ตุ่มน้ำใสๆ บนนิ้วมือ ฝ่ามือ ฝ่าเท้า สัญญาณเตือนโรคร้ายที่คุณลืมสังเกต!

Dyshidrotic Eczema เป็นหนึ่งภาวะการแพ้ของผิวหนัง อาการที่เป็นคือพบเป็นผื่นที่ ฝ่ามือ ฝ่าเท้้า หรือด้านข้างของนิ้ว คำว่า dyshidrotic มีความหมายว่า เหงื่อที่ไม่ดี

ซึ่งเคยเป็นความเชื่อว่าเป็นสาเหตุของโรค เริ่มต้นของโรคนี้ จะเริ่มเป็นตุ่มน้ำใส ค่อนข้างหนาและแข็ง มีอาการคัน โดยเฉพาะในเวลากลางคืนจะคันมากขึ้น อาการจะแย่ลงเมื่อเจออากาศร้อน

ตุ่มน้ำเล็ก ๆ ที่ขึ้นนี้จะมีอาการคันมาก และมักจะเป็นด้านข้าง ๆ ของนิ้วมือและเท้า ตอนแรกจะเห็นเป็นจุดเล็ก ๆ ขึ้นต่อมาก็จะรวมกันหลาย ๆ เม็ด กลายเป็นผื่นขึ้น บ่อยครั้งที่ตุ่มน้ำจะแตก และมีน้ำเหลืองไหลออกมา โอกาสที่จะกลับมาเป็นอีกพบได้ค่อนข้างบ่อย

อาการผื่นที่เรียกว่า eczema เป็นรูปแบบหนึ่งของผิวหนังอักเสบ ของชั้นบนของผิวหนัง และมักจะเป็นผื่นที่มีอาการเรื้อรัง มีการแดง บวม คัน และผิวหนังแห้ง บางครั้งจะมีสะเก็ด แตก หรือมีน้ำเหลืองไหลออกมาด้วย

รูปแบบที่พบบ่อยที่สุดของ Eczema เรียกว่า atopic eczema ซึ่งอาจจะมีสาเหตุจากพันธุ อีกแบบคือ contact dermatitis ซึ่งเกิดจากการระคายเคืองจากสารเคมีหรือสารอื่น โรคผิวหนังเหล่่านี้จะไม่ติดต่อกัน และสามารถรักษาใ้ห้หายขาดได้

บ่อยครั้งที่ไม่สามารถหาสาเหตุที่ชัดเจนที่ทำให้เกิดผื่นเหล่านี้ แต่ที่พบได้บ่อยก็คือมีโรคผิวหนังอักเสบในครอบครัว ก่อนที่จะมีอาการจะได้ประวัติว่ามีการสัมผัสกับสารเคมีบางชนิด เช่น นิเกิล โคบอล หรือโลหะบางอย่าง

ปัจจัยอย่างอย่างที่มีส่วนเกี่ยวข้องบ่อย ๆ ก็คือเรื่องของความเครียด เรื่องสิ่งแวดล้อมเช่นอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงมาก ๆ การสูบ และการดื่มกาแฟ ก็เป็นปัจจัยที่ทำให้กระตุ้นให้มีอาการได้ หลายคนเริ่มมีอาการหลังจากการติดเชื้อรา ที่ผิวหนังหรือที่เล็บ

ปัจจัยเสี่ยงทำให้มีอาการได้แก่

1.ความเครียด

2.ประวัติในครอบครัว

3.การทำงานบางอย่างที่ต้องสัมผัสสารเคมี

4.การสัมผัสกับโลหะบางชนิด

5.การทำงานเกี่ยวกับจิวเวอรี่

6.การได้รับยาที่กดภูมิคุ้มกันของร่างกาย

อาการ

Dyshidrotic Eczema ที่พบได้บ่อย ๆ ก็คือมีตุ่มน้ำใสขึ้นที่มือ หรือเท้า บางครั้งมีอาการปวดแสบ หรือคัน ก่อนที่ผื่นจะขึ้นคนที่เป็นบ่อย ๆ จะมีอาการเดือนละครั้ง บางคนจะมีอาจจะมีอาการปีละครั้ง

ลักษณะผื่นที่พบคือ เป็นตุ่มน้ำใส ขนาดประมาณ 1 มิลลิเมตรหรือเล็กกว่า ที่ปลายนิ้ว ด้านข้างของนิ้ว ฝ่ามือ ฝ่าเท้า ตุ่มน้ำนี้มักจะหนา ๆ และอยู่ลึก ๆ ที่ผิวจะแดง ๆ หรือบวมขึ้นเล็กน้อย บางครั้งตุ่มน้ำเล็ก ๆ เหล่านี้จะมารวมกันเป็นตุ่มที่ใหญ่ขึ้น

อาการคัน หรือเจ็บ จะแย่ลงเมื่อถูกน้ำหรือถูกสบุ่หรือสารเคมีอื่น ๆ หากเกาผื่นแรง ๆ ตุ่มน้ำจะแตกออก และมีของเหลวไหลออกมา ทำให้ผิวหนังหนา ๆ แข็ง ๆ และแตกง่าย และจะใช้เวลาเป็นสัปดาห์หรือเป็นเดือนกว่าจะหาย

การรักษา

-การใช้ ครีม steroid ยาที่ใช้จะเป็นครีมหรือขี้ผึ้งค่อนข้างแรง (High-potency) เพื่อช่วยให้หายเริ่มขึ้น และลดตุ่มน้ำใสที่เกิดขึ้น และลดการเกิดรอยแตกหลังจากที่ตุ่มน้ำแตกไปแล้ว แต่ถ้าคนที่เป็นมากอาจจะต้องใช้ชนิดรับประทาน

-การประคบด้วยน้ำเย็น หรือความเย็น จะช่วยลดอาการคันได้ และยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของครีม steroid ทั้งยังลดตุ่มน้าได้ด้วย

-การใช้ยาแก้แพ้แก้คัน เช่น zyrtec atarac ในคนที่มีอาการคันมาก

-การฉายแสง UV ที่เรียกว่า psoralen plus ultraviolet A (PUVA)

-การใช้ครีมที่กดภูมิต้านทาน Immune-suppressing ointments เช่นยา tacrolimus (Protopic) and pimecrolimus (Elidel) อาจจะเป็นอีกทางเลือกหากวิธีข้างต้นไม่ได้ผล แต่อาจจะมีผลข้างเคียงที่ทำให้ติดเชื้อที่ผิวหนังได้

-การฉีด Botulinum toxin injections แพทย์บางท่านอาจจะแนะนำใ้หฉีด Botulinum toxin ในรายที่มีอาการรุนแรง แต่เป็นวิธีการรักษาที่อาจจะยังไม่แพร่หลาย และยังไม่ได้การยอมรับเป็นที่ถกเถียงกันอยู่

เราสามารถป้องกัน Dyshidrotic eczema ได้โดย

-หลีกเลี่ยงเหงื่อที่มากเกินไป

-อย่าล้างมือด้วยสบู่บ่อยเกินไป ทาโลชั่นหลังล้างมือทุกครั้ง

-ระวังอย่าให้มือและเท้าแห้งเกินไป

-หลีกเลี่ยงการสัมผัสสารเคมี โลหะ หรือ จิวเวลรี่

-ไม่ควรล้างมือด้วยสบู่บ่อยเกินไป

-อาบน้ำด้วยสบู่อ่อน ๆ และล้างสบู่ออกให้สะอาด

-พยายามให้เท้าไม่อับชื้นเกินไป

-ถ้าหากจำเป็นต้องสัมผัสกับสารเคมีอาจจะใส่ถุงมือ

-พยายามระวังเรื่องความเครียด

แหล่งที่มา : รักษ์สุขภาพ

เรียบเรียงโดย : item2day.com