กระเจี๊ยบเขียวเป็นพืชที่นิยมปลูกกันมากในประเทศไทย เพราะสามารถปลูกขึ้นได้ทุกภาค แต่อันที่จริงแล้วมีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศเอธิโอเปีย ซึ่งอยู่ในแถบศูนย์สูตรของทวีปแอฟริกา อียิปต์ เอเชียใต้ และหมู่เกาะอินเดียตะวันตก โดยนิยมปลูกกันมากในเขตร้อนและเขตอบอุ่น
กระเจี๊ยบเขียวยังเป็นสมุนไพรที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ เนื่องจากมีสารอาหารหลากหลายชนิด ได้แก่ คาร์โบไฮเดรต โปรตีน กากใยอาหาร แคลเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม เหล็ก และวิตามินต่างๆ
1. ยาบำรุงกระดูกและข้อ รับประทานผลกระเจี๊ยบเขียวสดจำนวน 3 ผล หรือต้มกับหอมแดงที่มีขนาดใหญ่ 1 หัวแล้วรับประทาน จะช่วยบำรุงร่างกายและทำให้กระดูกหรือข้อมีความยืดหยุ่นดี
2. ยารักษาโรคกระเพาะอาหาร นำฝักอ่อนของกระเจี๊ยบเขียวมาหั่นแล้วตากแดด จากนั้นบดให้ละเอียดแล้วชง 1 ช้อนโต๊ะ ให้ละลายกับน้ำ น้ำผลไม้ นม หรืออาหารอ่อนๆ โดยรับประทานวันละ 3 – 4 ครั้ง หลังอาหาร จะช่วยรักษาโรคกระเพาะอาหารแล้วยังลดความเสี่ยงต่อการเกิดแผลในกระเพาะอาหารอีกด้วย
3. ยาแก้ปวดท้อง ใช้รากกระเจี๊ยบเขียวฝนกับน้ำสะอาดแล้วรับประทาน
4. ยาแก้พยาธิตัวจี๊ด นำรากของต้นกระเจี๊ยบเขียวและกระเจี๊ยบแดงมาต้มรับประทาน หรือนำผลกระเจี๊ยบเขียวที่ยังอ่อนๆ มาต้มหรือย่างไฟให้สุกแล้วจิ้มกับน้ำพริกรับประทานอย่างน้อยวันละ 4 – 5 ผล วันละ 3 เวลา ติดต่อกันเป็นระยะเวลา 15 วัน
5. ยาแก้ท้องผูก เพียงรับประทานกระเจี๊ยบเขียวหรือนำมาปรุงอาหารแล้วรับประทานเป็นประจำ จะช่วยให้ขับถ่ายสะดวกและยังทำให้ระบบการดูดซึมสารอาหารดีขึ้น
6. ยาทาบรรเทาอาการผิวหนังไหม้ นำผลกระเจี๊ยบอ่อนมาบดให้ละเอียดแล้วพอกบนผิวหนังที่มีอาการไหม้ เมือกลื่นๆ จะช่วยทำให้ผิวหนังชุ่มชื้นและบรรเทาอาการปวดแสบปวดร้อน
7. ยารักษาแผลสด ยางของผลกระเจี๊ยบเขียวสดจะช่วยรักษาแผลสดให้หายไวและไม่เป็นแผลเป็น อย่างเช่นหากถูกของมีคมบาด ให้ใช้ยางจากฝักกระเจี๊ยบสดมาทาแผล
กระเจี๊ยบเขียวยังเป็นสมุนไพรที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ เนื่องจากมีสารอาหารหลากหลายชนิด ได้แก่ คาร์โบไฮเดรต โปรตีน กากใยอาหาร แคลเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม เหล็ก และวิตามินต่างๆ
1. ยาบำรุงกระดูกและข้อ รับประทานผลกระเจี๊ยบเขียวสดจำนวน 3 ผล หรือต้มกับหอมแดงที่มีขนาดใหญ่ 1 หัวแล้วรับประทาน จะช่วยบำรุงร่างกายและทำให้กระดูกหรือข้อมีความยืดหยุ่นดี
2. ยารักษาโรคกระเพาะอาหาร นำฝักอ่อนของกระเจี๊ยบเขียวมาหั่นแล้วตากแดด จากนั้นบดให้ละเอียดแล้วชง 1 ช้อนโต๊ะ ให้ละลายกับน้ำ น้ำผลไม้ นม หรืออาหารอ่อนๆ โดยรับประทานวันละ 3 – 4 ครั้ง หลังอาหาร จะช่วยรักษาโรคกระเพาะอาหารแล้วยังลดความเสี่ยงต่อการเกิดแผลในกระเพาะอาหารอีกด้วย
3. ยาแก้ปวดท้อง ใช้รากกระเจี๊ยบเขียวฝนกับน้ำสะอาดแล้วรับประทาน
4. ยาแก้พยาธิตัวจี๊ด นำรากของต้นกระเจี๊ยบเขียวและกระเจี๊ยบแดงมาต้มรับประทาน หรือนำผลกระเจี๊ยบเขียวที่ยังอ่อนๆ มาต้มหรือย่างไฟให้สุกแล้วจิ้มกับน้ำพริกรับประทานอย่างน้อยวันละ 4 – 5 ผล วันละ 3 เวลา ติดต่อกันเป็นระยะเวลา 15 วัน
5. ยาแก้ท้องผูก เพียงรับประทานกระเจี๊ยบเขียวหรือนำมาปรุงอาหารแล้วรับประทานเป็นประจำ จะช่วยให้ขับถ่ายสะดวกและยังทำให้ระบบการดูดซึมสารอาหารดีขึ้น
6. ยาทาบรรเทาอาการผิวหนังไหม้ นำผลกระเจี๊ยบอ่อนมาบดให้ละเอียดแล้วพอกบนผิวหนังที่มีอาการไหม้ เมือกลื่นๆ จะช่วยทำให้ผิวหนังชุ่มชื้นและบรรเทาอาการปวดแสบปวดร้อน
7. ยารักษาแผลสด ยางของผลกระเจี๊ยบเขียวสดจะช่วยรักษาแผลสดให้หายไวและไม่เป็นแผลเป็น อย่างเช่นหากถูกของมีคมบาด ให้ใช้ยางจากฝักกระเจี๊ยบสดมาทาแผล