สมุนไพรหรือเครื่องเทศชนิดนี้อุดมไปด้วยวิตามิน C, A, E และแร่ธาตุอีกหลายชนิดเช่น คอปเปอร์ แมกนีเซียม โพแทสเซียม และแมงกานีส ที่จะช่วยให้ร่างกายของคุณมีภูมิต้านทานที่แข็งแรง และนอกจากนี้ยังมีอีกความเชื่อที่กล่าวว่า ขิง สามารถช่วยยับยั้งสารประกอบ “โพรสตาแกลนดิน” (Prostaglandin) ที่สร้างจากเนื้อเยื่อส่วนต่างๆ ของร่างกายเมื่อเกิดอาการบาดเจ็บ หรือกระบวนการอักเสบ (Inflammation) อีกทั้งความไม่สมดุลของระดับฮอร์โมน กล้ามเนื้อหดตัว ช่วยลดอัตราเสี่ยงต่อการเป็นไมเกรน และ ขิง ก็ยังจะช่วยคุณบรรเทาอาการปวดท้องและคลื่นไส้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งก็เป็นอาการของไมเกรน เช่นเดียวกันค่ะ
จากเนื้อหาข้างต้นทำให้เราทราบว่า สมุนไพรสีเหลืองอ่อน กลิ่นหอม รสชาติเผ็ดร้อนชนิดนี้สามารถรักษาโรคได้อย่างหลากหลาย ปริมาณของโพแทสเซียมที่มีอยู่มากช่วยบำรุงรักษาสุขภาพหัวใจ ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตให้เป็นปกติ สารต้านอนุมูลอิสระในขิงยังช่วยลดอาการจุกเสียดแน่นท้องได้เป็นอย่างดีอีกด้วย!
ส่วนประกอบที่สำคัญในขิงคือ สารจินเจอรอลส์ (Gingerols) เป็นสารที่ให้ความเผ็ดร้อน ซึ่งมีสรรพคุณในการยับยั้งอาการอักเสบของอวัยวะต่างๆ เช่น กล้ามเนื้อ และข้อต่อ ในสารจินเจอรอลส์นี้มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ที่จะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดจากโรคข้อต่ออักเสบ เป็นต้น
เข้าใจกันแล้วใช่มั้ยล่ะว่า ขิง ที่เราไม่พิสมัยกับรสชาติของมันเนี่ยมีประโยชน์มากแค่ไหน แต่ถ้าหากคุณไม่ถนัดรับประทานขิงสด วันนี้เราจะมีแนะนำวิธีการทำน้ำขิงให้ดื่มง่ายภายในไม่กี่นาที และยังช่วยรักษาโรคไมเกรน กล้ามเนื้อ ข้อต่ออักเสบ และอาการจุกเสียดแน่นท้อง ดังนั้นสิ่งที่คุณจำเป็นต้องเตรียมก็คือ
ขิงสด 1 ชิ้น
น้ำผึ้งดิบ
มะนาวครึ่งลูก
น้ำสะอาด 3 ถ้วย
วิธีทำ: อันดันแรก นำขิงมาหั่นเป็นชิ้นบาง ต้มน้ำให้ร้อนพอประมาณ ใส่น้ำมะนาวลงไป จากนั้นตามด้วยขิงสดที่เตรียมไว้ คนให้เข้ากัน ปอดท้ายด้วยการเติมน้ำผึ้งลงไปเพื่อให้ได้รสชาติกลมกล่อม
ถึงแม้ว่าคุณจะไม่ได้ป่วยเป็นโรคตามที่เราได้กล่าวมาข้างต้น คุณก็สามารถดื่มน้ำขิงได้เป็นประจำตามความต้องการ เพื่อเป็นการบำรุงร่างกายให้มีภูมิต้านทานต่อโรคต่างๆ ที่อาจเข้ามาหาคุณได้ทุกเมื่อนะคะ
Source: www.baby-kids-parents.com
www.vichakaset.com