เหตุพลิกล็อก ตร.บุกตะครุบ ‘ทนายสุกิจ กลางสน. ร่างทรง4G อาศัยช่วงชุลมุนหลบหนี ขณะแจ้งความ

เหตุพลิกล็อก ตร.บุกตะครุบ ‘ทนายสุกิจ กลางสน. ร่างทรง4G อาศัยช่วงชุลมุนหลบหนี ขณะแจ้งความ


19 มิ.ย. เมื่อเวลาประมาณ 13.15 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตำรวจกองปราบฯ เข้าจับกุม นายสุกิจ พูนศรีเกษม ทนายความ ของ น.ส.นางสาวแสงสุริยะเทพ พระมหาสุริยะ หรือ ร่างทรง 4G ขณะที่พาร่างทรงคนดังเข้าแจ้งความที่ สน.พหลโยธิน เพื่อให้ดำเนินคดี เอาผิดกับนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ฐานทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง

แต่ยังไม่ทันได้แจ้งความ เกิดพลิกล็อก! ตร.กองปราบฯ กลับมาเข้าจับกุมนายสุกิจ เสียก่อน ขณะที่ร่างทรง 4G อาศัยช่วงชุลมุนหลบหนีไปได้…นายสุกิจ พยายามขัดขืนไม่ให้เข้าจับกุม ตำรวจกองปราบจึงจับใส่กุญแจมือ จังหวะนี้ร่างทรง 4G หายวาร์ปไปในช่วงชุลมุน สรุปวันนี้ไม่ได้แจ้งความเอาผิดนายอัจฉริยะ เพราะโดนตำรวจจับเสียก่อน

และเมื่อ เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. เอาผิด ร่างทรง4G แอดมินเพจดังร้องกองปราบฯ แฉอีกพฤติกรรมแก๊งลวงโลก หลอกทำบุญสะเดาเคราะห์ สูญกว่า 6 แสนบาท ขณะที่อีกรายถูกหลอกให้รักษาโรคด้วยวิธีการที่ผิด จนเสียชีวิต ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พร้อมด้วยนายธนัท ชัยวชิระศักดิ์ หรือ “นัทแฟนพันธ์แท้จตุคาม”

และประธานชมรมเรารักพระพุทธศาสนา และ“บี ฟักโกสต์” แอดมินเพจ FuckGhost ฟักโกสต์ : สมาคมต่อต้านสิ่งงมงาย ร่างทรง4G / เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.สมเจตน์ แก้วสีดำ รอง สว.สอบสวน กก.1 บก.ป. เพื่อแจ้งความเอาผิดกับน.ส.แสงสุริยะเทพ พระมหาสุริยา อายุ 49 ปี หรือ ร่างทรงไฮเทค 4.0 เจ้าของสำนักร่างทรงแห่งหนึ่งย่านรัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี

นายอัจฉริยะ กล่าวว่า การมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบฯ วันนี้ เพื่อแจ้งความเอาผิด น.ส.แสงสุริยะเทพ ที่ถ่ายทอดสดผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ อ้างเป็นร่างทรงของอดีตพระมหากษัตริย์ไทยหลายพระองค์ ซึ่งถือเป็นพฤติกรรมไม่เหมาะสม “การกระทำดังกล่าวยังส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของประชาชนชาวไทยทั่วประเทศ ซึ่งในส่วนนี้มองว่าการกระทำดังกล่าว

ถือว่าเข้าข่ายความผิดในข้อหาเผยแพร่ข้อมูลเป็นเท็จ ผ่านระบบคอมพิวเตอร์ และยังเป็นการดูหมิ่นอดีตพระมหากษัตริย์ซึ่งสวรรคตไปแล้ว” นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ขณะที่นายธนัท กล่าวว่า ที่ผ่านมาพยายามรวบรวมข้อมูลหลักฐานการกระทำผิดต่างๆ ของบรรดาผู้อ้างตนว่าเป็นร่างทรงในลักษณะนี้ ซึ่งพบมีเป็นจำนวนมาก โดยพฤติกรรมกลุ่มคนพวกนี้ มักอ้างตนว่าเป็นร่างทรงต่างๆนานา

ก่อนหลอกลวงเอาทรัพย์สินจากกลุ่มคนที่หลงเชื่อ โดยอ้างว่าเป็นการทำบุญสะเดาะเคราะห์ รักษาโรค  ขณะนี้ตนได้รับข้อมูลหลักฐานจากผู้เสียหาย2 เคส รายแรก ถูกหลอกให้เอาเงินมาทำบุญสะเดาเคราะห์ จนสูญเสียทรัพย์สินกว่า 6 แสนบาท ขณะที่อีกรายถูกหลอกให้รักษาโรคด้วยวิธีการที่ผิดวิธี จนทำให้เสียชีวิต ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดต่อเพื่อพามาเข้าแจ้งความ

ด้าน“บี ฟักโกสต์” กล่าวว่า เพจสมาคมต่อต้านสิ่งงมงาย ได้รับการร้องเรียนจากสมาชิกเพจว่าถูกหลอกลวงในลักษณะดังกล่าวหลายราย “ส่วนใหญ่ไม่กล้าเปิดเผยตัว เนื่องจากเกรงว่าจะได้รับความอับอาย แต่ก็มีบางรายที่ยอมให้ข้อมูลรายละเอียด ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อเอาผิดกับพวกร่างทรงลวงโลกเหล่านี้ ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการปราบปรามไม่ให้กลุ่มร่างทรงเหล่านี้

ไปทำการหลอกลวงผู้อื่นต่อไป” บี ฟักโกสต์ กล่าว  ร่างทรง 4.0 รับกังวลถูกก๊วน ‘อัจฉริยะ’ แจ้งความ ยันไม่เคยหลอกให้คนงมงาย หรือชวนบริจาคเงิน ปรึกษา ‘สุกิจ’ สู้คดีความ ด้าน ‘พ่อปู่มหามุนีฯ’ พร้อมเข้าสู่กระบวนการตาม ก.ม. ยันไม่ใช่ร่างทรง… จากกรณี นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พร้อมด้วย นายธนัท ชัยวชิระศักดิ์

แฟนพันธุ์แท้จตุคามรามเทพ และบีฟักโกสต์ แอดมินเพจเฟซบุ๊ก สมาคมต่อต้านสิ่งงมงาย เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษร่างทรงและตำหนักต่างๆ ที่แอบอ้างเบื้องสูง รวมไปถึงล่อลวงประชาชน ต่อผู้บังคับการปราบปราม และให้ดำเนินคดีร่างทรง 4G ผิด พ.ร.บ.คอมพ์ แอบอ้างเบื้องสูง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น ความคืบหน้า นางสาวแสงสุริยะเทพ พระมหาสุริยะ หรือ ร่างทรง 4.0

เปิดเผยกับทีมข่าวไทยรัฐทีวีว่า ไม่เคยคิดร้ายหรือโกหกให้ผู้คนงมงายในองค์จตุคามรามเทพ หรือเทพองค์อื่นๆ เพราะที่ผ่านมาเธอก็ถูกปลูกฝังให้เคารพบูชาในองค์เทพมาโดยตลอด อีกทั้งผู้ที่ติดตามในไลฟ์เฟซบุ๊ก ก็จะเห็นว่าร่างทรง 4.0 ไม่เคยเชิญชวนให้ใครมาบริจาคเงิน หรือเรี่ยไรเงินเลยสักครั้งเดียว พร้อมยอมรับว่า รู้สึกกังวลกับการถูกนายอัจฉริยะแจ้งความ

เพราะเธอไม่มีความรู้เรื่องกฎหมาย เลยจะปรึกษา ดร.สุกิจ พูนศรีเกษม โดยในช่วงบ่ายของวันนี้ ดร.สุกิจ จะพาไปพบตำรวจกองปราบปรามปรึกษาแนวทางการดำเนินคดี หากกองปราบปรามไม่รับเรื่องก็จะไปแจ้งความที่ สน.พหลโยธิน เพื่อเอาผิดกับนายอัจฉริยะ ฐานทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ขณะที่ พ่อปู่มหามุนี อริยดาบส เผยถึงกรณีดังกล่าวว่า ตนไม่ใช่ร่างทรง

ตนเป็นสำนักสักยันต์ เราเป็นครูบาอาจารย์ที่ร่ำเรียนวิชามาเท่านั้น ซึ่งหากเจ้าหน้าที่ต้องการความชัดเจน ก็ต้องปล่อยเจ้าหน้าที่ให้ดำเนินการได้เต็มที่ และปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ปู่ไม่ยอมให้ใครมาทำลายความเป็นมนุษย์ด้วยกัน นายอัจฉริยะ เปิดเผยว่า วันนี้ได้นำหลักฐานเป็นภาพวิดีโอ และหลักฐานต่างๆ มอบให้ตำรวจกองปราบปราม

เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับร่างทรง 4G รวมถึงร่างทรงอื่นๆ ซึ่งในส่วนของร่างทรง 4G มีการร้องเอาผิด พระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ เกี่ยวกับการนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ และแอบอ้างเบื้องสูง ซึ่งหากปล่อยไว้จะเกิดความเสียหายต่อสังคม อย่างไรก็ตาม อยากฝากผ่านสื่อมวลชนว่า หากประชาชนที่ได้รับความเสียหายจากร่างทรง ให้ติดต่อมา เพื่อจะได้รวบรวมหลักฐานไปแจ้งความดำเนินคดี

ซึ่งขณะนี้ มีผู้เสียหายจากร่างทรงอื่นๆ ติดต่อมาบ้างแล้ว ขณะที่ นายธนัท กล่าวว่า ที่ผ่านมาพยายามรวบรวมข้อมูลหลักฐานการกระทำผิดต่างๆของบรรดาผู้ที่อ้างตนว่าเป็นร่างทรงในลักษณะนี้ พบว่ามีเป็นจำนวนมาก โดยพฤติกรรมของกลุ่มคนพวกนี้มักจะอ้างว่า เป็นร่างทรงต่างๆ ก่อนจะหลอกลวงเอาทรัพย์สินจากกลุ่มคนที่หลงเชื่อ โดยอ้างว่าเป็นการทำบุญสะเดาะเคราะห์

รักษาโรค ขณะนี้ตนได้รับข้อมูลหลักฐานจากผู้เสียหายอยู่ 2 ราย รายแรกนั้นถูกหลอกให้เอาเงินมาทำบุญสะเดาเคราะห์ จนสูญเสียทรัพย์สินกว่า 6 แสนบาท ขณะที่อีกรายถูกหลอกให้รักษาโรคด้วยวิธีการที่ผิดวิธี จนทำให้เสียชีวิต ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดต่อเพื่อพามาเข้าแจ้งความ ด้าน บีฟักโกสต์ ระบุ ตอนนี้มีผู้เสียหายจำนวนหนึ่ง ส่วนใหญ่ถูกหลอกให้รักษาโรค

อ้างว่าโรคที่เป็นไม่สามารถรักษาทางการแพทย์ได้ พร้อมอยากให้ผู้เสียหายที่ถูกหลอก ออกมาแสดงตัว ยืนยันว่า หลักฐานที่เพจมีเป็นข้อมูลจริง นอกจากนี้ หลังจากแจ้งความที่กองปราบปรามแล้ว ช่วงบ่ายวันนี้จะไปร้องเรียนต่ออธิบดีกรมการศาสนา เพื่อช่วยตรวจสอบด้วย