[CR](:: พาไปกิน ::) Hitori Omakaze บุฟเฟ่ต์ญี่ปุ่น ราคา 3,xxx มาดูกัน ว่าฟินขนาดไหน

สวัสดีครอบครัวชาวก้นครัวทุกท่านนะครับ

วันนี้ผมจะพาทุกท่านมาดูกันว่า บุฟเฟ่ต์ Omakase ที่ร้าน "Hitori Omakaze" เป็นยังไง ราคาระดับนี้ จะฟินระดับไหน
ของที่ได้หน้าตาเป็นยังไง สมควรค่าแก่การไปจัดกันมั้ย ว่าแล้ว ก็ตามมาครับ
__________________________________________________________________________

เมื่อมาถึงร้าน หลังจากได้ที่นั่งกันเรียบร้อยแล้ว พนักงานก็จะถามว่า จะรับอะไรดี ผมเลยเลือกให้เชฟช่วยจัด Omakase ให้ก่อนเลย
ซึ่งพนักงานก็จะถามต่อว่า "ไม่ทราบว่าแพ้ปลา หรืออาหารชนิดไหนมั้ย" ซึ่งแน่นอนว่า ผู้ชนะอย่างเรามีหรือจะแพ้ของพวกนี้
จึงตอบไปด้วยน้ำเสียงสุขุม... "ไม่แพ้ปลาครับ... แพ้ข้าว... ไม่ต้องปั้นข้าวคำใหญ่นะครับ" ว่าแล้วก็เฮฮากันไป

หลังจากชาเย็น และผ้าเย็นมาได้ไม่นาน สิ่งแรกที่เชฟจัดมาให้พวกเรา คือ

Hotaru Ika (หมึกโฮตารุ)

เนื้อนุ่ม เนียนมาก โปะมาด้วย miso ที่มีรสชาติอมเปรี้ยวนิดๆ บวกรสสัมผัสที่สากนิดๆ เข้ากันดีกับปลาหมึกและต้นหอม จานนี้มาแบบเย็นๆ ชื่นใจดีครับ

ระหว่างที่จานต่อไป ของที่สั่งนอกเหนือจาก Omakase ที่เชฟจัดให้ก็มาถึงครับ

Snow Steak (สเต็กปลาหิมะ)

เนื้อปลาหิมะนุ่มเนียน แต่ยังขาดความหวานจากตัวเองไปหน่อยนึง เครื่องเคียงพวกผักต่างๆทำออกมาได้ดีครับ ถือว่าได้อยู่

ไม่นาน Snow Shio (ปลาหิมะย่างเกลือ) ที่สั่งไปก็มาถึง

ย่างมาได้แห้ง หนังกรอบ บีบเลมอนลงไป เวลากิน ให้กินคู่กับไชเท้าและแตะโชยุแค่ปลายตะเกียบ ฟินลืม
(ที่เห็นเนื้อมันขาด เพราะลืมตัว เกือบเผลอกินแล้ว นึกขึ้นได้ยังไม่ถ่ายรูป)

นั่งฟินกับปลาหิมะได้ไม่นาน Highlight ของงานก็มาถึงครับ (ตื่นเต้นระดับ 10)

Hida Steak (สเต็กเนื้อฮิดะ)

เนื้อมีความหนาไม่บางเป็นกระดาษ จานนี้เชฟจัดมาให้แบบ Medium Rare อยากจะบอกว่า ตราตรึงใจมากครับ
ตัวเนื้อนุ่ม ฉ่ำ ไม่ต้องออกแรงเคี้ยวเลย กินคู่กับผักเครื่องเคียงที่มาด้วยกันนะ... "มันฟินมากเลยแกรรรรรร"

ระหว่างที่เคลิบเคลิ้มล่องลอยอยู่กับเนื้อฮิดะ ก็ถูกกระชากสติกลับมาด้วยชุด Sashimi ที่พนักงานเดินถืออย่างอลังการ

ในชุดนี้ประกอบไปด้วย
Salmon (แซลมอน) เนื้อดีตามมาตรฐานทั่วไป ไม่ถึงกับว้าว
Tako (หนวดปลาหมึก) ตามมาตรฐานทั่วไป
Itsumidai (กระพงดำ) [แต่จริงๆ Itsumidai มันควรจะเป็นปลานิลนะ อันนี้ไม่แน่ใจ] นุ่ม แต่มีความเด้ง เคี้ยวเพลินๆ
Hotate (หอยเชลล์) หวานนนน กินคู่กับมะนาวฝานบางๆ เข้ากั๊นนนน เข้ากัน
Hokkigai (หอยปีกนก) ปกติ ตามมาตรฐานทั่วไป
Hamachi (ฮามาจิ) เนื้อกรอบ มัน เข้มข้น ไม่คาว ค่อนข้างประทับใจ
Honmaguro Akami (ทูน่าเนื้อแดง ทางร้านระบุว่าเป็นส่วนหลัง) เนื้อนุ่ม สากนิดๆ ตาม style แต่ไม่เหม็นเลือด และไม่เปรี้ยว
Honmaguro Chutoro (ส่วนท้องทูน่า มันปานกลาง) เนื้อนุ่มมาก มีมันแทรกหน่อยๆ
Honmaguro Otoro (ส่วนท้องทูน่า) เนื้อนุ่มมมม มันแทรกกระจายไปทั่วชิ้นอย่างสวยงาม โปะมาด้วย Uni กินคู่กิน หวานหอมลงตัว

กินไปได้ระยะนึง เริ่มรู้สึกเลี่ยนๆละ ดีที่จานช่วยชีวิตมาถึงพอดี Salmon Salad Yum Thai (ยำแซลมอน)

มาตรฐานยำแซลมอนทั่วไปครับ เปรี้ยว หวาน เผ็ด เค็ม ลงตัว มาได้จังหวะพอดี ตัดเลี่ยนไปได้เยอะ

จากนั้น ก็เริ่มเบาเครื่องลงครับ หลังจากลุยกันมาพอสมควร เชฟก็จัดของกินเล่นมาให้ระหว่างทาง

หนวดปลาหมึกยักษ์

หนวดปลาหมึกยักษ์ฝานบางๆ ตอนแรกนึกว่าจะเหนียว ที่ไหนได้ นุ่มมากๆ เชฟโรยเกลือ บีบมะนาวมาให้ ดึงความหวาน
ในตัวมันออกมาได้เป็นอย่างดี เห็นเรียบง่ายแบบนี้ แต่มีความอร่อยลงตัวมาก

ตามมาด้วย พริกหวานญี่ปุ่นย่าง

ตัวพริกกลิ่นคล้ายๆพริกหนุ่มบ้านเรา แต่ราดพอนสึ กับโรยปลาโอแห้งมา กินด้วยกันแล้วลงตัวดี ล้างเลี่ยนล้างปากไปในตัว

หลังจากพักเครื่องไปได้ระยะนึง ยกสองก็เริ่มต้นขึ้น สั่งสุดยอดปลามากินกันอีกรอบ

งานดีเหมือนที่ผ่านมา

ระหว่างนั้น พนักงานก็เดินยกหอยสุบุไกเป็นๆมาที่โต๊ะ แล้วถามว่า จะรับแบบซาซิมิ หรือย่างดี ด้วยความที่เริ่มเลี่ยนๆซาซิมิแล้ว
เลยขอลองแบบเอาไปย่างดูบ้าง ก็เลยออกมาเป็นจานนี้

หอยสุบุไกย่างกับสาหร่ายคอมบุ

เนื้อหอยกรึบกรอบ แต่ไม่เหนียว กินคู่กับคอมบุ และไชเท้า หวานหอม มีกลิ่นอายทะเล โคตรเข้ากัน ที่เด็ดที่สุดคือตับหอย
รสสัมผัสนี่แบบ เนียนนุ่ม ละลายในปาก ไม่เหม็นเลยซักกะตี๊ดดด

เริ่มคิดถึงหอยเชลล์หวานๆ เลยสั่งมาใหม่อีกที

และแล้ว สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เรียกได้ว่าเป็นหายนะเลยก็ว่าได้ เนื่องจากตอนแรกที่สั่ง Omakase ไป พนักงานก็ถามว่า
จะเอาทั้งแบบ Sashimi และ Sushi เลยรึเปล่า ก็ดั๊นนนนไปตอบว่ารับทั้งคู่ แล้วก็ลืมไปเลยว่า Sushi มันยังไม่มา !!!

จังหวะที่อิ่มๆอึนๆ พนักงานก็เดินถือจาน Sushi กันมา 3 จาน (ไป 3 คน เค้าให้คนละชุดเลยครับ) เสร็จแล้วก็มาตั้งตรงหน้า

ผ่าง !!!

เอา Top View ไปดูเพื่อตอกย้ำกันอีกรอบ

ณ ขณะนั้น เพลงในหัวก็ดังขึ้นมา...

Once I was seven years old, my mama told me "Dont' order too much or you'll be SHITTY"

ภาพตัดกลับมาที่ Sushi จานโตที่อยู่เบื้องหน้า พวกเรา 3 คนได้แต่มองหน้ากัน

"ต่างคนต่างพูดไม่ออก ได้แต่มองตา เท่านั้น..."

หลังจากนั้นก็ค่อยๆละเลียดกันไป กินกันสุภาพมากขึ้น ดูผู้ดีขึ้นมาทันที

ในชุดนี้ประกอบไปด้วย (ไล่จากซ้ายบนไปทางขวา)
Honmaguro Otoro (เนื้อส่วนท้องทูน่า) กินคู่กับ Uni ก้ต้องบอกว่า อร่อยตามที่ควรจะเป็น
Honmaguro Chutoro (เนื้อส่วนท้องทูน่า ไขมันปานกลาง) มาถึงจุดนี้ เริ่มเลี่ยนๆ ไม่ค่อยรับรู้ความดีงามละ
Hamachi (ฮามาจิ) Topping มาด้วยวาซาบิดอง อร่อยมากกก และเหมือนจะได้เนื้อส่วนท้อง นุ่มเนียน หอม ทำให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
Kinmedai (คินเมได) อร่อยมากๆ เนื้อเนียน เด้ง ยิ่งเชฟเผาส่วนหนังมาให้ ทำให้มันหอมมากๆ ชอบมากคำนี้
ปลาบู่ญี่ปุ่น (ตัวนี้ไม่รู้จักครับ เชฟเค้าว่ามา) ตัวเหนียวนุ่มสู้ฟัน Topping ด้วย Yuzu Kosho หอมๆเผ็ดๆ ยิ่งเคี้ยวยิ่งมัน เด็ดมาก
Boton Ebi (กุ้งหวาน) อร่อยดีครับ เนื้อกุ้งหวานๆ กินคู่กับไข่แซลมอนเค็มๆ เข้ากันๆ
Hirame (ปลาตาเดียว) เนื้อเหนียวนุ่ม เด้งๆสู้ฟัน เคี้ยวอร่อยดีครับ กินไปกินมาเริ่มชอบรสสัมผัสของปลาเนื้อขาว มีหลายแบบดี
Foie Gras (ตับห่าน) ทำมาแห้งไปนิดนึงครับ ส่วนตัวชอบที่ด้านนอกแห้งเกรียมนิดๆ ข้างในยังมีความฉ่ำบ้าง ดีที่ตัวซอสไม่หวานไป

กว่าจะกินทั้งหมด ใช้เวลาไปพอสมควร แล้วก็มาถึงจานสุดท้าย ของหวานและผลไม้

ถั่วดำญี่ปุ่นในนมสด และเมลอน

ถั่วดำอร่อยดีครับ ไม่เหมือนถั่วดำบ้านเรา ตัวถั่วเม็ดใหญ่ และมีความนุ่มๆฉ่ำๆ ต่างจากบ้านเราที่ค่อนข้างแข็งๆสากๆ
เมลอนก็ทั่วไปครับ ไม่ได้หวานฉ่ำเป็นพิเศษ

หลังจากกินกันจนอิ่มหนำ และเกือบจะไม่สำราญแล้ว ก็เรียกพนักงานมากระซิบว่า "ขอดูเนื้อหน่อยสิ" พนักงานทำหน้าตาตกใจ
เลยต้องรีบบอกต่อว่า "เนื้อฮิดะๆ ขอดูแบบดิบๆหน่อยสิครับ อยากเห็นลาย" แหม่... เกือบไม่ได้กลับบ้านแล้ว พนักงานก็ใจดี
เดินเข้าไปหลังครัว แล้วไปหยิบใส่จานมาให้ดู

ก็ถือว่าสวยงามในระดับนึงเนอะ ราคาเท่านี้ แลกกับกินได้ไม่อั้นแล้ว ถือว่าคุ้มๆ

ว่าแล้วก็เรียกเก็บเงิน ราคาก็อยู่ที่เท่านี้ครับ (ราคาต่อคน)

จ่ายเงินเสร็จ เดินออกมาผ่านเชฟก็หยุดทักทายพูดคุยกัน แล้วเชฟก็เลยชี้ให้ดูว่า วันนี้มีกินปลาพิเศษอะไรกันไปบ้าง

Kinmedai

ปลาบู่ !?

Hirame

Hotate และ สุบุไก

_________________________________________________________________________
หลายท่านอาจจะคิดว่า ไปกัน 3 คน จากที่ดูรูป ไม่น่าจะอิ่มจุกอะไรขนาดนั้น นั่นก็เพราะว่า
จริงๆแล้วพวกเราสั่ง สเต็กเนื้อฮิดะ ไปถึง 4 จาน สเต็กปลาหิมะและปลาหิมะย่างเกลือ รวมๆไป 5 จาน
และยังมีสลัดซึ่งอร่อยมาก (แต่ลืมถ่ายรูป) อีกจานนึง ก็ต้องบอกว่า กินกันเยอะมาก อร่อยมาก และมีความสุขมากครับ

พนักงานที่ร้านบริการดีมากครับ ขออะไร ต้องการความช่วยเหลืออะไร ก็ช่วยอย่างเต็มที่ทุกอย่าง ไม่มีอิดออด ไม่ดึงหน้าใส่
Service Mind เต็มเปี่ยม เชฟเองก็พูดจาดี อัธยาศัยดี ทำอาหารออกมาได้ดีมากๆครับ

จริงๆต้องขอบอกว่า ตัวผมเองไม่ได้เป็น Sushi Sashimi Expert อะไร ชื่ออาหารบางชนิด ได้มาจากการทำการบ้าน
ตอนมาเขียนรีวิว รวมถึงสอบถามกับทางพนักงานและเชฟครับ
_______________________________________________________________________

ร้าน Hitori Omakaze ตั้งอยู่ที่ชั้น G ตึก ชาญอิสระทาวเวอร์ 2 ครับ

สามารถเข้าไปชม Facebook ของทางร้าน หรือจะขอดูราคาและเมนูได้ที่
https://www.facebook.com/HitoriOmakaze/?fref=ts

สำหรับรีวิวนี้ ก็จบเพียงเท่านี้แหละครับ...

ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม อ่านมาจนจบนะครับ

ขอบคุณครับ

ที่มา  https://pantip.com/topic/36541008