ข้อแรกเลยก็คือ มีปริมาณไขมันดี (hdl cholesterol) ในร่างกายน้อยเกินไป น้ำหนักตัวมากเกินไป พันธุกรรม ไม่ค่อยเคลื่อนไหวร่างกาย หรือนั่งอยู่กับที่นานเกินไป พักผ่อนน้อย หรือนอนไม่ค่อยหลับ เป็นต้นค่ะ ส่วนลักษณะอาการของภาวะเสี่ยงเบาหวานก็จะมีตั้งแต่อาการอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย กระหายน้ำบ่อยจึงทำให้ปัสสาวะบ่อยไปในเวลาเดียวกัน สายตาพร่ามัว รู้สึกมึนงง และมีเหงื่อไหลมากผิดปกติ
อย่างไรก็ตาม ภาวะเสี่ยงโรคเบาหวาน ยังสามารถควบคุมได้ตั้งแต่เนิ่นๆ หากเพื่อนๆ รู้จักปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต และหันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น เพื่อนๆ อยากรู้กันแล้วใช่มั้ยล่ะว่าเราจะสามารถควบคุมภาวะเสี่ยงเหล่านี้ได้อย่างไร ไปเริ่มกันที่ข้อ 1 เลยดีกว่าค่ะ
1. ลดน้ำหนักกันเถอะจะเกิดผล!
ในบางครั้งสาเหตุและปัจจัยของภาวะเสี่ยงเบาหวานก็มาจากน้ำหนักตัวที่มากเกินไปของเราได้เช่นกันค่ะ หากเพื่อนๆ กำลังใช้ชีวิตกันแบบ unhealthy อยู่ล่ะก็ต้องรีบเปลี่ยนแปลงอย่างด่วนเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มตารางการออกกำลังกาย ทานอาหารที่มีประโยชน์และลดปริมาณอาหารรสจัดหรือที่มีน้ำตาลทรายมาก เช่น ขนมหวาน น้ำอัดลม น้ำผลไม้พร้อมดื่ม เพราะจะทำให้ปริมาณน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
2. อาหารช่วยต้านเบาหวาน
สำหรับผู้ที่มีภาวะเสี่ยงเบาหวานนั้น อาหารการกินก็เป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน เพื่อนๆ ควรเลือกรับประทานอาหารที่ช่วยรักษาสมดุลของน้ำตาลในเลือดให้เป็นปกติ ควบคู่ไปกับอาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีน ไฟเบอร์ และไขมันชนิดที่เป็นประโยชน์ เช่น ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ เมล็ดเจีย เมล็ดแฟลกซ์ ควินัว อะโวคาโด้ มะเดื่อ และน้ำมันมะพร้าวเป็นต้น
3. ให้ร่างกายได้รับโครเมียมอย่างเพียงพอ
โครเมียม (chromium picolinate) คือแร่ธาตุชนิดหนึ่งซึ่งมีหน้าที่ช่วยเผาผลาญน้ำตาลกลูโคลส และคาร์โบไฮเดรตเพื่อให้ร่างกายนำพลังงานไปใช้ได้เต็มที่และช่วยเสริมการทำงานของอินซูลินในร่างกายเพื่อป้องกันโรคเบาหวานชนิดที่ 2 และโรคอ้วน เพื่อนๆ สามารถเลือกรับประทานโครเมียมชนิดอาหารเสริมเพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารอย่างเต็มที่
4. รับประทานแมกนีเซียม
หากร่างกายขาดแคลนแมกนีเซียมก็อาจจะส่งผลต่อภาวะขาดแคลนสารอาหารอื่นๆ ในร่างกายได้เช่นเดียวกัน อีกทั้งยังเสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูง ซึ่งทั้งสองปัจจัยนี้ล้วนเป็นสิ่งสำคัญที่อาจก่อให้เกิดภาวะเสี่ยงเบาหวานได้ ในปัจจุบันก็ได้มีการผลิตอาหารเสริมแมกนีเซียมออกมามากมายเพื่อความสะดวกและสารอาหารที่ครบถ้วน แต่ถ้าหากเพื่อนๆ มีเวลาก็สามารถเสริมการรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยแมกนีเซียมอย่าง ผักใบเขียวต่างๆ อะโวคาโด้ เมล็ดถั่ว และธัญพืชแบบเต็มเมล็ด เป็นต้น
5. อบเชยก็มีประโยชน์ไม่แพ้กัน
อบเชย หรือ cinnamon วัตถุดิบสำคัญในการทำเบเกอรี่ทั้งหลายก็สามารถนำมาใช้บรรเทาและรักษาภาวะเสี่ยงเบาหวานของร่างกายได้เช่นเดียวกัน ด้วยฤทธิ์ของสารต่อต้านอนุมูลอิสระ และสารต่อต้านอาการอักเสบอันทรงพลัง มีผลการวิจัยที่ค้นพบว่าร่างกายของผู้ป่วยที่รับประทานสารสกัดจากอบเชยเป็นประจำสามารถควบคุมปริมาณน้ำตาลกลูโคสให้สมดุลได้ดี
6. อาหารเสริม COenzymeQ10
เพื่อนๆ ผู้อ่านคงจะคุ้นหูกับชื่อของ COenzymeQ10 ซึ่งเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระชนิดหนึ่งกันเป็นอย่างดี ซึ่งเจ้าโคเอ็นไซม์คิวเท็นนี้ยังสามารถช่วยบรรเทาอาการอักเสบของร่างกายที่เกิดจากภาวะเสี่ยงเบาหวานได้เป็นอย่างดี และทำให้อาการดีขึ้นตามลำดับ
7. โสม
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า โสม คือสุดยอดสมุนไพรช่วยเร่งอัตราการทำงานของระบบเผาผลาญที่มีประสิทธิภาพสูง อีกทั้งยังช่วยเผาผลาญไขมันในระดับที่เร็วขึ้นได้อีกด้วย ทำให้ปริมาณน้ำตาลกลูโคลสอยู่ในระดับปกติ ลดภาวะเสี่ยงเบาหวานได้ดีเลยทีเดียวค่ะ
อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่า ภาวะเสี่ยงเบาหวาน ยังสามารถควบคุมได้หากเพื่อนๆ มีระเบียบวินัยต่อตนเอง และความตั้งใจ เพราะถ้าหากภาวะเสี่ยงนี้ได้พัฒนาไปสู่โรคเบาหวานแล้วก็อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนได้อีกมากมายซึ่งรับรองว่าไม่คุ้มที่จะเสี่ยงแน่นอน
Source: www.davidwolfe.com