สวัสดีค่ะวันนี้ขอนำเสนอเรื่องราวที่หลายคนคงประสบพบเจอมาแล้วนั้นก็คือโรค
ไมเกรนนั้นเองค่ะเอาเป็นว่าเราไปทำความเข้าใจกับโรคไมเกรน ที่ว่ากันเลยค่ะ
ไมเกรน (Migraines) เป็นโรคที่ทำให้เกิดอาการปวดศีรษะรุนแรงชนิดหนึ่ง
จะรู้สึกปวดตุบ ๆ รุนแรง โดยมักปวดบริเวณศีรษะข้างเดียว
หรือปวดข้างเดียวก่อนแล้วจึงปวดสองข้าง
ในขณะที่ปวดก็มักมีอาการคลื่นไส้หรืออาเจียนร่วมด้วย
และอาจมีความรู้สึกไวต่อเสียงและแสงสว่างมากกว่าปกติ
ถ้าใครเป็นอยู่บอกเลยว่ามันทรมานมาก
เมื่อเป็นไมเกรนแล้วนั้นบางคนอาจจะทานยาไปด้วยแล้วแต่มันอาจจะไม่หายเลย
ส่วนอาหารที่ควรเลี่ยงมากที่สุดเวลาปวดไมเกรน
ถ้าไม่อยากปวดหนักกว่าเดิมต้องเลี่ยงเลยค่ะอาหารที่ว่าจะมีอะไรบ้างนั้นเราไปดูพร้อมกันเลยค่ะ
1. คาเฟอีน ไม่ว่าจะจากอาหารหรือเครื่องดื่มอะไรก็แล้วแต่ กาแฟ ชา โกโก้ ช็อกโกแลต มันจะเข้าไปทำปฏิกิริยากับส่วนรับความรู้สึกของสมองที่เชื่อมโยงอยู่กับอาการไมเกรน โดยถ้าเธอเป็นประเภทที่ยิ่งปวดหัว ยิ่งต้องดื่มกาแฟ ถึงจะหาย นั่นสื่อให้เห็นได้ชัดเจนว่าเธอเป็นโรคติดคาเฟอีนเข้าแล้ว
2. เนื้อแปรรูป ทุกรูปแบบ มักมีส่วนประกอบของสารโซเดียมไนเตรทสูงมาก ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเคมีในสมอง ก่อให้เกิดอาการปวดหัวไมเกรน เพราะโดนกระตุ้นสมองบ่อยครั้ง แถมยังเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งอีกด้วย
3. ผงชูรสที่มากับอาหารต่างๆ น้ำตาลเทียม หรือสารให้ความหวานแทนน้ำตาล ล้วนกระตุ้นให้ไมเกรนขึ้นได้ตลอด บริโภคแต่น้อยก็เพียงพอ ออกกำลังกายร่วมด้วยก็ดีถ้ารู้ตัวว่าไม่สามารถเลี่ยงสารปรุงแต่งดังกล่าวได้
4. อาหารรสเปรี้ยว ไม่ว่าจะดีต่อสุขภาพหรือไม่ก็ตาม ต่อให้เป็นน้ำส้มปั่น น้ำมะนาวปั่น ช่วงเป็นไมเกรนขอให้หยุดเอาไว้ก่อน เพราะความเปรี้ยวจะยิ่งทำให้ปวดหัวหนัก ยิ่งถ้าเป็นน้ำปั่น ยิ่งหนักเข้าไปใหญ่เลยละค่ะ
สำหรับอาการปวดไมเกรนนั้นมันไม่ใช่เรื่องเล่นๆเลยนะค่ะ เพราะมันอันตรายมากจริงๆสำหรับคนที่เป็นมานานแล้วก็เป็นบ่อยๆมันทรมานมากๆเลยละค่ะ หากการใช้ยารักษาโรคไม่เหมาะสมกับผู้ป่วยในบางราย หรือไม่สามารถช่วยป้องกันไมเกรนได้ ผู้ป่วยอาจพิจารณาทางเลือกอื่น ๆ เช่น การฝังเข็ม (Acupuncture) ซึ่งเป็นวิธีที่นิยมนำมาใช้ในการรักษาไมเกรนกันมากขึ้น อีกด้วยนะ
1. คาเฟอีน ไม่ว่าจะจากอาหารหรือเครื่องดื่มอะไรก็แล้วแต่ กาแฟ ชา โกโก้ ช็อกโกแลต มันจะเข้าไปทำปฏิกิริยากับส่วนรับความรู้สึกของสมองที่เชื่อมโยงอยู่กับอาการไมเกรน โดยถ้าเธอเป็นประเภทที่ยิ่งปวดหัว ยิ่งต้องดื่มกาแฟ ถึงจะหาย นั่นสื่อให้เห็นได้ชัดเจนว่าเธอเป็นโรคติดคาเฟอีนเข้าแล้ว
2. เนื้อแปรรูป ทุกรูปแบบ มักมีส่วนประกอบของสารโซเดียมไนเตรทสูงมาก ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเคมีในสมอง ก่อให้เกิดอาการปวดหัวไมเกรน เพราะโดนกระตุ้นสมองบ่อยครั้ง แถมยังเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งอีกด้วย
3. ผงชูรสที่มากับอาหารต่างๆ น้ำตาลเทียม หรือสารให้ความหวานแทนน้ำตาล ล้วนกระตุ้นให้ไมเกรนขึ้นได้ตลอด บริโภคแต่น้อยก็เพียงพอ ออกกำลังกายร่วมด้วยก็ดีถ้ารู้ตัวว่าไม่สามารถเลี่ยงสารปรุงแต่งดังกล่าวได้
4. อาหารรสเปรี้ยว ไม่ว่าจะดีต่อสุขภาพหรือไม่ก็ตาม ต่อให้เป็นน้ำส้มปั่น น้ำมะนาวปั่น ช่วงเป็นไมเกรนขอให้หยุดเอาไว้ก่อน เพราะความเปรี้ยวจะยิ่งทำให้ปวดหัวหนัก ยิ่งถ้าเป็นน้ำปั่น ยิ่งหนักเข้าไปใหญ่เลยละค่ะ
สำหรับอาการปวดไมเกรนนั้นมันไม่ใช่เรื่องเล่นๆเลยนะค่ะ เพราะมันอันตรายมากจริงๆสำหรับคนที่เป็นมานานแล้วก็เป็นบ่อยๆมันทรมานมากๆเลยละค่ะ หากการใช้ยารักษาโรคไม่เหมาะสมกับผู้ป่วยในบางราย หรือไม่สามารถช่วยป้องกันไมเกรนได้ ผู้ป่วยอาจพิจารณาทางเลือกอื่น ๆ เช่น การฝังเข็ม (Acupuncture) ซึ่งเป็นวิธีที่นิยมนำมาใช้ในการรักษาไมเกรนกันมากขึ้น อีกด้วยนะ