Home »
Uncategories »
แม่ “ตามหาลูกสาว” เผย 13 ปี แล้วที่ต้องพลัดพราก อยากหอม อยากกอด และขอเจออีกสักครั้งได้มั้ย?
แม่ “ตามหาลูกสาว” เผย 13 ปี แล้วที่ต้องพลัดพราก อยากหอม อยากกอด และขอเจออีกสักครั้งได้มั้ย?
วันนี้เรามีเรื่องราวความรักขอคุณแม่ท่านหนึ่ง
ที่ได้ออกตามหาลูกสาวที่หายตัวไป คุณแม่ท่านนี้อายุ 37 ปี ได้ออกมาวอนสื่อ
ประกาศตามหาลูกที่เกิดกับอดีตสามี หลังไม่ได้เจอกันนาน 13 ปี
เผยคิดถึงและอยากเจอหน้าลูกสักครั้ง ไม่รู้ว่าป่านนี้ลูกจะสุขสบายดีหรือไม่
ด้านนายอำเภอ เช็กประวัติ พบทำบัตรประชาชนตอน 7 ขวบในพื้นที่ จ.ชลบุรี
แม่ท่านนี้ต้องการเห็นหน้าลูกสาวที่ไม่ได้เจอกันมาเกือบ
13 ปี เธอชื่อนางแรมจันทร์ อ่วมพรม แม่บ้านโรงงานแห่งหนึ่งใน
อ.สำโรง จ.อุบลราชธานี ได้เข้าร้องเรียนผู้สื่อข่าว
เพื่อขอให้ช่วยติดตามหาลูกสาววัย 15 ปี ซึ่งไม่ได้เจอหน้ากันมานานเกือบ 13
ปี
โดยปัจจุบันมีเพียงภาพถ่ายเก่าที่ถ่ายเมื่อลูกสาวมีอายุเพียง
2 ขวบเศษเพียงใบเดียวไว้ดูต่างหน้ามาโดยตลอด นางแรมจันทร์ เล่าว่า
ขณะที่ตนมีอายุ 16 ปี ได้ออกจากบ้านใน อ.ทุ่งช้าง จ.น่าน
มาทำงานที่ร้านอาหารตามสั่งใน อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี
และได้ชอบพอกับนายไก่
(นามสมมุติ) หลานชายเจ้าของร้าน กระทั่งให้กำเนิดลูกสาวชื่อ น้องนิด
(นามสมมุติ) แต่ชีวิตรักระหว่างตนกับนายไก่ก็ได้จบลง เมื่อน้องนิด
อายุได้เพียง 2 ขวบเศษ และตนก็ได้นำลูกสาวไปให้แม่ของตนเลี้ยงที่ จ.น่าน
นางแรมจันทร์
เล่าต่อว่า ส่วนตนก็ไปทำงานเป็นสาวโรงงานใน อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ได้เพียง 1
สัปดาห์ ก็ได้รับแจ้งจากแม่ของตนว่า
นายไก่มารับเอาตัวน้องนิดไปอยู่ด้วย ซึ่งตนพยายามติดต่อนายไก่ซึ่งเป็นสามีเก่า
เพื่อพูดคุยเรื่องลูกสาวที่นายไก่มารับเอาตัวไป
แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้จนมาถึงวันนี้
ซึ่งต่อมาเมื่อหลายปีก่อน
ตนก็มีครอบครัวใหม่กับหนุ่มชาว จ.อุบลราชธานี และมีลูกสาวด้วยกันอีก 1 คน
อายุ 6 ขวบ แต่ก็ยังคิดถึงน้องนิดลูกสาวคนแรก และได้พยายามตามหาลูกสาว
โดยบางครั้งมีคนงานนำสินค้าจากโรงงานไปส่งที่
จ.ชลบุรี
ก็ขอร้องให้ช่วยดูร้านขายอาหารตามสั่งที่เคยไปทำงานอยู่ว่าเห็นลูกสาวของตนบ้างหรือไม่
แต่คนขับรถก็บอกว่าร้านอาหารนั้นไม่มีอยู่แล้ว นางแรมจันทร์ กล่าว
นางแรมจันทร์
เล่าอีกว่า ทำให้ตนหมดปัญญาที่จะตามหาลูกสาว
เพราะปัจจุบันก็มีรายได้เพียงเป็นแม่บ้านของโรงงาน
ไม่มีเงินทองพอใช้ไปติดตามหาลูกสาวคนนี้ได้
ที่ผ่านมาก็ได้แต่เล่าเรื่องราวความรักของแม่ให้ลูกสาวอีกคนฟังมาโดยตลอดว่า
ยังมีพี่สาวอยู่อีกคน และลูกสาวคนเล็กก็บอกอยากเจอพี่สาวเช่นกัน
ทำให้ช่วงที่ผ่านมา ก็ได้แต่คิดถึงอยากเจอหน้าน้องนิดสักครั้ง แต่ก็ทำไม่ได้ จึงได้เข้ามาขอความช่วยเหลือดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าน้องนิดทราบเรื่องแล้วไม่ต้องการเจอนางแรมจันทร์
เพราะไม่เคยอยู่ด้วยกันมาก่อน นางแรมจันทร์ กล่าวว่า ตนเข้าใจเหตุผลนี้ดี
แต่ก็อยากอธิบายให้ลูกรู้ว่าเหตุใดที่ไม่มีโอกาสได้อยู่ด้วยกัน
และไม่ต้องการอะไร เพียงแต่อยากเห็นหน้าลูกสาวว่า ปัจจุบันนี้เป็นเช่นไร
เรียนหนังสืออยู่ชั้นไหน โตขนาดไหนแล้ว
ถ้าเป็นไปได้ก็อยากขอกอดและหอมลูกสักครั้งในชีวิตก็ยังดี
“เพราะเข้าใจดีที่เราไม่ได้เป็นคนที่เลี้ยงดูเขามาตั้งแต่เล็ก
แต่ก็อยากเห็นหน้า หรือได้มีโอกาสพูดคุยกับลูกสักครั้งก็ยังดี”
นางแรมจันทร์ กล่าว
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้พา นางแรมจันทร์ เข้าพบ นายธรรมนูญ
แจ่มใส นายอำเภอสำโรง
เพื่อให้ช่วยเหลือในการติดตามหาตัวน้องนิดที่ไม่ได้เจอกันมาเกือบ 13
ปี และจากการตรวจสอบจากข้อมูลของสำนักทะเบียนราษฏร กระทรวงมหาดไทย ทราบว่า
น้องนิดได้เข้ามาทำบัตรประชาชนเมื่ออายุได้
7 ขวบ โดยแจ้งที่อยู่ใน ต.บ่อกวางทอง อ.บ่อทอง
จ.ชลบุรี แต่ไม่รู้ว่าตัวยังอยู่ตามภูมิลำเนาที่แจ้งไว้กับสำนักทะเบียนราษฏรหรือไม่
นายธรรมนูญ
จึงโทรศัพท์แจ้งไปยัง อ.บ่อทอง
ให้ช่วยเป็นธุระประสานตรวจสอบไปยังผู้ใหญ่ที่น้องนิดมีชื่ออยู่ในหมู่บ้านว่า เด็กสาวคนนี้ยังคงพักอยู่ที่หมู่บ้านดังกล่าวหรือไม่
และทางน้องนิดและครอบครัวยินดีจะให้นางแรมจันทร์ไปพบหรือไม่
ซึ่งหากน้องนิดและนายไก่ไม่ขัดข้อง
ทางนายธรรมนูญก็ยินดีมอบเงินค่าเดินทางและค่าใช้จ่ายให้นางแรมจันทร์
ซึ่งมีฐานะยากจนใช้เดินทางไปพบกับลูกสาว
ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรอการประสานกลับมาจากผู้ใหญ่บ้านใน ต.กวางทอง
ที่น้องนิดมีภูมิลำเนาอยู่ครั้งสุดท้ายอยู่ที่นั่น
แหล่งที่มา: honghongworld.com