ราวกับได้ถังใหม่ วิธีล้างถังเครื่องซักผ้า ขจัดคราบสกปรกให้หลุดออกไป พร้อมสูตรการซักผ้าเก่าให้กลับมาเป็นผ้าใหม่

วิธีล้างถังเครื่องซักผ้าง่ายๆ

โดยนำ “ผงฟู” หรือ “เบกกิ้งโซดา” มา 1 ถ้วยตวง แล้วใส่น้ำให้เต็มถัง (หรือเลือกระดับน้ำสูงสุด) ปั่นสัก 2-3 นาทีเพื่อให้ “ผงฟู” หรือ “เบกกิ้งโซดา” ละลาย แล้วหยุดเครื่องไว้อย่างน้อย 3 ชั่วโมง (ทิ้งไว้หนึ่งคืนได้ก็ดี กรณีที่ไม่ได้ล้างบ่อย)

เสร็จแล้วก็ให้เครื่องทำงานปกติ (ซัก ล้าง ปั่นแห้ง) และเพื่อให้คราบต่างๆที่ “ผงฟู” หรือ “เบกกิ้งโซดา” ได้ทำปฏิกิริยาไว้หมดไปจากตัวถัง แล้วก็ให้เดินเครื่อง (ซักโดยที่ไม่มีผ้า) อีกครั้งหรือสองครั้ง ก็เป็นอันเสร็จ

แต่สำหรับบ้านที่ไม่ได้ล้างถังซักผ้ามานานมาก และคิดว่ามีรา (โดยเฉพาะถ้าเห็นราสีดำๆขึ้นตามขอบยาง) ก็ให้ใช้ “น้ำส้มสายชู” 2-3 ถ้วยตวงผสมลงในน้ำในถังซักผ้า (หรือเลือกระดับน้ำสูงสุด) ปั่นสัก 3 นาทีเพื่อให้น้ำส้มสายชูละลาย

แล้วหยุดเครื่องไว้อย่างน้อย 1-2 ชั่วโมง เสร็จแล้วก็ให้เครื่องทำงานปกติ (ซัก ล้าง ปั่นแห้ง) และเพื่อให้ราและกลิ่นน้ำส้มสายชูหมดไปจากตัวถัง ก็สามารถเดินเครื่อง (ซักโดยที่ไม่มีผ้า) อีกครั้งหรือสองครั้งก็ได้

สำหรับเครื่องฝาหน้า ใส่เบกกิ้งโซดาหรือน้ำส้มสายชู ในช่องที่ใส่ผงซักฟอก แล้วเปิดเครื่องปกติ ปล่อยให้เครื่องเปล่าทำงาน ไปจนจบโปรแกรม โดยไม่ต้องใส่เสื้อผ้า

เท่านี้ เราก็มีวิธีล้างเครื่องซักผ้าแบบรักษาสิ่งแวดล้อม มิได้ใช้สารเคมีใดๆที่เป็นอันตราย และประหยัดเงินไม่ต้องจ้างบริษัทไปถอดเครื่องล้างด้วย

เคล็ดลับในการรักษาความสะอาดเครื่องซักผ้าไม่ให้เกิดราได้ง่าย ก็คือ หลังจากใช้แล้ว ควรจะเปิดฝาทิ้งไว้ให้ถังซักผ้าแห้งเสียก่อนค่ะ

วิธีซักผ้าเก่าให้กลับมาเป็นผ้าใหม่
คงไม่มีใครอยากจะใส่เสื้อนักเรียนที่มีคราบเหลือง ๆ หรือขาวแบบหม่นไปโรงเรียนแน่ๆ เลยงอแงขอเสื้อตัวใหม่กันใหญ่ เอาเป็นว่าพ่อแม่ที่อยากจะประหยัดค่าใช้จ่ายในบ้าน ก็สามารถทำตามคำขอของลูก ๆ ได้ง่าย ๆ

เพียงแค่นำสูตรซักเสื้อขาวเหล่านี้ไปซักชุดนักเรียนตัวเก่าให้ลูก ๆ นำไปใส่ในวันเปิดเทอม รับรองว่าเสื้อนักเรียนที่เคยมีคราบหรือดูหมอง ๆ จะกลับมาขาววิ้งเหมือนใหม่ ลูกใส่แล้วไม่อายเพื่อนที่โรงเรียนแน่นอน

1. สูตรน้ำมะนาว
รสชาติเปรี้ยวเข็ดฟันของน้ำมะนาวนี่แหละ คือตัวช่วยดี ๆ ที่ทำให้ผ้าขาวกลับมาขาวสดใสได้อีกครั้ง โดยการผสมน้ำมะนาว ½ ถ้วยตวงลงในน้ำผงซักฟอก แล้วนำเสื้อมาแช่ทิ้งเอาไว้ประมาณ 1 ชั่วโมงหรือ 1 คืนก่อนนำไปซักตามวิธีปกติอีกครั้ง

2. สูตรน้ำส้มสายชู
สูตรนี้ให้ทำหลังจากซักเสร็จแล้ว โดยให้นำเสื้อมาซักน้ำส้มสายชู 1 ถ้วยตวงผสมน้ำเปล่าอีกครั้ง ก่อนนำไปตากให้โดนแดด ซึ่งวิธีนี้จะทำให้ผ้าขาวกลับมาใหม่และทำลายคราบหมองจนเกลี้ยง

3. สูตรไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์
หากผ้าขาวมีคราบเลอะจนทำให้เกิดคราบหมอง ให้ผสมไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ½ ถ้วยตวง กับเบกกิ้งโซดา ½ ถ้วยตวง และน้ำเปล่าอีก 1 ถ้วยตวง เพื่อนำมาซักกับผ้าขาวแทนการใช้ซักผงฟอกตามปกติ

4. สูตรไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์กันน้ำยาล้างจาน
อีกหนึ่งทางเลือกดี ๆ ในการกำจัดคราบที่เป็นสาเหตุทำให้ผ้าขาวหม่นหมอง ด้วยการผสมไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ 2 ส่วนต่อน้ำยาล้างจาน 1 ส่วน เทลงบนคราบ แล้วขยี้จนกว่าคราบจะหายไป ก่อนนำไปซักตามปกติอีกครั้ง

5. สูตรสารฟอกขาว
นำสารฟอกขาวชนิด คลอรีน บลีช (Chlorine bleach) มาผสมกับน้ำเปล่าตามขั้นตอนที่ฉลากกำกับไว้ แล้วแช่ผ้าขาวทิ้งไว้ 15 นาที ก่อนนำไปซักคราบออกให้เกลี้ยงเกลา

6. สูตรแอมโมเนีย
แอมโมเนียช่วยให้ผ้าขาวคุณขาวสะอาดได้เหมือนกัน โดยการผสมแอมโมเนียมาผสมกับน้ำเปล่าให้เจือจาง แล้วนำไปซักผ้าขาวพร้อมผงซักฟอก แต่มีข้อแม้ว่าอย่าผสมแอมโมเนียกับผงซักฟอกโดยตรงเด็ดขาด เพราะจะทำให้เนื้อผ้าเสียหายได้

7. สูตรกรดซาลิก
หากผ้าขาวสะอาดเลอะคราบสนิมเหล็ก กำจัดคราบออกได้ โดยผสมกรดซาลิกประมาณ 1 ช้อนโต๊ะกับน้ำอุ่น 1 ถ้วยตวง ป้ายส่วนผสมที่ได้ลงบนคราบแล้วขยี้ แต่ถ้ายังมีคราบสีหลงเหลืออยู่ แนะนำให้ซักด้วยแอมโมเนียซ้ำอีกครั้ง แต่วิธีนี้ต้องทำอย่างระมัดระวัง เนื่องจากกรดซาลิกอาจทำให้เกิดการระคายเคืองที่ผิวหนังได้

8. สูตรเบกกิ้งโซดา
นอกจากเบกกิ้งโซดาจะช่วยทำความสะอาดบ้านได้แล้ว ยังทำให้ผ้าขาวเหมือนใหม่ได้อีกด้วย โดยการเทเบกกิ้งโซดา ½ ถ้วยตวงลงในน้ำผงซักฟอก ก่อนนำผ้าขาวมาซักทำความสะอาดตามปกติ ผ้าขาวของคุณก็จะขาวสะอาดเหมือนใหม่เลยล่ะ

9. สูตรบอแรกซ์และน้ำส้มสายชู
สูตรนี้เรียกได้ว่าช่วยเพิ่มพลังกำจัดคราบได้อีกทางหนึ่ง เริ่มจากผสมบอแรกซ์ ½ ถ้วยตวงเข้ากับน้ำส้มสายชู ½ ถ้วยตวง เทผสมลงในน้ำผงซักฟอก ก่อนซักผ้าขาวตามปกติ

10. สูตรน้ำซาวข้าว
รู้หรือไม่ว่าน้ำซาวข้าวที่เราเททิ้งนั้นมีประโยชน์มาก เพราะมันสามารถซักผ้าขาวของเราให้ขาวสะอาดได้ด้วยนะ โดยนำผ้าขาวไปซักแล้วแช่ไว้ในน้ำซาวข้าวผสมน้ำเปล่าประมาณ 2-3 นาที แล้วค่อยนำผ้าขาวมาซักอีกครั้ง

แม้ผ้าขาวของคุณจะหม่นหมองหรือเลอะคราบเปื้อนแค่ไหน สูตรซักผ้าขาวเหล่านี้ก็สามารถช่วยให้ผ้าขาวของคุณกลับมาใหม่ได้อีกครั้ง ไม่ต้องเสียเงินซื้อซ้ำแล้วซ้ำเล่าให้สิ้นเปลืองเลย