ภาพชวนทึ่ง! ตึกระฟ้าแห่งดูไบ สูงทะลุหมอก สวยงามดุจดินแดนสวรรค์

ภาพชวนทึ่ง! ตึกระฟ้าแห่งดูไบ สูงทะลุหมอก สวยงามดุจดินแดนสวรรค์

มหานครดูไบ แห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เมืองกลางทะเลทรายที่แสดงความหมายของคำว่า “ศิวิไลซ์” ได้ดีที่สุด ตั้งแต่ความก้าวล้ำของเทคโนโลยี ตึกระฟ้าหลายร้อยตึกที่มีมูลค่ามหาศาลและมีการดีไซน์ล้ำยุคดุจอนาคต ซึ่งตึกระฟ้าแห่งมหานครดูไบก็เป็นดั่งแลนด์มาร์คหรือสัญลักษณ์ประจำปะเทศที่แสดงถึงระบบทุนนิยมและความเป็นมหาเศรษฐีของประชากร ซึ่งถ้าใครอยากไปท่องเที่ยวชมตึกระฟ้าแห่งดูไบในรูปแบบที่ไม่เหมือนใครต้องไปช่วงที่มี “หมอกลง” ที่จะทำให้คุณทึ่งกับวิวทิวทัศน์สวยงามมหัศจรรย์ที่เรียกได้ว่าเป็นปรากฏการณ์หายาก


     แค่เห็นภาพตึกระฟ้าที่โผล่ทะลุเมฆหมอกออกมาจากแค่ในภาพถ่ายก็ทำให้รู้สึกทึ่งและน่าตื่นตาตื่นใจกับทัศนียภาพสุดแฟนตาซีจนอยากที่จะไปเห็นของจริง ซึ่งภาพเหล่านี้ได้ถูกบันทึกในตอนที่หมอกได้ปกคลุมมหานครดูไบไว้ทั่วทั้งเมืองและได้สร้างภาพวิวทิวทัศน์สุดมหัศจรรย์ขึ้นมา ตึกระฟ้าชื่อดังอย่างบุรจญ์เคาะลีฟะฮ์ก็ได้โผล่ขึ้นมาจากเมฆหมอกตั้งตระหง่านอย่างน่าทึ่งดุจดินแดนแห่งความฝัน ซึ่งช่วงเวลาระหว่างวันยังทำให้มหานครท่ามกลางหมอกให้ความรู้สึกต่างกัน ตั้งแต่ตอนกลางวันที่ทำให้เห็นหมอกท่ามกลางท้องฟ้าสีฟ้า ตอนพระอาทิตย์ตกที่แสงอาทิตย์จะสาดส่องย้อมสีหมอกให้กลายเป็นสีส้มทำให้ดูเหมือนเป็นเนินทะเลทราย และตอนกลางคืนไฟจากมหานครเบื้องล่างทั้งไฟตึก ไฟรถยนต์ หรือแม้แต่เสาไฟ ก็มีอิทธิพลต่อสีของเมฆหมอกหลากสีสันกับแบคกราวด์ยามราตรี


     วิธีที่จะชมตึกระฟ้าแห่งมหานครดูไบท่ามกลางเมฆหมอกในวิวที่สวยงามที่สุด จะต้องอยู่บนตึกสูง คอนโดมีเนียมระดับร้อยชั้นหรือเพ้นท์เฮาส์วิวเมืองสุดหรูเท่านั้น ซึ่ง Rustam Azmi นักธุรกิจชาวอินเดียที่อาศัยอยู่ในดูไบกว่า 28 ปี ได้เก็บภาพมหานครดูไบท่ามกลางเมฆหมอกมาจากตึกระฟ้าชั้น 88 โดยเขาได้ตื่นมาตอนตี 4 และพบว่าหมอกกำลังเข้าปกคลุมเมืองจนหนาทึบเกิดเป็นภาพสุดมหัศจรรย์นี้ขึ้นมา ซึ่งดูไบจะมีหมอกหนาทั้งหมด 2 ครั้งต่อปี แต่ยากที่จะทำนายว่าหมอกจะก่อตัวขึ้นเมื่อไร โดยล่าสุดหมอกได้ก่อตัวขึ้นในช่วงเดือนมีนาคม





เครดิต : dailymail