ป้าแสบ “ปลอมเฟซบุ๊กครูสาว” หลอกลวงให้รัก หลอกชาวบ้านโอนเงินช่วยงานสังคม

ภัยสังคมสมัยนี้มีมากมายจนตามไม่ทันจริงๆ ล่าสุดได้มีป้ามหาภัย “ปลอมเฟซบุ๊กครูสาว” หลอกลวงคนให้มารัก หลอกชาวบ้านโอนเงินช่วยงานสังคม

ร.ต.อ.กิตติภณ  พลเดช รองสารวัตรสอบสวน สภ.บางแก้ว สมุทรปราการ กำลังนั่งปฎิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพัก นางสาวพิมพ์ฑักษอร แสงทองไชย อาจารสอนนักเรียนระดับมัธยมชื่อดังแห่งหนึ่งของจังหวัดสมุทรปราการ ได้หอบเอกสารเข้าแจ้งความร้องทุกข์ว่า ตนเองถูกปลอมเฟซบุ๊ก ไปหลอกลวงชาวบ้านให้โอนเงินช่วยงานสังคมต่างๆ

โดยการนำรูปถ่ายของตนที่ไปทำกิจกรรมเพื่อสังคมไปทำเป็นโปรไฟล์ เพื่อหลอกลวงชาวบ้าน โดยเฉพาะข้าราชการ ระดับอำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ถูกหลอกคุยทักทายและตีสนิดจนฝ่ายชายหลงเชื่อโอนเงินมาให้เกือบ ครึ่งแสน

แถมซื้อแหวนเพชรและดอกไม้ เตรียมที่จะมาขอแต่งงานโดยนัดเจอกันที่วัดบางพลีใหญ่ใน หรือวัดหลวงพ่อโต  แต่พอถึงเวลามาพบใบหน้ากับไม่เหมือนรูปที่ส่งให้หรือในโปรไฟล์ แต่กลายเป็นหญิงสาววัยกลางคนอายุประมาณ 50 ปี ฝ่ายชายจึงรู้ตัวว่าถูกหลอกจึงได้นำหลักฐานต่างๆ เข้าแจ้งความร้องทุกข์ไว้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางใหญ่

โดยหลักฐานสำคัญที่ทำให้ความจริงปรากฏคือ มีพลเมืองดีคนหนึ่งส่งข้อความมาหาครูพิมพ์ อ้างว่าเป็นลูกศิษย์ บอกว่าครูพิมพ์อาจจะโดนปลอมเฟซบุ๊กใช้หลอกลวงผู้อื่น ต่อมาจึงมีการสืบหาข้อมูลจนกระทั่งทราบว่า บุคคลที่ปลอมเฟซบุ๊กของครูพิมพ์ คือ นางประจวบ หญิงอายุ 55 ปี

ส่วนตัวครูพิมพ์เชื่อว่า พลเมืองดีคนนี้คือหนึ่งในชายที่ถูกหลอก จึงพยายามสืบหาตัวจริง

ทางด้านฝ่ายชายผู้เสียหาย คือ นายสุรชัย เปิดเผยว่า เขารู้จักกับหญิงคนที่อ้างตัวเป็นปลัดได้ประมาณปีกว่าๆ จากการพูดคุยผ่านเฟซบุ๊กและไลน์ โดยสาเหตุที่ทำให้ปักใจเชื่อ เนื่องจากปกติจะมีการบอกว่ากำลังทำกิจกรรมอะไร และมักมีภาพถ่ายมาให้ดูเพื่อยืนยัน

ประกอบกับมีการพูดคุยเรื่องที่รู้กันเฉพาะเจ้าหน้าที่ ทำให้เกิดความเชื่อใจพูดคุยกัน กระทั่งตนเองตกหลุมรัก จึงวางแผนอยากจะนัดเจอฝ่ายหญิงสักครั้ง และเซอร์ไพร์สขอแต่งงาน โดยเตรียมแหวนเพชร และช่อดอกไม้ ไปให้กับฝ่ายหญิง

ในช่วงใกล้วันเกิดของคุณสุรชัยเอง ตั้งใจจะคุกเข่าขอแต่งงาน แต่แล้วเมื่อไปถึงกลับเจอเซอร์ไพร์สกว่า เพราะฝ่ายหญิงตัวจริงไม่เหมือนรูปที่ส่งให้ กลายเป็นนางประจวบ หญิงอายุ 55 ปี เมื่อเห็นอย่างนั้นเขาจึงตกใจ เสียใจอย่างมาก ที่ถูกหลอกให้รักมาตลอดระยะเวลาปีกว่า

ด้านนางสาวพิมพ์ฑักษอร เจ้าของเฟซบุ๊กผู้เสียหาย ได้เล่าว่า ตนเองเป็นอาจารย์สอนนักเรียนระดับชั้นมัธยมอยู่ที่โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการ และยังรับเดินแบบ ร้องเพลง เล่นละครการกุศลอยู่เป็นประจำ

ซึ่งหลังจากเสร็จภาระกิจเพื่อสังคม ตนก็จะนำรูปมาโพสต์บนเฟซบุ๊กของตนเองที่เปิดเป็นสาธารณะ ร่วมทั้งรูปกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวกับการทำงานของตนเอง ตลอดเวลาที่ตนถูกปลอมเฟซบุ๊กไปหลอกลวงชาวบ้านให้โอนเงินช่วยเหลืองานสังคมต่างๆ มานาน

โดยที่ตนไม่รู้เรื่องเลยจนกระทั่งมีพลเมืองดีที่คาดว่าน่าจะเป็นผู้ปกครองของนักเรียนในชั้นที่ตนสอนอยู่ เข้ามาทักในไลน์ของตนที่เปิดไว้ให้นักเรียนสอบถามเกี่ยวกับการเรียน และไลน์มาถามว่าตนเปิดเฟซบุ๊กใหม่อีกเฟซบุ๊กเหรอ

โดยพลเมืองดีคนดังกล่าวได้นำหน้าเฟซบุ๊กอันดังกล่าวส่งมาให้ตนดู  ตนจึงได้ตอบกลับไปว่าตนเองมีอยู่เฟซบุ๊กเดียวที่ใช้อยู่เท่านั้น ซึ่งหน้าเฟซบุ๊กที่ส่งมาไม่ใช้ของตน แต่รูปโปรไฟล์กับเป็นรูปหน้าของตน ตนจึงได้เข้าไปตรวจสอบจึงทราบว่า

ตนเองถูกปลอมเฟซบุ๊กโดยใช้รูปของตนไปเป็นโปรไฟล์ และรูปกิจกรรมอื่นที่ตนเองโพสรูปไว้ในเฟซบุ๊กของตนเอง ก็ถูกนำไปลงในเฟซบุ๊กดังกล่าวด้วยทำให้คนอื่นเข้าใจตนผิด และเสื่อมเสียชื่อเสียง

ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อหน้าที่การงานของตนที่ทำอยู่  จึงรวบรวมเอกสารทั้งหมดเดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.บางพลี สมุทรปราการ เพื่อให้ช่วยสืบสวนจับกุมจนกระทั้งทราบว่าคนที่ปลอมเฟซบุ๊กของตนคือ นางสาวประจวบ  แจ้งสว่าง อายุ 55 ปี และเจ้าหน้าที่ได้ทำการจับกุมตัวส่งฟ้องศาลไปแล้ว

เมื่อประมาณ 2 ปี ที่ผ่านมา และอยู่ระหว่างคุมประพฤติรอลงอาญา ซึ่งในครั้งนั้นตนก็ไม่ได้เรียกร้องอะไรเพราะสงสารเห็นว่าฐานะทางบ้านไม่ค่อยดี จึงปล่อยให้ดำเนินการไปตามกฎหมาย

แต่ต่อมาเมื่อประมาณต้นเดือน กุมภาพันธ์ 2562  มีไลน์ปริศนาเข้ามาสอบถามตนในไลน์ส่วนตัวอีกว่า ตนเปิดเฟซบุ๊กใหม่อีกเฟซบุ๊กหนึ่งเหรอ ตนจึงได้เข้าไปตรวจสอบและพบว่า ตนถูกปลอมเฟซบุ๊กอีกเป็นครั้งที่สอง ซึ่งคนที่กระทำก็คือ นางสาวประจวบ คนเดิมที่อยู่ระหว่างรอลงอาญา และใช้พฤติกรรมเหมือนเดิม

ตนจึงได้รวบรวมเอกสารทั้งหมดเดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.บางแก้ว สมุทรปราการ เพื่อให้ดำเนินคดีกับนางสาวประจวบ อย่างถึงที่สุด

หลังจากเจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำนางสาวพิมพ์ฑักษอร  เจ้าของเฟซบุ๊กผู้เสียหายเป็นที่เรียบร้อยและลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ได้สั่งการณ์ให้เจ้าหน้าที่สายตรวจไปเชิญตัวนางสาวประจวบ มาจากบ้านพักเพื่อมาสอบถามข้อเท็จจริง

โดยนางสาวประจวบ ได้ให้การยอมรับว่าเฟซบุ๊กดังกล่าว ตนเองเป็นคนเปิดขึ้นจริงส่วนที่นำรูปของผู้เสียหายมาใช้เป็นโปรไฟล์ เพราะว่าหน้าตาดี ส่วนรายละเอียดการสอบสวนอื่นๆ ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่เปิดเผย

โดยใช้เวลาในการให้ปากคำนานกว่า 1 ชั่วโมง ก่อนเจ้าหน้าที่จะปล่อยตัวนางสาวประจวบ กลับไปเพื่อรอเรียกตัวมารับทราบข้อกล่าวหาและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ผู้เสียหายรายใดที่สงสัยว่าตกเป็นเหยื่อของนางสาวประจวบ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สภ.บางแก้ว จังหวัดสมุทรปราการ ส่วนผู้เสียหายรายใดที่สงสัยว่าตกเป็นเหยื่อของนางสาวประจวบ ที่ปลอมเฟซบุ๊กของนางสาวพิมพ์ฑักษอร  ไปขอโอนเงินช่วยงานสังคมต่างๆ  สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สภ.บางแก้ว จังหวัดสมุทรปราการ

ชมคลิป

แหล่งที่มา: ch3thailand.com