ถ้าหากท่านได้มีโอกาสติดตามข่าวสารของเด็กและโค้ช
ทีมนักเตะหมูป่าอะคาเดมี่ หายตัวไปอย่างลึกลับในถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน
คงจะทราบกันดีว่าเด็กนั้นหายเข้าไปได้9วัน 5ชั่วโมง 41นาที 15วินาที
จนเมื่อคืนวานนี้นักประดาน้ำพบตัวน้องเวลา 21.38นาที
เด็กๆและโค้ชยังคงปลอดภัยอยู่
ภารกิจของเหล่ากู้ภัยคือต้องหาวิธีนำเด็กและโค้ชทั้ง13ออกมาจากถ้ำให้ได้
ผู้คนทั่วประเทศต่างก็ดีใจเป็นอย่างมากที่พบตัวน้องๆแล้ว
แต่การที่จะช่วยเด็กๆออกมาได้เราต้องถนอมอะไรหลายๆอย่างเช่นดวงตา
ต้องใช้เวลาในการปรับแสง คุณหมอจึงแนะนำให้ใส่แว่นหรือผ้าปิดตา
ตามมาดูรายละเอียดเพิ่มเติมกันดีกว่าว่าจะเป็นอย่างไรกันบ้าง
นพ.พรเทพ พงศ์ทวิกร ผอ.รพ.บ้านแพ้ว
ทางนพ.พรเทพ พงศ์ทวิกร ผอ.รพ.บ้านแพ้ว ได้แนะนำถึงการดูแลดวงตาว่า สำหรับขั้นตอนการนำตัวเด็กทั้ง 13 คนออกจากถ้ำต้องระวังการเจอแดดจ้าทันที เพราะเด็กอยู่ในที่มืดสนิทมาตลอดกว่า 10 วัน ควรนำผ้าปิดตาหรือสวมแว่นกันแดดให้เด็กค่อยๆเห็นแสง หากเห็นแสงจ้าทันที ตาเด็กอาจมีภาวะรูรับแสงขยายใหญ่หรือหดตัวทันที ซึ่งจะทำให้มีอาการปวดตาได้ จะใช้เวลาประมาณ 4-6 ชม.เท่านั้นในการปรับสภาพดวงตา
“ต่อมาต้องตรวจว่าเด็กมีอาการติดเชื้อที่ดวงตาหรือไม่ เพราะสามารถติดเชื้อได้ง่ายมาก ยิ่งการอยู่ในถ้ำแล้วอาจสัมผัสน้ำ สัมผัสขี้ค้างคาว แล้วเอามือมาถูกดวงตา ขยี้ดวงตา ทำให้ติดเชื้อได้ แต่มักจะมีอาการไม่รุนแรง อาจจะเพียงแค่ตาแดงหรือตาอักเสบ อีกประเด็นที่อาจต้องตรวจสอบคือ เนื่องจากเด็กมีการอดอาหารเป็นเวลานาน อาจทำให้เกิดอาการขาดวิตามินเอ ซึ่งมีผลต่อการมองเห็นได้ ส่วนใหญ่อดอาหารระยะเวลาประมาณนี้อาจไม่มีปัญหาเรื่องการขาดวิตามินเอ เพราะร่างการคนเราจะมีกาเก็บวิตามินเออยู่แล้วและจะดึงออกมาใช้เวลาที่ขาด แต่ต้องดูว่าพื้นฐานน้องบางคนอาจจะขาดวิตามินเอหรือไม่ ถ้ามีก็ต้องให้วิตามินเอด้วย ที่สำคัญอีกเรื่องคือ ต้องไม่ให้เด็กจับโทรศัพท์ทันที เพราะแสงจากมือถืออาจจะเป็นอันตรายต้องรอให้ดวงตาอยู่ในภาวะปกติก่อน ซึ่งจะใช้เวลา 4-6 ชั่วโมง” นพ.พรเทพกล่าว
สำหรับขั้นตอนการพาทั้ง 13 ชีวิตออกจากถ้ำหลวง สิ่งที่น่ากังวลอีกอย่างหนึ่งคือ ดวงตา เนื่องจากทั้ง 13 ชีวิตอยู่ในถ้ำนานกว่า 10 วัน แถมยังต้องพักฟื้นร่างกาย ซึ่งคาดว่าต้องใช้เวลาอีกหลายวัน ทำให้การออกมาด้านนอกถ้ำและเจอแสงแดดจึงอาจมีปัญหากับดวงตาได้
นพ.พรเทพ พงศ์ทวิกร ผอ.รพ.บ้านแพ้ว
ทางนพ.พรเทพ พงศ์ทวิกร ผอ.รพ.บ้านแพ้ว ได้แนะนำถึงการดูแลดวงตาว่า สำหรับขั้นตอนการนำตัวเด็กทั้ง 13 คนออกจากถ้ำต้องระวังการเจอแดดจ้าทันที เพราะเด็กอยู่ในที่มืดสนิทมาตลอดกว่า 10 วัน ควรนำผ้าปิดตาหรือสวมแว่นกันแดดให้เด็กค่อยๆเห็นแสง หากเห็นแสงจ้าทันที ตาเด็กอาจมีภาวะรูรับแสงขยายใหญ่หรือหดตัวทันที ซึ่งจะทำให้มีอาการปวดตาได้ จะใช้เวลาประมาณ 4-6 ชม.เท่านั้นในการปรับสภาพดวงตา
“ต่อมาต้องตรวจว่าเด็กมีอาการติดเชื้อที่ดวงตาหรือไม่ เพราะสามารถติดเชื้อได้ง่ายมาก ยิ่งการอยู่ในถ้ำแล้วอาจสัมผัสน้ำ สัมผัสขี้ค้างคาว แล้วเอามือมาถูกดวงตา ขยี้ดวงตา ทำให้ติดเชื้อได้ แต่มักจะมีอาการไม่รุนแรง อาจจะเพียงแค่ตาแดงหรือตาอักเสบ อีกประเด็นที่อาจต้องตรวจสอบคือ เนื่องจากเด็กมีการอดอาหารเป็นเวลานาน อาจทำให้เกิดอาการขาดวิตามินเอ ซึ่งมีผลต่อการมองเห็นได้ ส่วนใหญ่อดอาหารระยะเวลาประมาณนี้อาจไม่มีปัญหาเรื่องการขาดวิตามินเอ เพราะร่างการคนเราจะมีกาเก็บวิตามินเออยู่แล้วและจะดึงออกมาใช้เวลาที่ขาด แต่ต้องดูว่าพื้นฐานน้องบางคนอาจจะขาดวิตามินเอหรือไม่ ถ้ามีก็ต้องให้วิตามินเอด้วย ที่สำคัญอีกเรื่องคือ ต้องไม่ให้เด็กจับโทรศัพท์ทันที เพราะแสงจากมือถืออาจจะเป็นอันตรายต้องรอให้ดวงตาอยู่ในภาวะปกติก่อน ซึ่งจะใช้เวลา 4-6 ชั่วโมง” นพ.พรเทพกล่าว