อย่าละเลย 10 สัญญาณอันตราย ที่บอกได้ว่าโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่จะมาเยือนคุณ
หากว่าคุณไม่ใส่ใจสุขภาพเท่าที่ควร ในเรื่องอาหารการกิน การพักผ่อนและวินัยการขับถ่าย นอกจากสุขภาพจะย่ำแย่แล้ว ยังเป็นสาเหตุของโรคร้ายที่น่ากลัวอย่างมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้
และเช่นเดียวกับโรคมะเร็งประเภทอื่น ๆ พบได้มากในวัยผู้ใหญ่ทั้งเพศหญิงและเพศชาย หากว่าคุณกำลังสงสัยว่าตัวเองกำลังเข้าข่ายของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่อยู่แล้วล่ะก็ ลองมาเช็คกันดูค่ะ จะได้หาทางรักษากันได้ทันท่วงที
1) ไม่สบายท้อง รวมทั้งปวดแสบร้อน อาหารไม่ย่อย และปวดเกร็ง
2) ท้องอืด ท้องแน่นตลอดเวลา ปวดท้องเป็นพัก ๆ เดี๋ยวปวด เดี๋ยวหาย
3) มีอาการท้องผูก สลับกับท้องเสีย อุจจาระแข็ง และเหลวสลับกัน
4) อุจจาระปนเลือดสด ๆ หรือเลือดสีคล้ำมาก ลักษณะอุจจาระเรียวยาวกว่าปกติ
5) ปวดท้องอยากอุจจาระ แต่ไม่มีอุจจาระออกมา เหมือนถ่ายไม่หมดอยู่ตลอด
6) อุจจาระมีมูกเลือดปน
7) คลื่นไส้ อาเจียน
8) น้ำหนักตัวลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
9) อ่อนเพลียหรืออ่อนแรง
10) โลหิตจาง
ทางเลือกในการรักษามะเร็งลำไส้ใหญ่ ทำได้โดยการเข้ารับการรักษาทางการแพทย์
– การผ่าตัด
– รังสีรักษา
– เคมีบำบัด
– การใช้ยาที่ออกฤทธิ์เฉพาะเจาะจงต่อเซลล์มะเร็ง (targeted therapy)
– การรักษาโดยการยับยั้งกระบวนการสร้างเส้นเลือดใหม่ (angiogenesis)
การป้องกันตนเองจากมะเร็งลำไส้ใหญ่
– ควบคุมและรักษาน้ำหนักตนเองให้พอดีไม่อ้วนและไม่ผอมเกินไป
– หลีกเลี่ยงการกินเนื้อแดง หรือเนื้อสัตว์ใหญ่ เช่น วัว ควาย แพะ แกะ หมู ฯลฯ มากเกิน
– กินอาหารที่ให้ไฟเบอร์มาก ๆ กินผัก ผลไม้ให้เพียงพอ และทานให้ได้ทุกวัน
– เสริมวิตามินรวมที่มีกรดโฟลิค (folic acid) ทานได้จากผักใบเขียว และหากไม่เพียงพอสามารถปรึกษาแพทย์เพื่อทานวิตามินเสริมได้
– ออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน
– กินแคลเซียมให้มากพอทุกวัน ทานได้จากผลิตภัณฑ์จากนม ถั่วเหลือง ปลาเล็กปลาน้อย
– ฝึกการขับถ่ายให้เป็นนิสัย ในตอนเช้าทุกวัน
หากคุณสังเกตได้ว่ามีอาการดังกล่าวข้างต้น มีปัญหากับระบบย่อยอาหารและการขับถ่าย ให้สันนิษฐานว่าคุณอาจจะมีความผิดปกติของลำไส้ใหญ่ หรืออาจจะเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ก็ได้ค่ะ หากอาการยังไม่รุนแรงมากถึงขั้นเป็นโรคมะเร็ง เพียงปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอาจทำให้อาการดีขึ้นได้ ควบคู่กับการรักษาพยาบาลจากแพทย์ โอกาสจะหายขาดก็มีได้มากขึ้น
ที่มา…http://www.share-si.com/2016/11/10_66.html
หากว่าคุณไม่ใส่ใจสุขภาพเท่าที่ควร ในเรื่องอาหารการกิน การพักผ่อนและวินัยการขับถ่าย นอกจากสุขภาพจะย่ำแย่แล้ว ยังเป็นสาเหตุของโรคร้ายที่น่ากลัวอย่างมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้
และเช่นเดียวกับโรคมะเร็งประเภทอื่น ๆ พบได้มากในวัยผู้ใหญ่ทั้งเพศหญิงและเพศชาย หากว่าคุณกำลังสงสัยว่าตัวเองกำลังเข้าข่ายของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่อยู่แล้วล่ะก็ ลองมาเช็คกันดูค่ะ จะได้หาทางรักษากันได้ทันท่วงที
1) ไม่สบายท้อง รวมทั้งปวดแสบร้อน อาหารไม่ย่อย และปวดเกร็ง
2) ท้องอืด ท้องแน่นตลอดเวลา ปวดท้องเป็นพัก ๆ เดี๋ยวปวด เดี๋ยวหาย
3) มีอาการท้องผูก สลับกับท้องเสีย อุจจาระแข็ง และเหลวสลับกัน
4) อุจจาระปนเลือดสด ๆ หรือเลือดสีคล้ำมาก ลักษณะอุจจาระเรียวยาวกว่าปกติ
5) ปวดท้องอยากอุจจาระ แต่ไม่มีอุจจาระออกมา เหมือนถ่ายไม่หมดอยู่ตลอด
6) อุจจาระมีมูกเลือดปน
7) คลื่นไส้ อาเจียน
8) น้ำหนักตัวลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
9) อ่อนเพลียหรืออ่อนแรง
10) โลหิตจาง
ทางเลือกในการรักษามะเร็งลำไส้ใหญ่ ทำได้โดยการเข้ารับการรักษาทางการแพทย์
– การผ่าตัด
– รังสีรักษา
– เคมีบำบัด
– การใช้ยาที่ออกฤทธิ์เฉพาะเจาะจงต่อเซลล์มะเร็ง (targeted therapy)
– การรักษาโดยการยับยั้งกระบวนการสร้างเส้นเลือดใหม่ (angiogenesis)
การป้องกันตนเองจากมะเร็งลำไส้ใหญ่
– ควบคุมและรักษาน้ำหนักตนเองให้พอดีไม่อ้วนและไม่ผอมเกินไป
– หลีกเลี่ยงการกินเนื้อแดง หรือเนื้อสัตว์ใหญ่ เช่น วัว ควาย แพะ แกะ หมู ฯลฯ มากเกิน
– กินอาหารที่ให้ไฟเบอร์มาก ๆ กินผัก ผลไม้ให้เพียงพอ และทานให้ได้ทุกวัน
– เสริมวิตามินรวมที่มีกรดโฟลิค (folic acid) ทานได้จากผักใบเขียว และหากไม่เพียงพอสามารถปรึกษาแพทย์เพื่อทานวิตามินเสริมได้
– ออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน
– กินแคลเซียมให้มากพอทุกวัน ทานได้จากผลิตภัณฑ์จากนม ถั่วเหลือง ปลาเล็กปลาน้อย
– ฝึกการขับถ่ายให้เป็นนิสัย ในตอนเช้าทุกวัน
หากคุณสังเกตได้ว่ามีอาการดังกล่าวข้างต้น มีปัญหากับระบบย่อยอาหารและการขับถ่าย ให้สันนิษฐานว่าคุณอาจจะมีความผิดปกติของลำไส้ใหญ่ หรืออาจจะเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ก็ได้ค่ะ หากอาการยังไม่รุนแรงมากถึงขั้นเป็นโรคมะเร็ง เพียงปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอาจทำให้อาการดีขึ้นได้ ควบคู่กับการรักษาพยาบาลจากแพทย์ โอกาสจะหายขาดก็มีได้มากขึ้น
ที่มา…http://www.share-si.com/2016/11/10_66.html