างประเทศ โดยเรื่องมีอยู่ว่า…
ในหมู่บ้านเล็กๆ
ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน ในหมู่บ้านมี 20 กว่าหลังคาเรือนเท่านั้น
ประชนชนในหมู่บ้านส่วนใหญ่ไม่ร่ำรวย แต่ที่ลำบากที่สุดก็คงจะเป็นสองพี่น้อง
อาเฉียงและอาซิ่ว พ่อแม่ของพวกเขาเสียไปตั้งแต่เด็กๆ
ยิ่งอาเฉียงยิ่งไม่เคยเห็นหน้าพ่อแม่ เขาเติบโตมาด้วยการเลี้ยงดูของพี่สาว
แม้ชีวิตจะแสนลำบาก
แต่อาซิ่วก็พยายามมอบสิ่งดีๆ ให้น้องชายเสมอ
อาซิ่วออกไปทำงานต่างเมืองพร้อมคนในหมู่บ้าน
ทำงานที่ผู้ชายทำเท่านั้นถึงจะทำได้
เพื่อเก็บเงินส่งเสียให้น้องชายเรียนหนังสือจะได้มีชีวิตที่ดีขึ้น
อาซิ่วเลี้ยงอาเฉียงมา
18 ปี จนเขาจบ ม.ปลาย ผลการเรียนของอาเฉียงกลางๆ
เขาไม่ได้บอกอะไรพี่สาวสักคำก่อนจะออกไปทำงาน
ทำให้ตอนที่อาซิ่วรู้ก็เลยโกรธมาก สั่งให้อาเฉียงกลับไปเรียนหนังสือ
อาเฉียงดื้อรั้น
แล้วก็หันมาใส่พี่สาว : “พี่จะให้ผมกลับไปเรียนทำไม
ไปให้เขาหัวเราะเยาะหรือไง พี่ส่งผมเรียนได้
แต่ผมไม่กล้าออกไปเที่ยวเล่นกับเพื่อน เพราะผมไม่มีเงิน
พี่ไม่เข้าใจความรู้สึกผม ไม่ต้องพูดแล้ว ผมจะไม่กลับไปเรียน”
พูดจบก็วางสาย ปล่อยให้พี่สาวยืนอึ้ง
เธอไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าน้องชายคิดแบบนี้
5 ปีผ่านไป
น้องชายกลับไปที่หมู่บ้าน
นี่เป็นครั้งแรกที่เขากลับบ้านตั้งแต่จากไปครั้งนั้น
แต่การกลับมาครั้งนี้เขาขับรถหรู แถมยังมีบอดี้การ์ดมาด้วย
อาเฉียงออกไปดิ้นรนทำงานใช้ชีวิต
ที่จริงต่อให้เขาพยายามแค่ไหนก็คงไม่ได้ดีขนาดนี้
แต่เขาโชคดีไปช่วยชีวิตเถ้าแก่คนนึงไว้ เถ้าแก่คนนั้นไม่มีลูก
ก็เลยรับเขาเป็นลูกบุญธรรม
แล้วพ่อบุญธรรมของเขาก็เสียชีวิตไปเมื่อปีที่แล้ว
โรงงานจึงตกเป็นของอาเฉียง
อาเฉียงซึ่งเป็นทายาทเพียงคนเดียวจึงกลายเป็นเศรษฐี
นี่เป็นเรื่องไม่น่าเชื่อสำหรับคนในหมู่บ้าน
อาเฉียงให้บอดี้การ์ดเอาของขวัญไปมอบให้แต่ละบ้าน
โดยเฉพาะบรรดาเพื่อนร่วมชั้น
ที่เขาเอาของขวัญมาให้ก็เพื่อทำให้ทุกคนรู้ว่าเขาไม่ได้จนแบบเมื่อก่อนแล้ว
ผู้ใหญ่บ้านบอกเขาว่า
: “ตอนนี้เอ็งรวยแล้ว คนที่เอ็งควรจะไปขอบคุณที่สุดก็คืออาซิ่ว
เอ็งรู้มั้ย อาซิ่ว…..” ยังไม่ทันพูดจบ ก็โดนอาซิ่วแทรกขึ้นมาพอดี :
“ผู้ใหญ่!”
อาเฉียงกลับว่า : “ขอบคุณพี่ทำไม นอกจากจะทำให้ผมโดนหัวเราะเยาะแล้ว พี่ก็ไม่ได้ทำอะไรอีกเลย”
ผู้ใหญ่บ้าน : “เอ็งนี่…..” แต่พอหันไปเห็นอาซิ่ว ก็พูดอะไรไม่ออก
อาเฉียงปลูกบ้านสวยใหญ่โตหลังใหม่ทันที
คนในหมู่บ้านต่างอิจฉาเขา หลังปลูกเสร็จ อาเฉียงก็บอกอาซิ่วว่า :
“บ้านเก่าๆ ที่พ่อแม่ทิ้งไว้ ผมยกให้พี่ เงินสองแสนห้านี่ผมคืนให้”
พูดจบเขาก็จากไป เหลือแค่อาซิ่วยืนกำเงิน 2.5 แสนยืนอึ้งอยู่ตรงนั้น
ดูแล้วเหมือนอาซิ่วและอาเฉียงเป็นคนแปลกหน้าสำหรับกันและกัน
อาเฉียงไม่สนใจอาซิ่ว อาซิ่วก็ไม่กล้าบอกน้องชาย
คนในหมู่บ้านเห็นก็ไม่กล้าพูดอะไร
ใครจะไปรู้ว่าตอนนี้อาเฉียงจะกลายเป็นเถ้าแก่ใหญ่
อาเฉียงไม่สามารถอาศัยอยู่ที่นี่ได้ตลอดไป
แต่พอเขากลับมาอีกครั้ง เขาก็พาเจ้าสาวกลับมาแต่งงานด้วย
แม้ว่าจะจัดงานมาแล้วครั้งนึง แต่เขาก็อยากจะกลับมาจัดที่หมู่บ้านอีกครั้ง
และในงานแต่งงานครั้งนี้ คนเดียวในหมู่บ้านที่เขาไม่เชิญก็คือพี่สาวของเขา
ในวันแต่งงาน คนในหมู่บ้านไม่มีใครเห็นอาซิ่ว ผู้ใหญ่บ้านก็เลยไปถามอาเฉียง : “อาซิ่วล่ะ ทำไมไม่มางาน”
“ผมไม่ได้เชิญเค้า”
“แต่เค้าเป็นพี่สาวเอ็งนะ”
“อะไรนะคะ? คุณมีพี่สาวด้วยหรอ?” ภรรยาของเขาถาม : “อาเฉียง ไหนคุณว่าคุณเป็นลูกกำพร้า เหลือแค่ตัวคนเดียว แล้วพี่สาวมาจากไหน?”
“ไม่มี ผมไม่มีพี่สาว”
“เอ็งนี้มันใจดำ
วันนี้ข้าต้องทำให้เอ็งมีสติเพื่ออาซิ่ว”
ผู้ใหญ่บ้านยกไม้เท้าขึ้นกะจะตีเขา แต่ตอนนั้นเองอาซิ่วกลับตะโกนเข้ามา :
“ผู้ใหญ่ อย่า!”
“อาซิ่วเอ๊ย เอ็งดู น้องเอ็งนี้ เลี้ยงเสียข้าวสุก
ก็บอกตั้งแต่แรกแล้วว่าไม่ต้องเลี้ยง แต่เรื่องนี้ข้าทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว
ข้าต้องพูดให้ไอ้น้องไร้สติของเอ็งได้รู้”
อาซิ่วพยายามห้ามแต่ก็ห้ามไม่อยู่
ผู้ใหญ่บอกอาเฉียงว่า :
“เอ็งพูดก็ไม่ผิดหรอก จริงๆ แล้วเอ็งเป็นเด็กกำพร้าที่ไม่มีญาติที่ไหน
อาซิ่วเขาไม่ใช่พี่สาวแท้ๆ ของเอ็งหรอก
ตอนนั้นคนในหมู่บ้านไปเจอห่อผ้าที่ข้างในมีเอ็งนอนอยู่
ก็รู้ว่าเอ็งเป็นเด็กที่โดนเอามาทิ้ง แต่คนในหมู่บ้านล้วนฐานะย่ำแย่
ไม่มีใครกล้ารับเอ็งมาเลี้ยง
แต่อาซิ่วเด็กกำพร้าอีกคนที่อายุ 12 ปี
กลับอุ้มเอ็งขึ้นมา เอ็งก็ร้องไห้ อาซิ่วก็เลยอุ้มเอ็งกลับบ้าน
ส่วนชื่อเอ็งก็ให้ข้านี่แหล่ะตั้งให้ อาซิ่วว่า เอ็งเป็นเด็กกำพร้า
เค้าก็เป็นเด็กกำพร้า ถ้าสองคนมาอยู่ด้วยกันก็จะไม่ใช่เด็กกำพร้าแล้ว
แล้วพี่เอ็งก็เลี้ยงเอ็งมาจนโต
เอ็งนึกว่าที่เอ็งไปทำงานแล้วได้งานง่ายๆ
มันเป็นเพราะตัวเอ็งหรอ นั่นก็พี่สาวเอ็งไปขอร้องเขาทั้งนั้น
แถมเอาเงินไปให้เขา เพื่อให้เขาเอามาให้เป็นเงินเดือนเอ็ง
แต่ตอนนี้เอ็งกลับกลายเป็นไอ้อกตัญญู เอ็งยังเป็นคนอยู่ไหม!”
อาซิ่วยืนร้องไห้น้ำตานองอยู่ข้างๆ ผู้ใหญ่พูดเรื่องจริงที่เกิดขึ้นทั้งหมดออกมา อาเฉียงยืนอึ้งโง่อยู่ตรงนั้น ที่แท้ ที่แท้…
แหล่งที่มา: LIEKR